นนทบุรี 11 ส.ค. – อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยความเคลื่อนไหวราคาสินค้าสัปดาห์นี้ กลุ่มอาหารสดหลายรายการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง แต่ราคาข้าวเปลือกในประเทศยังปรับตัวสูงขึ้น หลังอินเดียประกาศห้ามส่งออกข้าวขาว โดยกรมการค้าภายในประสานผู้ผลิตข้าวถุงทุกราย ขอความร่วมมือตรึงราคาช่วยผู้บริโภคไปก่อน อย่าปรับขึ้นราคาในตอนนี้
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่าราคาข้าวเปลือกสัปดาห์นี้ มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยข้าวหอมมะลิ เฉลี่ยอยู่ที่ 15,600 บาทต่อตัน จากสัปดาห์ก่อน 15,125 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี อยู่ที่ตันละ 13,700 บาท จากสัปดาห์ก่อน 12,300 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ปรับขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 12,500 บาท จาก 11,325 บาท และ ข้าวเหนียว อยู่ที่ตันละ 14,900 บาท จากสัปดาห์ก่อน 13,580 บาท เท่าที่ติดตามน่าจะเป็นผลพวงจากนโยบายอินเดียที่ประกาศห้ามส่งออกข้าวขาว โดยได้กำกับดูแลข้าวถุงอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้หารือกับสมาคมผู้ผลิตข้าวถุง เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำ ขอความร่วมมือไม่ให้มีการปรับขึ้นราคา รวมไปถึงส่งเจ้าหน้าที่ ติดตามการจำหน่ายในห้างค้าปลีกต่างๆ ซึ่งพบว่าระดับราคาไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากจะร่วมตรึงราคาคงเดิมแล้ว ยังมีการจัดโปรโมชั่นลดราคา โดยหมุนเวียนยี่ห้อกันไปต่อเนื่อง แต่หากเกิดสถานการณ์จำเป็น ได้เตรียมแผนทำข้าวถุงราคาโรงงาน ไปเปิดจุดจำหน่ายให้ประชาชนทั่วประเทศได้ทันที ซึ่งจะยึดหลัก วินวินโมเดล (win win Model) ให้เกษตรกรได้รับประโยชน์เต็มที่ ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลผู้บริโภค ไม่ให้ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ หากดูผลผลิตข้าวไทยแต่ละปี ปริมาณเหลือเพื่อส่งออก และเหลือเป็นสตอกเพื่อความมั่นคง จึงขอให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะมีข้าวบริโภคเพียงพอ ส่วนเรื่องผลกระทบต่อราคาข้าว น่าจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ เพราะขณะนี้ อินเดีย ก็ยังไม่ได้ชะลอการส่งออก และถือเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ ที่ส่งออกข้าวอันดับ 1 หากห้ามการส่งออกจริง อาจจะชะลอไม่นานนัก ขณะที่ สินค้ากลุ่มอาหารสด ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ และผักสดหลายชนิด เริ่มปรับลดลงแล้ว เช่น คะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี ผัดกาดขาว ผักบุ้งจีน และมะนาว ก็ปรับลดลง รวมไปถึงราคาปุ๋ย ก็ปรับลดลงต่ำกว่าปีที่แล้ว
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่าจากความต้องการซื้อหาดอกมะลิเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ประกอบกับผลผลิตเสียหายบ้าง หลังจากที่ฝนตกในช่วงนี้ ส่งผลให้ราคาปรับสูงขึ้นจริง แต่หากเทียบกับปีก่อน ก็ถือว่าไม่แตกต่างกันมาก เพราะเป็นตามสถานการณ์ในทุกช่วงวันแม่ของทุกๆ ปี ซึ่งกรมการค้าภายใน ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ ออกไปตรวจสอบการจำหน่าย เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการฉวยโอกาสกับผู้บริโภค โดยเฉพาะแหล่งจำหน่ายดอกไม้สำคัญๆ เช่น ปากคลองตลาด ราคาเฉลี่ยประมาณกิโลกรัมละ 700 บาท ตลาดกลางดอกไม้ปากคลองตลาดใหม่ ประมาณกิโลกรัมละ 850 – 1,000 บาท ตลาดยอดพิมาน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 550-700 บาท จากช่วงปกติ ราคาดอกมะลิ จะเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 300 – 500 บาท ขณะที่ ราคาต้นทางจากเกษตรกรขณะนี้ อยู่ที่กิโลกรัมละ 300 – 700 บาท จากปกติจะเฉลี่ยเพียง 200-300 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับราคาที่ผู้ค้าจำหน่ายโดยได้เน้นย้ำ ให้ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค และจำหน่ายให้สอดคล้องกับต้นทุน.-สำนักข่าวไทย