หอการค้าไทยฝาก 7 ข้อเสนอถึง รมว.เกษตรฯ 

กรุงเทพฯ 5 ต.ค.-ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฝาก 7 ข้อเสนอถึง รมว.เกษตรฯ ดันตั้ง กรอ.กษ. หวังเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันธุรกิจเกษตรและอาหารไทย


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าพบและหารือกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง และยื่นข้อเสนอภาคเอกชนในการยกระดับภาคเกษตรและอาหารของประเทศ ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายสนั่น กล่าวภายหลังการหารือว่า ได้นำเสนอประเด็นต่างๆ ของภาคเอกชนต่อการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรของประเทศไทย ทั้งนี้ หอการค้าฯ ต้องขอขอบคุณท่านฯ ที่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว และเดินหน้าพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน ขณะที่หอการค้าฯ ยืนยันการทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ไทยมีความพร้อมที่จะยกระดับภาคเกษตรไปสู่มูลค่าสูงได้มากกว่านี้ โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทของเกษตรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยี เพื่อต่อยอดและขยายผลไปในแต่ละจังหวัด ซึ่งภาคเอกชนอยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสนับสนุนแหล่งเงินทุน มาตรการลดต้นทุนภาคการเกษตร และการบริหารจัดการน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ซ้ำซาก อย่างเป็นระบบ ขณะที่หอการค้าฯ และภาคเอกชน พร้อมสนับสนุนองค์ความรู้ รวมถึงถ่ายทอดเทคโนโลยีต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศไปพร้อมกัน


อย่างไรก็ตาม วันนี้ ประเทศไทยมีจุดเด่นและความพร้อมพื้นฐานด้านการเกษตร ทั้งในเชิงปริมาณพื้นที่เพาะปลูก จำนวนเกษตรกร สภาพภูมิอากาศ แต่ขณะเดียวกัน มูลค่าการส่งออกและรายได้ของเกษตรกรยังไม่เพิ่มสูงเท่าที่ควร ดังนั้น ทุกฝ่ายจำเป็นต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ยกตัวอย่าง ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ถึงแม้จะมีพื้นที่เล็กกว่าไทยถึง 12 เท่า แต่สามารถสร้างรายได้ในภาคเกษตรต่อประชากรสูงกว่าไทยถึง 10 เท่า นี่จึงถือเป็นโอกาสที่ไทยต้องเรียนรู้รูปแบบการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีและงานวิจัยต่อยอดผลผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพสูง ซึ่งส่วนนี้หอการค้าฯ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งในอนาคตหากสามารถยกระดับการทำเกษตรสมัยใหม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม เกษตรกรกว่า 27 ล้านคน ที่ถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศจะมีรายได้สูงขึ้น เกิดการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และสามารถลดความเหลื่อมล้ำที่เป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลได้อย่างแท้จริง นายสนั่น กล่าว 

นอกจากนี้ หอการค้าไทยได้ขอให้กระทรวงเกษตรฯ พิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชน หรือ กรอ.กษ. ซึ่งจะช่วยสร้างความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และมีความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด รวมถึงยื่นข้อเสนอแนะเร่งด่วนของธุรกิจเกษตรและอาหาร ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อร่วมขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาผ่านคณะกรรมการ กรอ.กษ 

ทั้งนี้ มีข้อเสนอใน 7 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย


1) การส่งเสริมความมั่นคงและความยั่งยืนด้านอาหาร (Food Safety and Food Security) ซึ่งภาคเกษตรเป็นส่วนสำคัญที่มีการขับเคลื่อนในเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจ APEC โดยการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปคได้เห็นชอบในการผลักดันให้ดำเนินงานส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหารในภูมิภาคเอเปค รวมถึงการหารือเกี่ยวกับนโยบายแนวทางในการรับมือกับประเด็นท้าทายด้านความมั่นคงอาหาร ความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (Climate Change) ซึ่งหอการค้าฯ ยินดีร่วมขับเคลื่อนนโยบาย 3S ได้แก่ Safety, Security และ Sustainability เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยอาหารให้ได้มาตรฐานสากล ตลอดจนร่วมส่งเสริมการขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วย BCG Model เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า สินค้าเกษตรและอาหารของไทย มีผลผลิตที่มีความปลอดภัยและมีคุณภาพมาตรฐาน พร้อมเป็นครัวโลก 

2) การรักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางทะเล เสนอให้กระทรวงเกษตรฯ ประสานงานสมาคมการค้าและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมขับเคลื่อนและรักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางทะเล ด้วยมาตรการป้องกันปัญหาการประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU Fishing ตลอดจนการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เพื่อยกระดับอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) ของประเทศไทยให้อยู่ในระดับ Tier 1 ในปี 2024

3) การสร้างความสมดุลภาคธุรกิจเกษตรและอาหาร เสนอให้กระทรวงเกษตรฯ กำหนดนโยบายเพื่อสร้างความสมดุลและเสถียรภาพการนำเข้า-ส่งออกภาคเกษตรและอาหาร ระหว่างเกษตรกร และผู้ประกอบการส่งออก เพื่อให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างความมั่นคงและความยั่งยืนด้านเกษตรและอาหารของไทย

4) การส่งเสริมการสร้างเกษตรมูลค่าสูงผ่านการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ (Area-based) ซึ่งที่ผ่านมาหอการค้าฯ ได้มีการขับเคลื่อนเกษตรมูลค่าสูงที่ถือเป็นศักยภาพและโอกาสที่สำคัญของประเทศไทย โดยใช้จังหวัดเป็นผู้นำการขับเคลื่อนเนื่องจากมีความเข้าใจในศักยภาพของพื้นที่ โดยขับเคลื่อนในพื้นที่นำร่องแล้ว 7 จังหวัด รวมถึงตั้งเป้าขยายพื้นที่จังหวัดเป้าหมายเพิ่มเติมอีก 5 จังหวัด ในปี 2567 ได้แก่ ชัยนาท เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ อุบลราชธานี และพัทลุง 

5) การส่งเสริมธุรกิจอาหารแปรรูปและอาหารแห่งอนาคต เสนอให้ผลักดันการจัดทำระบบอาหารที่มีการกล่าวอ้างอาหารเชิงหน้าที่ (FFC Thailand) เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกระดับสามารถยืนยันการกล่าวอ้างเชิงสุขภาพด้วยเอกสารหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในรูปแบบออนไลน์ โดยครอบคลุมผลผลิตการเกษตร อาหารปรุงสด และอาหารท้องถิ่น เพื่อพัฒนาไปสู่การผลิตอาหารมูลค่าสูง พร้อมทั้งส่งเสริมนโยบายและขับเคลื่อนธนาคารอาหารของประเทศไทย (Cloud Food Bank) เพื่อความมั่นคงทางอาหาร

6) การส่งเสริมธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยหอการค้าไทย เสนอให้สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาสายพันธุ์กุ้งปลอดโรค พร้อมทั้งสนับสนุนแนวทางส่งเสริมและลดภาระต้นทุนการเลี้ยงให้กับเกษตรกร รวมไปถึงห่วงโซ่อุตสาหกรรม (Value Chain) ตลอดจนลดภาษีการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นอาหารสัตว์ พร้อมทั้งได้ให้กระทรวงเกษตรฯ ส่งเสริมสินค้าเกษตร อาหาร ประมง และการอำนวยความสะดวกในการส่งออก-นำเข้า เพื่อการแก้ปัญหาวัตถุดิบภาคการประมงที่ไม่เพียงพอต่ออุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออก ควรมีการผ่อนปรนการนำเข้าวัตถุดิบสัตว์น้ำเพื่อแปรรูปเพิ่มมูลค่าและส่งออก ซึ่งต้องไม่กระทบกับเกษตรกรผู้เลี้ยงภายในประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและปกป้องสัตว์น้ำเศรษฐกิจของไทย ได้แก่ ปลากะพง ปลานิล และกุ้งก้ามกราม เป็นต้น

7) การส่งเสริมธุรกิจปศุสัตว์และแปรรูป เสนอให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งรัดยกระดับมาตรฐานฟาร์มปศุสัตว์ไทย โดยเฉพาะกลุ่มโคเนื้อ แพะเนื้อ และแพะนม พร้อมทั้งเสนอให้เร่งรัดการเพิ่มจำนวนโรงฆ่าสัตว์ โรงตัดแต่งเนื้อสัตว์ โรงคัดบรรจุ ที่ได้มาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practices) ทุกจังหวัดที่มีศักยภาพ ตลอดจนเร่งรัดปราบปรามผู้ลักลอบนำเข้าหรือส่งออกสินค้าปศุสัตว์อย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ร้านค้าสินค้าปศุสัตว์ (โดยเฉพาะตลาดสด) เข้าร่วมโครงการปศุสัตว์ OK เพื่อสร้างมาตรฐานสินค้าคุณภาพ และสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับแก่ผู้บริโภค เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]