โรม 4 ก.ค.-ไทยชูแนวทางศาสตร์พระราชาลดวิกฤตโลกร้อนภัยคุกคามความมั่นคงอาหาร
ในเวทีประชุมใหญ่เอฟ เอ โอ สมัยที่ 40 ยืนยันไทยพร้อมปฏิบัติตามความตกลงปารีส
สู่เป้าโร้ดแมปลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 20-25 ภายในปีค.ศ.
2030
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เปิดเผยในโอกาสเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมสมัชชาองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ
( FAO Conference ) สมัยที่ 40 ณ กรุงโรม อิตาลี ว่า ได้แสดงบทบาทของไทยในการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการพัฒนาด้านการเกษตรและความมั่นคงด้านอาหาร
และหารือความร่วมมือด้านการเกษตรในระดับทวิภาคีกับประเทศสมาชิก FAO โดยไทยเสนอในการประชุม FAO พร้อมสนับสนุน แลกเปลี่ยน
ประสบการณ์ ความสำเร็จ และองค์ความรู้กับประเทศสมาชิกในเรื่อง”ศาสตร์พระราชา” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 9
ที่ได้พระราชทานแนวทางการพัฒนาที่มีความลึกซึ้งรอบด้านและมองการณ์ไกลในเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รวมถึงการบริหารจัดการน้ำและดิน
พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มากกว่า 4,000 โครงการ อาทิ
ฝนหลวง โครงการแก้มลิง แก้ปัญหาน้ำเสียโดยใช้ “กังหันน้ำชัยพัฒนา”
ปลูกหญ้าแฝก เพื่อฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรดินและน้ำ การทำเกษตรทฤษฎีใหม่
สามารถยกระดับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี ถือเป็นแบบอย่างในการปฏิรูปการเกษตรที่รัฐบาลนี้นำมาเป็นแบบอย่าง
โดยได้กำหนดนโยบายพัฒนาการเกษตรและสร้างความมั่นคงด้านอาหารท่ามกลางผลกระทบของสภาพอากาศ
เช่น การพัฒนาองค์ความรู้ให้เกษตรกร ผ่าน
ศพก. 882 ศูนย์ฯ ทั่วประเทศ
โดยทำการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ ใช้ Agri-Map เป็นเครื่องมือ ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่( Collaborative
Farming) ใช้ทรัพยากรการผลิตร่วมกัน สินค้าเกษตร มีมาตรฐาน ส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรอินทรีย์
ที่ปราศจากสารเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กระจายน้ำจากแหล่งน้ำไปยังพื้นที่การเกษตร บริหารจัดการน้ำให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
ลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม และภัยแล้ง
ทำให้ผลผลิตด้านการเกษตรมีความมั่นคงมากขึ้น
“ไทยยืนยันการให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานร่วมกับ FAO ในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการพัฒนาด้านการเกษตรและความมั่นคงด้านอาหาร
เพื่อให้เป็นไปตามความตกลงปารีสซึ่งไทยร่วมเป็นภาคี โดยมีโร้ดแมปในการลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้
ร้อยละ 20-25 ภายในปีค.ศ.2030
รวมทั้งจัดทำแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นระยะเวลา 35 ปี ระหว่างปีค.ศ. 2015-2050
ซึ่งมีกรอบแนวทางดำเนินการ 3 ประการ คือ 1.การปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2.การลดก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการเติบโตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ 3.การสร้างขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯกล่าว-สำนักข่าวไทย