ธปท. เพิ่มศักยภาพผู้ใช้บริการ-ปรับปรุงเกณฑ์รองรับการเงินดิจิทัล

กรุงเทพ 15 ก.ย.-ผู้ว่าฯ ธปท. เตรียมเพิ่มศักยภาพผู้ใช้บริการ-ปรับปรุงเกณฑ์รองรับการเงินดิจิทัล มุ่งพัฒนาระบบนิเวศการเงินดิจิทัลและนวัตกรรมการเงิน

ภายในงาน BOT Digital Finance Conference 2023 ภายใต้แนวคิด Building Ecosystem for Responsible Innovation ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระหว่างวันที่ 14-15 ก.ย.2566 ณ ศูนย์การ เรียนรู้ ธปท. โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญ 85 รายจาก 15 ประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดในการ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเงินดิจิทัล การปรับใช้นวัตกรรมต่าง ๆ ในภาคการเงิน โดยเฉพาะ Artificial Intelligence (AI) การใช้ประโยชน์จาก Open Data และการสนับสนุนนวัตกรรมที่ดูแลความเสี่ยงบนพื้นฐาน ของความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม (responsible innovation) ทั้งนี้ การเสวนาเวทีหลักในวันที่ 14 ก.ย.2566 มีประเด็นสําคัญ ดังนี้


การพัฒนาระบบนิเวศเพื่อสนับสนุน responsible innovation โดยนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ได้กล่าวเปิดงาน หยิบยกหลักการ 3 O’s (Open Competition, Open Infrastructure และ Open Data) ว่า ยังคงเป็นพื้นฐานสําคัญของการพัฒนาระบบ นิเวศที่ส่งเสริมให้เกิด responsible innovation ทั้งนี้ ในอนาคต ธปท. จะให้ความสําคัญกับ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

(1) การพัฒนา common utility ที่เป็นเสมือนบริการสาธารณะของภาคการเงินดิจิทัล โดยเริ่ม จากการเพิ่มศักยภาพของผู้ใช้บริการทางการเงินด้วยการส่งเสริมสิทธิของผู้ใช้บริการในการส่งข้อมูลของตน ที่อยู่กับผู้ให้บริการทางการเงินแต่ละราย ไปให้ผู้ให้บริการรายอื่นได้ (data portability) เพื่อให้ผู้ใช้บริการ ดังกล่าวสามารถเข้าถึงบริการหรือแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมกับความต้องการยิ่งขึ้น ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม ทั้งนี้ ธปท. จะปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องและส่งเสริมการสร้างมาตรฐานในการรับส่งข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการต่าง ๆ ภายใต้การกํากับดูแลของ ธปท. เพื่อลดภาระต้นทุนและสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความปลอดภัยในการรับส่ง ข้อมูลตามความยินยอมของผู้ใช้บริการ รวมทั้งจะสนับสนุนให้เกิดการรับส่งข้อมูลจากภาคส่วนอื่น ๆ นอกจาก ภาคการเงิน และพัฒนา use cases ที่สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานทางการเงินร่วมกันได้ เพื่อลดต้นทุนและ เพิ่มประสิทธิภาพในภาพรวม


(2) การพัฒนาระบบนิเวศด้านการชําระเงินดิจิทัลที่เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานสําคัญ โดยผู้เล่นที่หลากหลายและสนับสนุนให้ไทยก้าวสู่ less-cash society ด้วยการปรับปรุงกฎเกณฑ์และทบทวน โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

(3) การพัฒนานวัตกรรมทางการเงินร่วมกับภาคธุรกิจภายใต้กรอบการดูแลความเสี่ยงที่ เหมาะสม โดยมี New Sandbox ที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น เปิดโอกาสให้ทดสอบ unregulated activities ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น tokenization ที่ช่วยให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ดีขึ้น และ programmability ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการชําระเงิน นอกจากนี้ ธปท. จะทํางานร่วมกับ stakeholders ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาการใช้ AI ในภาคการเงิน เช่น การตรวจจับและป้องกัน fraud รวมทั้งการส่งเสริม การเข้าถึงบริการทางการเงิน ทั้งนี้ ความร่วมมือจาก stakeholders ทุกภาคส่วนมีความสําคัญยิ่งต่อความสําเร็จในการ ผลักดัน priorities ข้างต้น ซึ่ง ธปท. หวังว่าจะได้ร่วมผลักดันประเด็นสําคัญเหล่านี้กับผู้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. และผู้ร่วมเสวนาใน หัวข้อ “Digital Infrastructure and Ecosystem for the Future of Financial Innovation” ได้เน้นย้ํา ประเด็นข้างต้น โดยเห็นร่วมกันว่าการจะผลักดันโครงสร้างพื้นฐานและสร้างระบบนิเวศ ที่สนับสนุนนวัตกรรมได้อย่างประสบความสําเร็จนั้น ต้องเริ่มจากการปรับ mindset ของทุกฝ่ายให้เปิดรับการ ใช้เทคโนโลยีขณะที่stakeholdersต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกันและสามารถประสานประโยชน์ระหว่างกันได้อยา่ง เหมาะสม รวมทั้งต้องเสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้ทางการเงินและความเข้าใจเกี่ยวกับบริการทางการเงิน ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นพื้นฐาน ตลอดจนสามารถจัดการกับภัยการเงินซง่ึ เป็นความเสี่ยงที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีได้


