“SPCG” ชี้ลดค่าไฟฟ้า 3.99 บาท เป็นการช่วยเหลือระยะสั้น

กรุงเทพฯ 20 ก.ย. – “SPCG” ชี้ลดค่าไฟฟ้า 3.99 บาท เป็นการช่วยเหลือระยะสั้น แนะปรับโครงสร้างค่าไฟเพื่อความมั่นคงระยะยาว


นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ “SPCG” กล่าวถึงกรณีรัฐบาลประกาศปรับลดค่าไฟฟ้าลงเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท ซึ่งต้องชื่นชมนายกฯ เศรษฐา ที่ทำตามที่ได้หาเสียงไว้ เพราะการลดค่าไฟฟ้าส่งผลดีต่อประชาชนและภาคอุตสาหกรรม เพราะทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนและภาคอุตสาหกรรมลดลง แต่ทั้งนี้อยากจะเห็นความมั่นคงระยะยาว ซึ่งการจะมั่นคงในระยะยาวได้ต้องมีนโยบายปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า เพราะโครงสร้างต่างๆ ยังเป็นของเดิม ดังนั้น มาตรการลดราคาพลังงานที่ออกมาล่าสุดเป็นเพียงการแบ่งเบาภาระประชาชนระยะสั้น และอาจสร้างภาระหนี้ให้กับภาครัฐ จึงจำเป็นต้องมีนโยบายการปรับโครงสร้างค่าไฟ เพื่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว พร้อมขอให้รัฐบาลปลดล็อกกฎระเบียบหลายอย่างที่มีความยุ่งยากและเป็นอุปสรรคในการสนับสนุนพลังงานสะอาดในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายการลงทุนไปที่อื่น

“การจะขอติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี การจะผลักดันให้ประเทศไปถึงเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน สู่เป้าหมาย Net Zero ต้องลดช่องว่าง จึงอยากฝากไปถึงนายกฯ ซึ่งเชื่อมั่นใน vision ว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีในภาคพลังงานในอนาคต” นางวันดี กล่าว


ส่วนผลการดำเนินงานปี 2566 คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว ตามการรับรู้รายได้ธุรกิจ Solar Roof ของบริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด (SPR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เนื่องจากในช่วงต้นปีค่าพลังงานมีราคาสูงมาก หลายองค์กรติดตั้ง Solar Roof ซึ่งขณะนี้บริษัทติดตั้ง Solar Roof ได้เกินเป้า 1,000 ล้านบาท ของปีนี้ไปแล้ว

ส่วนความคืบหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิต 500 เมกะวัตต์ สำหรับใช้ในพื้นที่เมืองใหม่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งล่าช้ามากว่า 3 ปี เนื่องจากอยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาตจาก EEC หากได้รับใบอนุญาตแล้วการก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยบริษัทได้ซื้อที่ดินจำนวน 3,000 ไร่ กระจายใน 3 จังหวัดพื้นที่ EEC ใช้

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโซลาร์ฟาร์มที่เกาะฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 480 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการราว 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการเมกะโซลาร์ฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีกำหนดดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ปี 2568.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง