นนทบุรี 29 พ.ค.- พาณิชย์ปลื้มต่างชาติเจรจาซื้อขายสินค้า งาน Thaifex ANUGA ASIA 2023 มูลค่ากว่า 1.2 แสนล้านบาท จีนนำโด่ง เพิ่มขึ้น 2 พันเปอร์เซ็นต์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ผลการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร ปี 2566 “THAIFEX-ANUGA ASIA 2023” ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 131,039 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 เป็นผู้เข้าร่วมเจรจาการค้า 78,764 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 53 เป็นชาวต่างประเทศ 16,429 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 150 นับว่านักงทุน จีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2022 มาเลเซีย เพิ่มขึ้นร้อยละ 127 เวียดนาม เพิ่มขึ้นร้อยละ 79 เกาหลี เพิ่มขึ้นร้อยละ 109 สิงคโปร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 และนักธุรกิจชาวไทย 62,335 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 นับว่าเกิดมูลค่าการซื้อขายจากการจัดงาน มูลค่า 120,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 81.36 เป็นการซื้อขายทันที 1,106 ล้านบาท โดยซื้อขายภายใน 1 ปี 118,600 ล้านบาท
สำหรับหมวดสินค้าบริการ ตกลงซื้อขายมากที่สุด 5 ลำดับแรก ประกอบด้วย อาหาร ผักผลไม้ เทคโนโลยีด้านอาหาร เช่นเครื่องจักรอุปกรณ์การทำอาหาร หมวดชากาแฟและการให้บริการด้านอาหาร เช่น การให้บริการองค์ความรู้การทำธุรกิจอาหาร และประเทศที่มีการสั่งซื้อมากที่สุด ประกอบด้วย จีน ไทย สหรัฐอเมริกา มาเลเซียและญี่ปุ่น สำหรับงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ในปีนี้ คาดว่าจะช่วยผลักดันตัวเลขการส่งออก อาหารของไทยในปี 66 เพิ่มมากขึ้น 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้จะสามารถทำเงินเพิ่มจากการส่งออกอาหารได้ถึง 1.5 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นร้อยบะ 10 หลังจากส่งออกมูลค่า 1.36 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23
“ขอขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ หอการค้าไทยและบริษัทโคโลญเมสเซ่ ที่ทำให้การจัดงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งในปีนี้ และกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายอาหารไทยอาหารโลก โดย 1.ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งความมั่นคงด้านอาหารของโลก โดยการผลิตอาหารและสนับสนุนการส่งออก 2.ส่งเสริมให้มีการเปิดร้านอาหารไทยในหลายประเทศ มีตรารับรอง เช่น Thai SELECT เป็นต้น 3.ส่งเสริมอาหารไทยเป็นซอร์ฟพาวเวอร์ เผยแพร่ซอฟพาวเวอร์ของไทย ” นายจุรินทร์กล่าว
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า อาหารแห่งอนาคตเป็นเทรนด์ของโลก อาหารสมัยใหม่ต้องมีองค์ความรู้ มีนวัตกรรม ผู้ประกอบการของเราหากมีเวลาควรศึกษาส่วนนี้ และกระทรวงพาณิชย์มีการสัมมนาอบรมต่างๆ เรื่องอาหารแห่งอนาคต และเทรนด์อาหารผู้ประกอบการของเราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เติมเต็มอินโนเวชั่นในสินค้าหลากหลายพัฒนาสินค้า และผู้ประกอบการต้องพัฒนาตนเอง
นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับ Future Food ในงานนี้มีชาวต่างชาติและคนไทยในวงการอาหารเข้าร่วมกิจกรรมมากถึง 1,300 ราย โดย Future Food มี 4 ประเภท 1.อาหารฟังก์ชัน (function food) 2. อาหารนวัตกรรมใหม่ (novel food) 3. อาหารอินทรีย์ (organic food) และ 4. อาหารทางการแพทย์ (medical food) โดย 3 ตัวแรกไทยได้รับความสนใจอย่างมาก บริษัท innova ที่ดูเทรนด์อาหารของโลกมาประกาศ Future Food ได้รับความสนใจมาก และที่ต้องให้ความสนใจคือ ของเสียที่เกิดจากอาหารจะนำกลับมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร ซึ่งการใช้ green product เป็นแนวทางที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ด้วย BCG model เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไทยได้รับความสนใจอย่างมากในพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทยสู่อาหารโลก
นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในประเมินสถานการณ์ กรณีกระทรวงการคลัง ไม่ต่อมาตรการลดภาษีดีเซล 5 บาทต่อลิตร เพื่อประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อการเพิ่มราคาสินค้ามากน้อยเพียงใด ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อเร่ิมปรับลดลง เป็นที่น่าพอใจ ในส่วนผู้ประกอบการไข่ไก่ เตรียมปรับเพิ่มราคาสูงสุด 4 บาทต่อฟอง โดยอ้างว่าต้นทุนสูงขึ้นอย่างมากนั้น กระทรวงพาณิชย์ ติดตามอย่างใกล้ชิด ยอมรับราคาไก่ไข่ ปรับเพิ่มลดลงตลอดเวลา ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก การปรับเพิ่มราคาต้องพิจารณาข้อเท็จจริงจากต้นทุนปัจจุบัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค.-สำนักข่าวไทย