ยอดส่งออก เม.ย.ยังหดตัว 7.6% ต่อเนื่อง 7 เดือน  

นนทบุรี 30 พ.ค.-ปลัดกระทรวงพาณิชย์เตรียมนำแผนงานเจาะทุกตลาดทั่วโลกเสนอรัฐบาลชุดใหม่ไม่ว่าพรรคไหนจะเข้ามาดูแลกระทรวงพาณิชย์ หลังหลายปัจจัยกระทบยอดส่งออกไทยติดลบต่อเนื่องถึง 7 เดือน ล่าสุดยอดส่งออกเดือนเมษายน 2566 มีมูลค่าการส่งออกกว่า 21,723 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบที่ 7.6% คาดยังมีโอกาสติดลบไปอีก 2 เดือนและจะเริ่มเป็นบวกได้ในเดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป ย้ำแผนที่คุยกับเอกชนทุกฝ่ายเห็นตรงกันส่งออกไทยมีโอกาสเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 


นายกีรติ  รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนเมษายน 2566 โดยมีมูลค่าการส่งออกกว่า 21,723 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบที่ 7.6% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 จากฐานการส่งออกที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รวมทั้งแต่ละประเทศมีการสตอกสินค้าไว้จำนวนมาก หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายทำให้คำสั่งซื้อในช่วงต้นปีชะลอตัว โดยสินค้าอุตสาหกรรม หดตัวถึง 11.2% หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เช่นกัน รวมทั้งการส่งออกไปตลาดสำคัญส่วนใหญ่ กลับมาหดตัว ตามการชะลอตัวของความต้องการจากประเทศคู่ค้า รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการค้าโลก

ส่วนยอดส่งออกรวมในช่วง 4 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.66) ไทย มีมูลค่าส่งออกรวม 92,003 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังหดตัวที่ 5.2% ขณะที่การนำเข้า เดือนเมษายน 2566 มีมูลค่า 23,195 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 7.3% ส่งผลให้ในเดือนเมษายน ไทย ขาดดุลการค้าที่ 1,471 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวม96,519 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 2.2% ทำให้ภาพรวม 4 เดือน ไทย ยังคงขาดดุลการค้า 4,516 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 


อย่างไรก็ตาม ยอดส่ออกในเดือนดังกล่าวถือว่ายังดีกว่าหลายประเทศ ซึ่งในเดือนเมษายน 2566 อินโดนีเซีย ติดลบถึง 29%  เวียดนาม ลบ 16.2% สิงคโปร์ ลบ 16% เกาหลีใต้ ลบ 14.3% และไต้หวัน ติดลบ 13.3% ดังนั้นสถานการณ์หลังจากนี้ยังพอมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้า เพื่อสำรองไว้ให้เพียงพอต่อความต้องการ จะเห็นได้จากการส่งออกสินค้าเกษตรในเดือนเมษายน ที่ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 บวกสูงถึง 23.8% โดยเฉพาะผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและผลไม้แห้งขยายตัวถึง 142.8% ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์

“กระทรวงพาณิชย์เตรียมแผนงานด้านการส่งออกในทุกมิติไว้พร้อมแล้ว เพื่อเตรียมนำเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนเข้ามาดูกระทรวงพาณิชย์ก็ตาม ซึ่งตามแผนงานเจาะตลาดทั่วโลกหลังจากที่ได้ประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นว่าโอกาสที่สินค้าไทยในหลายกลุ่มทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ผัก ผลไม้รวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยหลายประเทศมีความต้องการสินค้ากลุ่มเหล่านี้เพิ่มขึ้น ดังนั้น คาดว่าแม้ตัวเลขการส่งออกของไทยอีก 2 เดือนข้างหน้ายังมีโอกาสติดลบอยู่บ้าง แต่น่าจะน้อยลงและจะกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ไปจนถึงไตรมาสที่ 4 โดยมีมูลค่ายอดส่งออกในแต่ละเดือนเกินกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้โอกาสตัวเลขการส่งออกในปีนี้จะเป็นบวกได้ 1-2 % แต่หากไม่มีแผนงานเจาะตลาดใดโอกาสยอดส่งออกไทยปีนี้ก็จะเห็นติดลบได้เช่นกัน”นายกีรติกล่าว

ทั้งนี้ แผนผลักดันที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมไว้ ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมกว่า 350 กิจกรรม น่าจะทำให้ตัวเลขการส่งออกในปีนี้เพิ่มขึ้น 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ  20,000 ล้านบาท แต่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ทำให้หลายประเทศยังคงใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดปัญหาวิกฤตการเงินของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐและยุโรป และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ ที่สร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]