นักวิชาการ คาดรัฐบาลใหม่ปรับงบประมาณปี 67

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย.-นักวิชาการ คาดรัฐบาลใหม่ปรับงบประมาณปี 67 รองรับรัฐสวัสดิการ 2 แสนล้านบาท ขาดอีก 4.5 แสนล้านบาท ทยอยตั้งงบในปี 2568-2570 คาดทุนจีนลงทุนแตะหนึ่งแสนล้านบาทปีนี้

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คาดรัฐบาลใหม่ปรับงบประมาณปี 2567 รองรับรัฐสวัสดิการได้เพียง 2 แสนล้านบาท ส่วนที่ขาดอีกอย่างน้อย 4.5 แสนล้าน หากต้องการจัดสรรให้ครบถ้วนตามนโยบายรัฐสวัสดิการหาเสียงเอาไว้ ต้องใช้เม็ดเงินประมาณ 6.5 แสนล้าน ต้องปรับลดงบกลางฉุกเฉินลงมาอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ปรับลดงบหมวดป้องกันประเทศและหมวดความสงบภายในประเทศ อีก ร้อยละ 30 จะได้เม็ดงบอีกประมาณ 1.06 แสนล้านบาท นับว่ายังไม่เพียงพอตามนโยบายรัฐสวัสดิการ จึงควรทยอยจัดสวัสดิการให้ตามลำดับความจำเป็นในปีต่อๆไป โดยหลีกเลี่ยงการก่อหนี้เพิ่ม หรือ เพิ่มภาษีใหม่ แต่เน้นเก็บภาษีที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับปรุงประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจให้สามารถส่งเงินเข้ารัฐได้มากขึ้น


หากไม่สามารถปรับลดในส่วนที่เกี่ยวกับหมวดป้องกันประเทศ หรือ งบกลางฉุกเฉินหากต้องการทำให้เป้าหมายการดูแลสวัสดิการประชาชนบรรลุตามที่หาเสียงเอาไว้ อาจใช้วิธีขยายวงเงินงบประมาณจาก 3.35 ล้านล้านบาท เพิ่มเป็น 3.45-3.8 ล้านล้านบาท ด้วยเพิ่มการขาดดุลงบประมาณและก่อหนี้มาชดเชย สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพียังคงต่ำกว่าเพดานร้อยละ 70 หรือ เพิ่มรายได้และเก็บภาษีให้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ในงบปี 67 ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท หากเร่งทำนโยบายรัฐสวัสดิการปี 67 ต้องขยายฐานภาษีและเพิ่มอัตราภาษีหรือก่อหนี้สาธารณะเพิ่มอย่างแน่นอน การก่อหนี้สาธารณะแม้นยังอยู่ภายในเพดานสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีร้อยละ 70 แต่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงวิกฤติฐานะการคลังในอนาคตได้

นอกจากนี้ เมื่อรัฐบาลเพิ่มรายจ่ายสาธารณะมากเกินพอดีอาจทำให้การใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของภาคเอกชนลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยแท้จริงปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุนของเอกชนสูงขึ้น จนก่อให้เกิดการชะลอการลงทุนโดยรวมได้ผ่านการลงทุนของเอกชนทางด้านทุน ด้านสวัสดิการสังคมและโครงสร้างพื้นฐานอาจลดลงได้ หากเกิดภาวะ Crowding-out Effect จากการกู้ยืมของรัฐเพื่อเอามาใช้จ่าย อาจทำให้เกิดการเบียดบังแนวทางในการดำเนินการที่ดีกว่า การทยอยดำเนินการและปรับโครงสร้างการใช้จ่ายงบประมาณในปี 2568-2570 เป็นทางเลือกที่ดีกว่า


หลังจากจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างมีเสถียรภาพแล้ว เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยสำคัญ โดยเฉพาะการย้ายฐานการลงทุนจากกลุ่มทุนจีนมายังไทยและอาเซียน การย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศของกลุ่มทุนจีนเป็นผลมาจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่า ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในปี 2566 อาจแตะระดับ 1 แสนล้านบาท จากไตรมาสแรกปีนี้ มีเม็ดเงินลงทุน 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กล่าวเพิ่มเติม รัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งจะมีแรงกดดันทางการคลังและภาระทางการคลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนอกจากนี้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าจากข้อจำกัดในรัฐธรรมนูญและการไม่ยอมรับผลเลือกตั้งของผู้แพ้จะทำให้การจัดทำงบประมาณปี 2567 ล่าช้าไปอย่างน้อย 3-4 เดือน ขณะนี้ยอดหนี้สาธารณะคงค้างทั้งหม 10.72 ล้านล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 61.13 ของจีดีพี ส่วน การหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯชั่วคราว ว่า ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้ยุติแล้ว โดยทำให้ แรงกดดันภาคธุรกิจ ภาคการลงทุนคลายตัวลง พันธบัตรระยะยาวน่าสนใจมากขึ้น ดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงสั้น คาดว่าทิศทางราคาน้ำมันโลกไม่ได้กดดันให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากการลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปคจะไม่ได้ทำให้ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก จากการผลิตและอุปทานพลังงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาสามารถชดเชยได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร