กรุงเทพฯ 17 พ.ย. – ตลท.เปิดข้อมูล short sell เพิ่มเติม ภายใต้เงื่อนไข ราคาหุ้น บวกลบ 10% และมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน เริ่มวันนี้ (17 พ.ย.)
นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กรและกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการเผยแพร่ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน หลังเกิดความไม่เชื่อมั่นและทำให้นักลงทุนรายย่อยมองว่า เสียเปรียบนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนต่างชาติ กรณีการทำ short sell ทั้งนี้ ข้อมูลสำคัญที่ผู้ลงทุนให้ความสนใจ ประกอบด้วย 1.ข้อมูลเดิมที่เผยแพร่อยู่แล้ว ได้แก่ ธุรกรรมขายชอร์ต (Short Selling) และใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (NVDR: Non-Voting Depository Receipt)
และ 2.ข้อมูลที่เผยแพร่เพิ่มเติม คือ การส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นโดยใช้โปรแกรม (Program Trading) สรุปปริมาณการซื้อขายสิ้นวัน และยังมีการสรุปคำสั่งซื้อขายหุ้นรายตัวโดยใช้โปรแกรม ภายใต้เงื่อนไข การเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น บวกลบร้อยละ 10 ขึ้นไป และมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป โดยเป็นหุ้นที่อยู่ใน SET หรือ mai เพื่อดูความผิดปกติของราคาหุ้นที่มีการชอร์ตเซล
อย่างไรก็ตาม พร้อมที่จะมีการทบทวนเงื่อนไขการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติม หากข้อมูลหุ้นรายตัวที่มีการชอร์ตเซลมีปริมาณน้อยหรือไม่เพียงพอต่อความต้องการนักลงทุน พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่พบการทำ Naked Short Selling หรือ การยืมหุ้นมาขายโดยที่ไม่มีหุ้นอยู่ในครอบครอง (จับสือมือเปล่า) ซึ่งถือว่ามีความผิดตามกฏหมาย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ มีกระบวนการตรวจสอบ จากคำสั่งซื้อขายที่จะมีการบันทึกเวลาที่มีการทำธุรกรรม (Timestamp ) และรวบรวมโดยบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) ซึ่งหากพบว่าช่วงเวลาที่มีการขายไม่ได้มีหุ้นอยู่ในครอบครองจะต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และประสาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินการเอาผิดเพิ่มเติมต่อไป
ส่วนกรณีที่นักลงทุนรายย่อย นัดหยุดเทรดในวันที่ 20 พ.ย.นี้ หลังกังวลการทำธุรกรรม Short Sell และการใช้ระบบส่งคำสั่งซื้อขายความถี่สูง (HFT) มองว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์ มีการปรับปรุงการเผยแพร่ข้อมูล เพิ่มเติมการเผยแพร่ข้อมูล ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน มีข้อมูลที่เพียงพอสามารถนำไปพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนได้. -สำนักข่าวไทย