กัมพูชา 24 พ.ย. – ปี 67 โออาร์ทุ่ม 8 พันล้านบาท ขยายธุรกิจในต่างประเทศ วางกลยุทธ์กัมพูชาเป็นบ้านหลังที่ 2
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เปิดเผยว่า โออาร์มุ่งเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่โออาร์ดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา ซึ่งโออาร์ได้วางกลยุทธ์ให้เป็นบ้านหลังที่ 2 ด้วยการมุ่งเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงแสวงหาโอกาสร่วมกับพันธมิตรทั้งจากประเทศไทยและพันธมิตรในพื้นที่ รวมไปถึงการขยายธุรกิจไปในประเทศใหม่ๆ โดยได้วางงบลงทุนระยะ 5 ปี (ปี 2567-2571) ในส่วนของกลุ่มธุรกิจ Global เอาไว้ที่ 8,007 ล้านบาท มุ่งเน้นการขยายสถานีบริการ PTT Station และ Café Amazon และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่มีศักยภาพ เช่น ประเทศกัมพูชา เนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพมาก โดยมีการเติบโตของจีดีพีที่ระดับ 5% และมีค่าการตลาดเสรี ประกอบกับธุรกิจต่างๆ ที่โออาร์ได้ขยายเข้ามาในพื้นที่กัมพูชาก่อนหน้านี้มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2567 บริษัทได้เตรียมงบลงทุนราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รองรับการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะคลัง LNG ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2568 เบื้องต้นจะขาย LPG ให้กับภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก ก่อนขยายไปยังลูกค้าอาคารพาณิชย์
นายรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจต่างประเทศ โออาร์ กล่าวว่า ในประเทศกัมพูชา โออาร์ดำเนินธุรกิจทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility ได้แก่ การจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ PTT Station คลังเก็บผลิตภัณฑ์ และธุรกิจหล่อลื่น PTT Lubricants รวมทั้งได้ร่วมลงทุนในบริษัทร่วมค้า เพื่อให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ณ สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในกรุงพนมเปญ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีกำหนดแล้วเสร็จไตรมาส 3 ปี 2567 รวมถึงแสวงหาโอกาสในการดำเนินธุรกิจพลังงานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Battery Swapping และสถานีชาร์จไฟฟ้า EV station PluZ และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มีการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ร้าน Café Amazon ร้านสะดวกซื้อ และร้านสะดวกซัก “อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย” Otteri Wash & Dry
ส่วนการลงทุนในประเทศเมียนมา คงต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากมีปัญหาการเมืองภายในประเทศ ส่วนลาว ก็วางเป้าเป็นแหล่งซัพพลายเม็ดกาแฟให้ประเทศต่างๆ ในอนาคต
ส่วนเวียดนาม โออาร์ได้จับมือกับเซ็นทรัล กรุ๊ป เข้าสู่ธุรกิจ Food and Beverage เนื่องจากเวียดนามยังไม่เปิดให้ต่างชาติลงทุนเปิดสถานีบริการน้ำมัน, ฟิลิปปินส์ ยังคงเดินหน้าจำหน่ายน้ำมันเครื่องบิน และขายให้อุตสาหกรรม
นายณัฐพงศ์ แก้วตระกูลพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.(กัมพูชา) จำกัด (PTTCL) กล่าวว่า PTTCL มุ่งมั่นที่จะขยายฐานการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในประเทศกัมพูชา โดยดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิด “Betterment for Cambodian Community and Lifestyle” ซึ่งให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโต ใน 3 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ กับพันธมิตรทั้งจากประเทศไทยและพันธมิตรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ สำหรับกลุ่มธุรกิจ Mobility PTTCL มีเครือข่ายคลังเก็บผลิตภัณฑ์ 6 แห่ง รองรับการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันอากาศยาน และปีหน้าบริษัทเตรียมงบลงทุนราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 1,700 พันล้านบาท ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ อาทิ คลังน้ำมันและก๊าซ LPG โรงงานผสมยางมะตอย รวมทั้งยังจะเพิ่มสถานีบริการ PTT Station อีก 27 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 172 แห่งในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศกัมพูชา และสิ้นปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 แห่ง ปัจจุบันสถานีบริการ PTT Station ในกัมพูชามีมาร์เก็ตแชร์ 17.3% เป็นอันดับ 2 รองจากอันดับ 1 คือ Tela บริษัทน้ำมันในประเทศ ที่มีมาร์เก็ตแชร์ 39.3%
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนคลัง LPG ความจุ 2,200 ตัน โดยใช้งบลงทุนรวม 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดต้นปีหน้าจะเริ่มเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้าง และมีกำหนดเปิดดำเนินการในปี 2568 เบื้องต้นจะจำหน่าย LPG ให้กับภาคอุตสาหกรรมก่อน จากนั้นจะขยายไปจำหน่ายให้กับกลุ่มอาคารพาณิชย์ และยังมองการลงทุนธุรกิจยางมะตอยด้วย
ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มีความโดดเด่นด้วยร้าน Café Amazon ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวกัมพูชาเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีร้าน Café Amazon จำนวน 231 สาขา และยังมีร้านสะดวกซื้อ 61 สาขา และร้านสะดวกซัก “อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย” Otteri Wash & Dry ซึ่งเป็นการนำพันธมิตรของ OR ไปบุกเบิกตลาดร้านสะดวกซักในประเทศกัมพูชา เพื่อสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบของผู้บริโภค การใช้พลังงานไฟฟ้า เช่น การนำร่องติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาสถานีบริการ PTT Station สาขา Chbar Ampov การติดตั้งและเปิดให้บริการสถานีชาร์จ EV Station PluZ ในประเทศกัมพูชาแล้ว 3 แห่ง
Cafe Amazon ปัจจุบันมี 231 สาขา มีมาร์เก็ตแชร์ 23% ซึ่งปีหน้าบริษัทมีแผนจะขยายเพิ่มอีก 31 สาขา ตั้งเป้ากำไรจากการดำเนินงานของบริษัท รวม 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,575 ล้านบาท ในปี 2028
นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการดูแลชุมชนผ่านการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอีกหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Café Amazon for Chance การมอบทุนการศึกษา การเปิดพื้นที่ในสถานีบริการ PTT Station ให้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าสำหรับเกษตรกร เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย OR 2030 ใน 3 มิติอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ OR “Empowering All toward Inclusive Growth” เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย