ผู้ว่าฯ ธปท.คาดจีดีพีปีนี้อาจต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.6%

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ผู้ว่าฯ ธปท. ย้ำเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่จีดีพีอาจต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.6% เปลี่ยนโจทย์ดำเนินนโยบายการเงินจาก ‘Smooth take off’ มาเป็น ‘Landing’ เตือนนโยบายรัฐบาลใหม่ต้องไม่กระทบเสถียรภาพ


ในงานสัมมนาวิชาการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ “ยกระดับเศรษฐกิจเหนือ คว้าโอกาสบนโลกแห่งความท้าทาย” ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในช่วงสนทนากับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ ‘ก้าวต่อไปของเศรษฐกิจการเงินไทย’ โดยระบุว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางช่วงจะเห็นตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้บ้างประเมินตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะอยู่ที่ 3 กลางๆ ทั้งปีนี้และปีหน้า ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ขณะที่ประเมินว่าตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 2/2566 ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะประกาศในเดือน ส.ค.นี้ แนวโน้มจะต่ำกว่าคาดการณ์ ส่วนหนึ่งเพราะเศรษฐกิจไทยถูกขับเคลื่อนจากการบริโภคเอกชน รวมไปถึงการท่องเที่ยว ซึ่งยังไม่เห็นภาพการเปลี่ยนแผลงอย่างมีนัยยะ สำหรับการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าเติบโตเกิน 4% ซึ่งถือเป็นระดับค่อนข้างสูง ส่วนการท่องเที่ยว ถึงแม้จีนอาจจะไม่มาเร็วอย่างที่เราคิด แต่ยังเชื่อว่าจะเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยว 29 ล้านคน ซึ่งจะช่วยพยุงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนการส่งออกไม่ค่อยดีนักจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจจีน แต่เชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้น

นายเศรษฐพุฒิ ยังกล่าวถึงทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.ในระยะต่อไปว่าบริบท เศรษฐกิจปีนี้ แตกต่างจากปี พ.ศ. 2565 ที่เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสูงและเร็ว จนทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เริ่มขึ้นดอกเบี้ย เพื่อดูแลเงินเฟ้อ ขณะที่ปีนี้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตในระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนโควิด คาดว่าและอัตราเงินเฟ้อระยะยาวจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ดังนั้น โจทย์การดำเนินนโยบายการเงินจึงต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน โดยตอนนี้เราจะเน้นเรื่อง Landing คือ ทำอย่างไรให้การ Landing ลงให้ได้อย่างดี จากก่อนหน้านี้ที่เน้น Smooth take off นอกจากดูปัจจัยระยะสั้น เช่น เงินเฟ้อ เศรษฐกิจเติบโตเป็นอย่างไรแล้ว ต้องดูเศรษฐกิจระยะยาวด้วย โดยมี 3 เรื่องที่ต้องพิจารณา คือ 1.การเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในศักยภาพระยะยาวหรือไม่ คือ 3-4% ถ้าโตเร็วกว่านั้น จะเกิดปัญหาความร้อนแรง เพราะเศรษฐกิจเราเป็นสังคมผู้สูงวัย ไม่ได้โตเร็วเหมือนสมัยก่อน 2.เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% ซึ่งเป็นระดับยั่งยืน และ 3.อัตราดอกเบี้ยต้องไม่ไปสร้างปัญหาเชิงโครงสร้างหรือความสมดุลต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของจีดีพี ส่วนหนึ่งมาจากการที่เรามีดอกเบี้ยต่ำมากและนานเกินไป จึงต้องปรับดอกเบี้ยและดอกเบี้ยที่แท้จริงกลับมาสอดคล้องกับความสมดุลในระยะยาวมากขึ้น


เมื่อโจทย์การดำเนินนโยบายการเงินเปลี่ยนจาก Smooth take off มาเป็น landing แล้ว เราจึงถอด ‘ขึ้นอัตรดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นไป’ และเพิ่มคำว่า ‘optionality’ คือ จะทำอย่างนี้หรืออย่างนั้นก็ได้ ดังนั้นการประชุม กนง.คราวหน้ามีโอกาสที่จะคงหรือขึนดอกเบี้ย แต่ไม่ปรับลงแน่นอน พร้อมระบุว่า ธปท. เข้าใจว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีผลข้างเคียง และสร้างภาระ แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะมีผลในภาพรวม ทำให้ที่ผ่านมาจึงมีการออกมาตรการมาช่วยดูแลกลุ่มเปราะบาง ที่อาจได้รับผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นพิเศษ เช่น มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว และมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน ส่วนการส่งผ่านของธนาคารพาณิชย์ หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ธปท. ไม่อยากให้กระทบลูกค้าของธนาคารพาณิชย์มากเกินไป เช่น รอบล่าสุดที่ขึ้น 0.25% นั้น การส่งผ่านไปสู่อัตราดอกเบี้ย MRR อยู่ที่ประมาณ 50% เท่านั้น

สำหรับสถานการณืทางการเมืองไม่แน่นอนทางการเมือง ผู้ว่าฯ ธปท. มองว่าผลกระทบไม่ค่อยมาก ซึ่งการที่ ธปท.คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ระดับ 3% กว่าๆ นั้น ได้รวมเอาปัจจัยความล่าช้าของงบประมาณเข้าไปในระดับหนึ่งแล้ว โดยคาดว่างบประมาณจะล่าช้าไป 2 ไตรมาส งบรายจ่ายประจำยังสามารถดำเนินการได้ปกติ เพียงแต่งบลงทุน อาจกระทบบ้าง แต่ไม่ได้มากจนทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม จุดเสี่ยงจริง ๆ นอกเหนือจากหน้าตารัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไรแล้ว ยังมีเรื่องนโยบายที่ต้องดูว่ารัฐบาลใหม่ จะมีนโยบายอะไรออกมา

“สิ่งที่กังวลในเรื่องความเสี่ยง คือ ไม่รู้ใครจะมา รัฐบาลเป็นอย่างไร ถ้ามาแล้ว ก็ไม่อยากเห็นนโยบายรัฐบาลใหม่ที่ไปบั่นทอนเรื่องเสถียรภาพ ผมเข้าใจ รัฐบาล เรื่องการเมือง ต้องมีสไตล์รายจ่ายประชานิยม แต่ถ้าอยู่ในกรอบ ไม่มากเกินไป มีแหล่งเงินที่ชัดเจน ก็โอเค แต่ถ้ามากเกินไปจนกระทบเสถียรภาพ อันนี้น่าเป็นห่วง” นายเศรษฐพุฒิ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน