งาน ASEAN Sustainable Energy Week และ Electric Vehicle Asia 2023

กรุงเทพฯ 30 ส.ค. – กระทรวงพลังงานร่วมกับสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าและอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เชื่อมไทยสู่เวทีระดับภูมิภาค พร้อมรับมือวิกฤตโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาดในงาน ASEAN Sustainable Energy Week และ Electric Vehicle Asia 2023                                                                                                            


นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานเปิดงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASEW) และ Electric Vehicle Asia (EVA) 2023 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่  33 งานดังกล่าวจัดโดยอินฟอร์มามาร์เก็ตส์ เป็นมหกรรมเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ครบครันที่สุดของภูมิภาค

ทั้งนี้กระทรวงพลังงาน สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน พร้อมรับมือวิกฤตโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาด เดินหน้าเปิดงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASEW) และ Electric Vehicle Asia (EVA) 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่  33 งานมหกรรมเทคโนโลยีและการประชุมนานาชาติด้านพลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ครบครันที่สุดของภูมิภาค


สำหรับปัญหาเรื่อง การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Climate Change) กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่มีผลต่อทุกภูมิภาคในโลกส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทุกระบบนิเวศในวงกว้าง ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้มีการประกาศว่าโลกของเราก้าวข้ามจากยุค”ภาวะโลกร้อน” ไปสู่ “ภาวะโลกเดือด” และที่สำคัญมีการคาดการณ์ว่าหากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นอีก 1-2 องศาเซลเซียส จะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นวันนี้ทุกภาคส่วนต้องเตรียมพร้อมรับมือและทำงานร่วมกันเพื่อเร่งแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเร็ววัน ประเทศไทยวางเป้าหมายเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ จากความสำคัญดังกล่าวผนวกกับการขานรับนโยบายพลังงานสะอาดของไทย อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการจัดงานแสดงสินค้า และกิจกรรมทางธุรกิจระดับภูมิภาค สานต่อความร่วมมือกระทรวงพลังงาน สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมทั้งจากไทยและต่างประเทศ ร่วมกันเปิดงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASEW) และ ELECTRIC VEHICLE ASIA (EVA) 2023 เพื่อเชื่อมต่อโอกาส สร้างองค์ความรู้และขยายกรอบการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนขานรับนโยบายสำคัญขับเคลื่อนไทยเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาดสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน

รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคพลังงานได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน ดังนั้น ประเทศไทยจึงมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปีค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 โดยกระทรวงพลังงานได้เดินหน้าเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอนจากภาคพลังงานเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพลังงานชาติ (National Energy Plan: NEP) ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและพลังงานที่ยั่งยืน อาทิ การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดสำหรับการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าใหม่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในปี ค.ศ. 2040 รวมทั้งส่งเสริมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้มีสัดส่วนร้อยละ 30 ภายในปี ค.ศ.2030 โดยวางเป้าหมายที่สำคัญให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคสังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต ซึ่งกระทรวงพลังงานเชื่อมั่นว่าเวทีนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับทุกภาคส่วนเพื่อขานรับกับเป้าหมายของประเทศที่กำหนดไว้ต่อไป

นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า วันนี้ตามท้องถนนเราเห็นยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งสถานีชาร์จที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศกว่า  4,600 แห่ง โดยอุปสงค์ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐ อาทิ นโยบายลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการให้เงินอุดหนุน 18,000 บาทต่อคันสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐโดยทางสมาคมฯ เราถือเป็นอีกภาคส่วนที่เข้ามาเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าให้กับผู้ใช้งาน  ผู้ประกอบการ ตลอดจนผู้ผลิต ผ่านเวทีการจัดงานสำคัญระดับภูมิภาคอย่าง EVA 2023 โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 ภายในงานมีการจัดสัมมนาวิชาการ iEVTech 2023 ในหัวข้อ Shaping the Future of Electric Vehicle Ecosystem เพื่อร่วมกันอัปเดตเทรนด์และทิศทาง รวมถึงโอกาสและความได้เปรียบของไทยเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะสร้างประโยชน์ในวงกว้างให้กับผู้เข้าร่วมงาน ตลอดจนสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับยานยนต์พลังงานสะอาดให้กับสังคมไทยมากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในอนาคตร่วมกันสู่การเป็นศูนย์กลางด้านยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค


นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศผ่านการจัดงาน ASEAN SUSTAINABLE ENERGY WEEK ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากทุกภาคส่วนนำโดยกระทรวงพลังงาน สมาคมสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และเครือข่ายของพันธมิตรด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมชั้นนำจากทั่วโลก โดยการจัดงานในปีนี้ชูแนวคิด “Powering the Clean Energy Transition Toward Carbon Neutrality Goal” หรือ ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งเวทีนี้ที่จัดต่อเนื่องมากว่า 3 ทศวรรษ เราเชื่อมั่นว่า งานนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการนำพาประเทศไทยเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต สอดรับกับเป้าหมายของโลก

สำหรับการจัดงานในปีนี้ ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมมาจัดแสดงครบวงจร บนพื้นที่กว่า 20,000 ตร.ม.โดยได้รวบรวมแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 1,500 แบรนด์ อาทิ ABB, Delta, Oriental Copper, Anest Iwata และ Siemens เป็นต้น พร้อมพาวิเลียนนานาชาติกว่า 8 ประเทศ ทั้ง เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลี จีน สิงคโปร์สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และไต้หวัน เพื่อเชื่อมโอกาสและสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายทางธุรกิจจากทั่วโลกและไฮไลต์ที่สำคัญคือ การประชุมและสัมมนาระดับนานาชาติกว่า 200 หัวข้อ โดยครอบคลุมในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ได้จัดร่วมกับงาน Electric Vehicle Asia (EVA) 2023 อีกเวทีสำคัญของวงการยานยนต์ไฟฟ้าที่รวบรวมผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องใน EV Eco System และ Value Chain ทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำไว้ในงานเดียว โดยเฉพาะการประชุมนานาชาติด้านยานยนต์ไฟฟ้า iEVTech 2023 ที่ในปีนี้ได้ขนทัพกูรูชื่อดังในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า มาอัปเดตเทรนด์สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างพื้นฐาน แบตเตอรี่ และยานยนต์ไร้คนขับ  ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 25,000 คน จากทั่วภูมิภาค โดยทุกภาคส่วนเชื่อมั่นว่า “เวทีนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของภูมิภาคในอนาคต”

ขอเชิญทุกคนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งสู่การขานรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาดครั้งสำคัญในงาน ASEAN Sustainable Energy Week (ASEW) และ Electric Vehicle Asia (EVA) 2023 ปีนี้จัดควบคู่กับงาน Pumps & Valves Asia (PVA) 2023 งานแสดงเทคโนโลยีเฉพาะทางที่รวมเทคโนโลยีด้านปั๊ม วาล์ว ท่อ ข้อต่อ และอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ระดับภูมิภาค โดยการจัดงานทั้งหมดนี้ถือเป็นเวทีระดับภูมิภาคหนึ่งเดียวของไทยที่รวบรวมนวัตกรรม และเทคโนโลยีสีเขียว ที่ครบครัน และใหญ่ที่สุดแห่งปีไว้ในงานเดียว จัดระหว่างวันที่ 30 ส.ค.-1 ก.ย.66 ที่ ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.asew-expo.com และ www.evasia-expo.com หรือโทร  02-0360500.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

สยองหนุ่มลำปางเสียชีวิตบนรถทัวร์ พบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

ลำปาง 17 มิ.ย.- จากเหตุหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิตในรถทัวร์จากโคราชกลับบ้านที่ลำปางโดยที่เพื่อนร่วมทางไม่รู้ ผลชันสูตรพบติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เคยระบาดในญี่ปุ่น ซึ่งญาติยืนยันผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยเป็นงูสวัดจนลามไปที่หูและพบอาการขาบวมไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ขณะที่แพทย์ระบุหากเกิดแผลมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียจนเนื้อเน่าได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ .-สำนักข่าวไทย

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]