กรุงเทพฯ 9 พ.ย. – MEA กำชับเพิ่มผู้รับจ้างก่อสร้างสายไฟฟ้าใต้ดินยืนยันมาตรการสูง กำชับคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัย ฝาบ่อคอนกรีตรับน้ำหนักบรรทุกได้ไม่น้อยกว่า 28 ตัน สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดที่ 25 ตัน
นายฐิติวุฒิ เงินคล้าย รองผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานในการประชุมชี้แจงผู้รับจ้าง เรื่องมาตรการกำกับและควบคุมการปฏิบัติงานก่อสร้างคืนสภาพผิวจราจรชั่วคราวบริเวณบ่อพักสายไฟฟ้าใต้ดิน และมาตรการด้านความปลอดภัยในงานก่อสร้างของ MEA โดยมีผู้บริหารและผู้แทนบริษัทผู้รับจ้างจากทุกโครงการเข้าร่วมประชุม เพื่อรับมอบนโยบายการดำเนินงานตามมาตรการฯ พร้อมร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาอุปสรรค เพื่อยกระดับการก่อสร้างให้สำเร็จตามแผนงานที่กำหนดไว้ ควบคู่ไปกับการทำงานที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชน โดยได้กำชับให้ดูแลตรวจสอบบ่อพักทุกที่เพิ่มเติมจากที่มาตรฐานดูแลอยู่ในระดับสูงสุดแล้วก็ตาม แต่จากเกิดเหตุวานนี้ก็ต้องเพิ่มการตรวจสอบเพื่อให้ประชาชนอุ่นใจมากขึ้น
ทั้งนี้ MEA มีการดำเนินโครงการงานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน 236.1 กม.จะก่อสร้างเสร็จสิ้นปี 2570 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างในหลายพื้นที่สำคัญ ทั้งในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ จำนวน 617 บ่อพัก 4 รูปแบบ โดยการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐาน ขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐในพื้นที่ มีวิศวกรควบคุมทุกขั้นตอนทั้งการก่อสร้างและการควบคุมงาน สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุก ตามมาตรฐานกรมทางหลวงบนผิวจราจร ซึ่ง MEA มีมาตรฐานการทำงาน ฝาบ่อคอนกรีตให้สามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้ไม่น้อยกว่า 28 ตัน (สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดที่ 25 ตัน) โดยตั้งแต่เริ่มก่อสร้างปี 2551 มาไม่เคยเกิดปัญาเช่นเมื่อวานนี้แต่อย่างใด โดยปัญหาที่เกิดจากรถบรรทุกในขณะนี้ได้ให้ผู้รับเหมาไปแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
MEA ในฐานะผู้ว่าจ้างการก่อสร้างโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ได้ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย รวมถึงผลกระทบต่อประชาชนในการก่อสร้าง จึงได้กำชับผู้รับจ้างให้ปฏิบัติตามมาตรการกำกับและควบคุมการปฏิบัติงานเพื่อคืนสภาพผิวจราจรชั่วคราวบริเวณบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินอย่างเข้มงวด ทั้งในเรื่องความสะอาดและความปลอดภัยโดยไม่ให้มีเศษวัสดุก่อสร้าง หรือเศษดินเข้าไปในท่อระบายน้ำอย่างเด็ดขาด ตรวจสอบและป้องกันดินจากการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าไหลเข้าไปในบ่อ อันอาจทำให้ผิวถนนทรุดตัว ตลอดจนตรวจเช็กฝาบ่อคอนกรีตทุกจุดว่ามีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย ตลอดจนจัดทีมสำรวจตรวจสอบความเสียหายของผิวถนน และจัดเตรียมทีมงานเพื่อซ่อมแซมฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุอย่างทันท่วงทีในทุกวัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับประชาชนหากพบว่ามีการดำเนินการก่อสร้างของ MEA ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย หรือพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุดอยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งเหตุได้ที่ MEA Call Center 1130 และช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง. -สำนักข่าวไทย