ขณะที่ ผู้ร่วมเสวนาหัวข้อ “PromptBiz: Bringing Business and Financing up to the Next Level” เห็นว่า ระบบ PromptBiz หรือ โครงสร้างพื้นฐานการชําระเงินกลางสําหรับภาคธุรกิจ จะช่วยให้ทําธุรกิจแบบดิจิทัลได้อย่างครบวงจร สามารถเชื่อมโยงข้อมูลการค้า การชําระเงิน และต่อยอดไปยังบริการอื่น เช่น การให้สินเชื่อ ช่วยลดค่าใช้จ่ายดําเนินงาน โดยเฉพาะ ที่เกี่ยวกับการออกและจัดส่งเอกสารต่าง ๆ รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทําธุรกิจ เนื่องจาก สามารถสอบเช็คข้อมูลระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การมี digital footprint ที่เชื่อถือได้ในระบบ ดังกล่าวยังจะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ด้วย ส่วนหน่วยงานภาครัฐ ก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและปรับกระบวนการต่าง ๆ ให้เป็นดิจิทัลได้ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง

ยังมีการเสวนาหัวข้อ “How Payment Innovation is Thriving in AI Era?” ที่ผู้ร่วมเสวนาเห็นว่า ผู้ให้บริการสามารถนํา AI มาปรับใช้ในด้าน payment ได้ตั้งแต่พื้นฐานของการให้บริการ กล่าวคือ ทําให้ ประชาชนสามารถใช้บริการได้ง่าย ปลอดภัย น่าเชื่อถือ และลดข้อกังวลจาก fraud รวมทั้งสามารถต่อยอด โดยใช้ AI วิเคราะห์ payment data เพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ / บริการที่ ตรงความต้องการยิ่งขึ้นได้ ทั้งนี้ ต้องคํานึงถึงประเด็นจริยธรรมและธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ซึ่งเป็นความ ท้าทายสําคัญด้วย

สําหรับ Fireside chat เรื่อง “From Visions into Action: What’s Next for Open Data?” ผู้ร่วมเสวนาได้เน้นย้ําความสําคัญของสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยปราศจากอุปสรรค (friction) ทั้งนี้ ต้องปรับปรุงกฎเกณฑ์การกํากับดูแลให้เหมาะสม รวมทั้งสร้างแรงจูงใจให้ทั้งผู้ประกอบธุรกิจ และประชาชนยอมรับแนวคิดเรื่อง open data โดยไม่จําเป็นต้องจํากัดไว้เฉพาะข้อมูลภาคการเงินเท่านั้น เนื่องจากยิ่งมีข้อมูลที่หลากหลายให้ต่อยอด จะยิ่งเป็นประโยชน์ ภาคการเงินจึงควรร่วมมือกับภาคธุรกิจอื่น ๆ เพื่อพัฒนา usecaseที่เหมาะสมกับแนวคิด OpenData อย่างแท้จริง

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แบ่งปันประสบการณ์ของการพัฒนา ให้กรุงเทพฯ เป็น “smart enough city” โดยใช้เทคโนโลยีเท่าที่เหมาะสม ตอบโจทย์ประชาชนได้ เน้นการเปิดเผยข้อมูลอย่างเต็มที่และการติดต่อราชการผ่านช่องทางดิจิทัล เพื่อเพิ่มความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่น และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการพัฒนาเมือง ปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร (Bangkok Metropolitan Administration หรือ BMA) ได้เปิดเผยข้อมูลจากหน่วยงานในกรุงเทพฯ กว่า 1,050 ชุดข้อมูล เช่น งบประมาณประจําปี การจัดซื้อจัดจ้าง ข้อมูลชุมชนและประชากร ข้อมูลการจราจร พื้นที่สีเขียว เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนสามารถนําไปต่อยอดพัฒนาโครงการ และนวัตกรรมต่าง ๆ ตลอดจนตรวจสอบความโปร่งใสในการดําเนินงานของ BMA ได้อย่างเต็มทรี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพจะนำปัญหาเข้าสู่ที่ประชุม JBC เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ก่อนที่ช่วงบ่าย คณะเสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ร่วมกับคณะ […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]