สมาคมอาหารสัตว์ฯ ยันโรงงานยังซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรเหมือนเดิม

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย.-สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย
ยืนยันโรงงานยังเปิดรับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต่อเนื่อง และช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูกาลที่ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย
ทำให้ราคารับซื้อของหลายบริษัทสูงกว่าราคากำหนดของกระทรวงพาณิชย์ด้วย

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล
นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เปิดเผยว่า โรงงานบริษัทสมาชิกยังเปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามปกติ
แต่เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูกาล ทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวโพดจากเกษตรกรมีน้อย
โรงงานอาหารสัตว์หลายแห่งจึงให้ราคาที่สูงกว่าราคากำหนดของกระทรวงพาณิชย์ที่ 8 บาท/กิโลกรัม
ณ ตลาดรับซื้อในกรุงเทพ ส่วนบริษัทแหลมทอง ก็ไม่ได้หยุดรับซื้อตามที่โดนกล่าวอ้าง สำหรับกรณีของลีพัฒนามีการหยุดรับซื้อข้าวโพดเนื่องจากได้ให้ความร่วมมือกระทรวงพาณิชย์เร่งซื้อข้าวโพดตั้งแต่ต้นฤดูในเดือนกรกฎาคม
2559
จนข้าวโพดในไซโลเกินความต้องการใช้ในปัจจุบันและคาดว่าจะสามารถเปิดรับข้าวโพดใหม่ได้เมื่อข้าวโพดฤดูใหม่ออกสู่ตลาด

“การที่มีข่าวว่ายังมีปริมาณข้าวโพดคงค้างในขณะนี้นับล้านตันจึงไม่น่าเป็นไปได้
ยกเว้นกรณีที่มีการลักลอบนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย และอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว” นายพรศิลป์กล่าว

ทั้งนี้ ในกรอบของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน
สามารถนำเข้ามาไทยได้อย่างเสรี (duty free /quota-free ) แต่เนื่องจากเป็นสินค้าอ่อนไหวทางการเมือง
กระทรวงพาณิชย์ จึงออกมาตรการการนำเข้า เพื่อป้องกันผลกระทบต่อข้าวโพดในประเทศ
หนึ่งในนั้นคือการจัดทำระเบียบการนำเข้าข้าวโพด
ให้สามารถนำเข้ามาได้เป็นบางเดือนเท่านั้น เนื่องจากราคาข้าวโพดนำเข้าที่ถูกกว่าข้าวโพดในประเทศมาก
จึงจูงใจให้มีการทยอยนำเข้าข้าวโพด รวมถึงลักลอบนำเข้าในช่วงที่ห้ามนำเข้าด้วย
รวมแล้วประมาณ 1
ล้านตันในปีที่ผ่านมา เพื่อจุดประสงค์ในการเก็บสต๊อกไว้เก็งกำไรในช่วงปลายฤดู
ซึ่งเป็นตัวเลขที่พ่อค้าพืชไร่ยอมรับว่ามีการลักลอบจริง
แต่ที่ผ่านมาสมาคมต่างร่วมมือกันตรวจสอบแหล่งที่มาของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
โดยจะรับซื้อเฉพาะจากแหล่งที่ปลูกถูกกฎหมายและเป็นพื้นที่ที่หน่วยงานราชการรับรอง
หากเป็นข้าวโพดผิดกฏหมาย โรงงานอาหารสัตว์ก็ไม่สามารถให้การสนับสนุนหรือรับซื้อได้
ซึ่งการลักลอบนำเข้าเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของชาวไร่ตกต่ำ
จึงอยากขอให้ภาครัฐเข้มงวดในเรื่องดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกร–สำนักข่าวไทย