กรุงเทพฯ 20 มิ.ย. – ก.พลังงาน ตรวจสอบกรณีเกิดเหตุแก๊สระเบิดที่โรงแรมใน จ.ราชบุรี สันนิษฐานผนังอาคารทรุด ส่งผลท่อเหล็กขนส่งแก๊สฉีกขาด ทำให้น้ำแก๊สแอลพีจีรั่ว แนะทุกอาคารตรวจสอบ
นายวุฒิทัต ตันติเวสส รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า จากที่วันนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 09.30 น. เกิดเหตุแก๊สระเบิดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ทำให้พื้นอาคารห้องประชุมทรุดตัวบางส่วน ทางพลังงานจังหวัดราชบุรีและเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ พบมีการใช้ถังแก๊สขนาด 48 กิโลกรัม 1 ถัง ต่อเข้าระบบท่อส่งแก๊ส (และตั้งไว้สำรองในบริเวณใกล้เคียงอีก 3 ถัง วางทางเข้าหน้าอาคาร 1 ถัง) รวมเป็นถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม (LPG) ขนาด 48 กก. จำนวน 4 ถัง ไม่เกิน 250 กก. พร้อมระบบท่อและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องฯ พิจารณาแล้ว เป็นสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลว ประเภทสถานที่ใช้ ลักษณะที่ 1 ซึ่งตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 สามารถประกอบกิจการได้ทันที โดยไม่ต้องแจ้งหรือขออนุญาต
สำหรับข้อเท็จจริง มีการเดินท่อเหล็กภายนอกอาคารไปใช้ในห้องครัวใต้อาคาร ระยะห่างประมาณ 30 เมตร เจาะผนังทะลุเข้าห้องครัวด้านล่างใต้อาคาร แล้วต่อสายอ่อนแก๊สเข้าสู่หัวเตาแก๊สหุงต้ม 6 หัวเตา ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ถังแก๊สต้นเหตุและสายอ่อนจากถังดังกล่าวมีสภาพปกติ แต่สำหรับท่อเหล็กที่เดินตามแนวผนัง เนื่องจากผนังอาคารทรุดตัว ทำให้ท่อมีการฉีกขาด แต่ไม่มีร่องรอยการเกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากห้องด้านล่างใต้อาคาร ผนังภายนอกปิดทึบ มีช่องเปิดเฉพาะด้านหน้าและหลังของอาคาร และพื้นต่ำกว่าพื้นภายนอก เกิดการนองสะสมของไอแก๊สที่ขังตัวในแอ่งพื้นจำนวนมาก เมื่อสัมผัสกับประกายไฟ จึงเกิดการระเบิด ภายใต้พื้นที่จำกัด ทำให้ผนังโครงหลังคาแตกพังเสียหาย พื้นห้องประชุมด้านบนทรุดตัวบางส่วน
ทางพลังงานจังหวัดราชบุรี จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อบต. ขอให้เคลื่อนย้ายถังแก๊สสำรองออกไปพื้นที่ข้างเคียง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และขอให้กันพื้นที่อาคารโดยรอบ เพื่อป้องกันอาคารทรุดตัวภายหลัง โดยเหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 4 ราย
“กรณีนี้แม้จะมีการใช้น้อย จนไม่มีการแจ้งขออนุญาตใช้ตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 แต่เป็นเรื่องที่อันตรายจากอาคารทรุด ก็คงจะต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแจ้ง หรือหาแนวทางป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำในอนาคต โดยอาคารใดๆ ที่ใช้ท่อแก๊สในลักษณะเช่นนี้ ก็ขอความร่วมมือตรวจสอบ ทั้งการทรุดตัวของอาคาร หรือการรั่ว การฉีกขาดของท่อ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา” นายวุฒิทัต กล่าว. – สำนักข่าวไทย