ธ.กรุงเทพ วางยุทธศาสตร์สาขาฮ่องกงสู่ ‘เกตเวย์ จีน-อาเซียน’

ฮ่องกง 20 ส.ค. – ธ.กรุงเทพ วางยุทธศาสตร์ดันสาขาฮ่องกงเปิดประตูการค้าเอเชียตะวันออก สู่โอกาสลงทุนเขตเศรษฐกิจ GBA ขานรับเศรษฐกิจฟื้นตัว เปิดรับเงินทุนจีนไหลเข้าไทย เชื่อเอกชนปรับตัวรับสถานการณ์การเมืองได้
 


นายสิทธิชัย จิวัฒน์ธนากุล Senior Vice President และผู้จัดการทั่วไป สาขาฮ่องกง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้กำหนดยุทธศาสตร์การเติบโตสำหรับสาขาฮ่องกงให้เป็นเกตเวย์ที่ช่วยเชื่อมต่อภาคธุรกิจและการลงทุนจากต่างประเทศที่ต้องการเข้าสู่ประเทศจีน โดยใช้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลาง ควบคู่กับกลุ่มธุรกิจจากจีนที่ต้องการเปิดตลาดการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทย รวมถึงการเชื่อมต่อไปสู่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เพื่อตอบรับเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังข้ามผ่านวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการและนักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกำลังการผลิตและโอกาสเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจให้แข็งแรงยิ่งขึ้นในระยะยาว

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของฮ่องกงได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ปี 2562 ที่เกิดปัญหาการประท้วงรัฐบาลและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักอย่างภาคบริการ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่เมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลาย สัญญาณการเติบโตเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เศรษฐกิจในปี 2565 เติบโต 2.3% และคาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้ 4-5% อัตราเงินเฟ้อประมาณ 2%
 


นายสิทธิชัย กล่าวอีกว่า ฮ่องกงถือเป็นประตูสำคัญของธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่การลงทุนในประเทศจีนและเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่รัฐบาลจีนได้ประกาศพื้นที่เศรษฐกิจอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า หรือ GBA (Greater Bay Area) ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 11 เมืองสำคัญ จึงเป็นโอกาสสำหรับการค้าและการลงทุน ที่สำคัญฮ่องกงยังถูกวางยุทธศาสตร์ให้เป็นเมืองศูนย์กลางด้านการเงิน เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินหลายด้านที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เช่น ระบบการทำธุรกรรมการเงิน สำนักงานกฎหมาย สำนักงานบัญชี ทั้งยังเป็นตลาดการค้าเงินสกุลหยวนนอกประเทศ (Offshore RMB) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้น นักลงทุนจึงมักเลือกใช้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจและการเงิน ที่ใช้เชื่อมต่อกับบริษัทย่อยหรือโรงงานผลิตที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน และเป็นโอกาสที่สำคัญของธนาคารกรุงเทพ สาขาฮ่องกง เช่นกัน
 
“ลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารกรุงเทพ สาขาฮ่องกง คือกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และบรรษัทข้ามชาติ ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในจีน โดยใช้ฮ่องกงเป็นศูนย์กลาง ซึ่งมีทั้งธุรกิจจากประเทศไทย เช่น กลุ่มซีพี และบ้านปู รวมถึงธุรกิจจากต่างประเทศอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย และไต้หวัน รวมถึงธุรกิจในฮ่องกงเองที่เคยเริ่มต้นจากบริษัทเล็กๆ และเติบโตมาด้วยกัน จนวันนี้หลายบริษัทกลายเป็นธุรกิจระดับนานาชาติ ก็ยังใช้บริการกันอยู่ ซึ่งธนาคารเข้ามาตั้งสาขาในฮ่องกงตั้งแต่ปี 2497 หรือเป็นเวลาเกือบ 70 ปีแล้ว จึงมีประสบการณ์และความเข้าใจตลาดเป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นธนาคารไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจด้านการธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ (Full License) และยังประสานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารกรุงเทพ (ประเทศจีน) ซึ่งมีเครือข่าย 5 สาขาในเมืองสำคัญของจีนแผ่นดินใหญ่ จึงมีศักยภาพและความพร้อมให้บริการลูกค้าธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างครบวงจร”
 
ธนาคารกรุงเทพ สาขาฮ่องกง ยังมีความพร้อมสำหรับธุรกิจจากจีนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงกลุ่มประเทศต่างๆ ในอาเซียนเช่นกัน ขณะนี้มี 2 กลุ่มธุรกิจที่เห็นได้ชัดเจนคือ กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ EV (Electronic Vehicle) ซึ่งเติบโตขึ้นประมาณ 20-30% จากปีก่อนหน้า และกลุ่มธุรกิจที่มีเงินทุนขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทในลักษณะ Holding Company มีการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น China Resources และ China Merchants เป็นต้น
 
นายสิทธิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะเห็นการลงทุนจากจีนที่เติบโตขึ้นมากในเวียดนาม แต่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมในภาคการผลิตที่ต้องใช้แรงงานสูง เช่น สิ่งทอ แต่ประเทศไทยยังคงเป็นเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญของนักลงทุนจากจีน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมในกลุ่มที่ต้องใช้เทคโนโลยี มีความทันสมัย และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ภาครัฐพยายามส่งเสริม ขณะที่สถานการณ์ด้านการเมืองที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น เชื่อว่าภาคเอกชนสามารถปรับตัวได้ เพราะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอด แต่สิ่งสำคัญคือ ขอให้มีนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจนและต่อเนื่อง เช่น นโยบาย Thailand 4.0 และโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อให้นักลงทุนเห็นภาพที่ชัดเจนและตัดสินใจสำหรับอนาคตต่อไปได้
 
“ด้วยนโยบาย Belt and Road Initiative ของทางการจีนที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงตลาดการค้าระหว่างจีนและประเทศต่างๆ ขณะเดียวกันปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐ จึงเป็นข้อจำกัดด้านการไปลงทุนในฝั่งตะวันตก บวกกับความน่าสนใจของตลาดอาเซียนที่เป็นทั้งตลาดแรงงานและตลาดการค้าที่มีฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ จึงเชื่อมั่นว่าปริมาณเงินลงทุนจากจีนจะยังคงไหลเข้าสู่อาเซียนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารกรุงเทพในฐานะ ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ มีศักยภาพสูงมากที่จะคว้าโอกาสจากทิศทางดังกล่าว ด้วยเครือข่ายธุรกิจและสาขาที่ครอบคลุม 9 จาก 10 ประเทศอาเซียน โดยเฉพาะฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศไทยซึ่งตลาดหลัก มีธนาคารเพอร์มาตาที่เป็นบริษัทลูกของธนาคารกรุงเทพสำหรับรุกตลาดอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับตลาดสำคัญอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ที่มีเครือข่ายสาขาและประสานงานกันใกล้ชิดตลอด” นายสิทธิชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร