นนทบุรี 16 ธ.ค.- รองนายกรัฐมนตรีเผยเร่งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจประมงไทยทั้งระบบให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง หลังหลายปีเจอปัญหากระทบมากมาย พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาโครงการน้ำมันเขียวในทะเลด้วยโดยมอบหมายให้กรมสรรพสามิตกรมศุลกากร กรมเจ้าท่าไปศึกษาหาทางช่วยเหลือด่วน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทะเล เพื่อฟื้นฟูการประมงทะเลและอุตสาหกรรมการประมง ครั้งที่ 3/2566 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนว่า โดยที่ประชุมรับทราบ 1) มติที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาและเสนอแนะการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกิจการประมงให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการประมงและกิจการประมงทั้งระบบ รวมถึงพัฒนาการในการแก้ไขพระราชกำหนดการประมงมาจนถึงปัจจุบัน 2) ความก้าวหน้าการดำเนินการของคณะอนุกรรมการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องกับภาคการประมง และ 3) การแก้ไขปัญหาโครงการน้ำมันเขียวในเขตต่อเนื่อง
ทัังนี้ ยังได้มีการพิจารณา 1) ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2) ความเคลื่อนไหวของ EU และ NGO ในต่างประเทศ เรื่อง การแก้ไขพระราชกำหนดการประมงของประเทศไทย
นอกจากนี้ ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ปรึกษานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงผลประชุมหารือแก้ไขปัญหาโครงการน้ำมันเขียวในเขตต่อเนื่อง กรณีสมาคมผู้ค้าน้ำมันประมงในเขตต่อเนื่องได้เข้าพบรองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยแก้ไขปัญหาโครงการน้ำมันเขียวในเขตต่อเนื่อง 5 ประเด็น ได้แก่ การอนุญาตให้ผู้ประกอบการนำน้ำมันดีเซลออกไปจำหน่ายในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักรไทย การกำหนดหน่วยงานที่มีหน้าที่รับรองความถูกต้องของเรือประมงที่เข้าโครงการน้ำมันเขียว การให้เรือที่ใช้บรรทุกน้ำมันและเป็นสถานีบริการน้ำมันในเขตต่อเนื่องได้ใช้น้ำมันเขียวกับเครื่องยนต์เรือของตัวเองได้ การหาแนวทางหรือช่วยเหลือให้โครงการน้ำมันเขียวของรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาช่วยเหลือชาวประมง และการกำหนดหน่วยงานที่ควบคุมเรือบริการในโครงการน้ำมันเขียว ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายกรมประมง กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมเจ้าท่าพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้สอดคล้องกับบริบทและวิถีการทำการประมงที่เป็นจริงในปัจจุบันกันต่อไป.-514-สำนักข่าวไทย