คลังออกกฎกระทรวงไม่ต่ออายุลดภาษีดีเซล

กรุงเทพฯ 28 พ.ค. – เตรียมรับมือดีเซลขึ้น 5 บาท/ลิตร หลัง ก.คลัง ออกกฎกระทรวงไม่ต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตดีเซล ที่จะสิ้นสุด 21 ก.ค.66 ด้าน สกนช. เตรียมหารือจัดทำแผนรับมือ


แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า ในขณะนี้รับทราบถึงประกาศกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซล โดยกำหนดที่จะไม่ต่อมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาท/ลิตร ออกไป โดยจะสิ้นสุด 21 ก.ค.66 ซึ่งนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามประกาศกฎกระทรวง เมื่อวันที่ 12 พ.ค.66 ซึ่งคงจะหารือกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง เพราะหากขึ้นทันที 5 บาท/ลิตร จะกระทบต่อประชาชน เช่น ขณะนี้ราคาดีเซล 32 บาท/ลิตร หากขึ้นภาษี 5 บาท ราคาก็จะไม่ต่ำกว่า 37 บาท/ลิตร

“ช่วงสิ้นสุดของมาตรการลดภาษีดีเซล 21 ก.ค.66 จะเป็นไทม์ไลน์ที่ยังไม่ได้รัฐบาลใหม่ ทางกระทรวงพลังงานคงต้องหารือกับกระทรวงการคลัง และสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ที่จะทำแผนรับมือเอาไว้ และคงจะต้องหารือกับทางรัฐบาลรักษาการว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้กระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด หากในช่วงเวลาดังกล่าวราคาดีเซลตลาดโลกไปในทิศทางขาขึ้น และกองทุนฯ ไม่อาจจัดเก็บรายได้จากดีเซลเข้าสะสมมากพอ” แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุ


นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สกนช. กล่าวว่า สกนช.เองคงจะต้องหารือกับทุกฝ่าย เพื่อที่จะวางแนวทางในการรับมือ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถจัดเก็บเงินจากดีเซลเข้าสะสมในกองทุนน้ำมันฯ เฉลี่ยราว 5 บาท/ลิตร ดังนั้น คงจะต้องติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกเป็นสำคัญ และยังพอมีเวลา ขอประชาชนอย่าตกใจว่าราคาจะขึ้นทันที 5 บาท/ลิตร เพราะต้องอยู่กับปัจจัยต่างๆ ณ วันนั้นด้วย ซึ่งหากราคาโลกลดลง เงินกองทุนฯ สะสมมากขึ้นเพียงพอดูแลเสถียรภาพ ​เร่งแก้ปัญหาหนี้เดิม สภาพคล่องเพิ่มขึ้น ราคาดีเซลอาจลดลง เมื่อขึ้นภาษีแล้ว ราคาขายปลีกก็อาจไม่เพิ่มขึ้นมาก

ทั้งนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามประกาศกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซล โดยกำหนดที่จะไม่ต่อมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาท/ลิตร ออกไป โดยจะสิ้นสุด 21 ก.ค.66 เนื่องจากให้รอรัฐบาลใหม่มาพิจารณา เพราะว่าด้วยเรื่องของงบประมาณการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตที่หายไปด้วย

โดยมาตรการลดภาษีดีเซลที่ผ่านมา รวม 7 ครั้ง กระทบรายได้รัฐ 158,000 ล้านบาท ดังนี้ วันที่ 18 ก.พ.-20 พ.ค.65 (3 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 3 บาท รัฐสูญรายได้ 18,000 ล้านบาท วันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.65 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท วันที่ 21 ก.ค.-20 ก.ย.65 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท วันที่ 21 ก.ย.-20 พ.ย.65 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท วันที่ 21 พ.ย.65-20 ม.ค.66 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 20,000 ล้านบาท วันที่ 21 ม.ค.-20 พ.ค.66 (4 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 40,000 ล้านบาท และวันที่ 21 พ.ค.-20 ก.ค.66 (2 เดือน) ลดภาษีลิตรละ 5 บาท รัฐสูญรายได้ 40,000 ล้านบาท


ในขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าดูแลราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้ม​ ปัจจุบัน​มีสถานะที่ดีขึ้น จากเดิมติดลบสูงสุดเกือบ 1.4 แสนล้านบาท แต่ขณะนี้เหลือเพียงลบ 72,000 ล้านบาท. – สำนักข่าว​ไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

DSI-กกต. นำหมายเรียกแปะหน้าบ้าน สว. ทั่วกรุงเทพฯ

3 สว. “อลงกต-จิระศักดิ์-วุฒิชาติ” ปิดบ้านเงียบ หลัง กกต. และดีเอสไอ นำหมายเรียกคดีฮั้ว สว. เชิญตัวเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตาม พ.ร.ป.สว.61

นายกฯ เลี่ยงตอบสื่อ ปมมติแพทยสภา

นายกฯ เลี่ยงให้สัมภาษณ์ หลังสื่อรอถามมติแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ด้าน “สรวงศ์” มองอุณหภูมิการเมืองจะร้อนแรงหรือไม่อยู่ที่สื่อ ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ

พระโคกิน “น้ำ-หญ้า-เหล้า” น้ำท่าบริบูรณ์ การค้าขายดี เศรษฐกิจรุ่งเรือง

พระยาแรกนา เสี่ยงทายหยิบได้ผ้านุ่ง 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำปีนี้มีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ดี พร้อมพระโคกินน้ำ หญ้า และเหล้า โหรหลวงพยากรณ์ น้ำท่าบริบูรณ์ การค้าขายดี เศรษฐกิจไทยรุ่งเรือง