OR-โอ้กะจู๋ มอบพลาสติกคลุมโรงเรือนเกษตรกรเชียงใหม่

กรุงเทพฯ​ 27 พ.ค.-OR-โอ้กะจู๋ มอบพลาสติกคลุมโรงเรือนเกษตรกรเชียงใหม่ส่งเสริมผลผลิตอินทรีย์

นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR  เปิดเผยว่าได้ร่วมกับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (“OKJ”) ผู้บริหารร้านอาหารเพื่อสุขภาพ “โอ้กะจู๋” มอบพลาสติกคลุมโรงเรือน ให้แก่เกษตรกรกลุ่มแม่วางจำนวน 45 โรงเรือน และเกษตรกรกลุ่มสะเมิงจำนวน 20 โรงเรือน ณ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ผ่าน “โครงการส่งเสริมการผลิตพืชอินทรีย์”


เป็นหนึ่งในแผนงานร่วมกันส่งเสริมการผลิตพืชอินทรีย์ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มผู้เพาะปลูกไทยให้มีผลผลิตทางการเกษตรที่สม่ำเสมอ มีคุณภาพ และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับกลุ่มเกษตรกรอย่างยั่งยืน โดย OR ได้สนับสนุนเงินทุนกว่า 200,000 บาท เพื่อจัดซื้อวัสดุพลาสติกคลุมพื้นที่โรงเรือน 150 ไมครอนซึ่งผลิตจากเม็ดพลาสติกของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ซึ่งจะช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่า 20-100% โดยช่วยปกป้องพืชผลจากการเหี่ยวเฉาในช่วงฤดูร้อน และช่วยป้องกันไม่ให้พืชแคระแกร็นหรือเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้ และส่งผลให้ได้ผลผลิตที่ไม่มีคุณภาพและไม่สามารถจำหน่ายได้ในช่วงฤดูฝน ถือเป็นการผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. เพื่อยกระดับผลกระทบเชิงบวกต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดแบบครบวงจร พร้อมเปิดประตูความร่วมมือสู่การเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ด้าน บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด จะสนับสนุนองค์ความรู้เกี่ยวกับการปลูกพืช รวมทั้งสนับสนุนและรับซื้อผลผลิตอินทรีย์จากกลุ่มเกษตรกร โดยจะกำหนดชนิดของผักอินทรีย์ และแนะนำการเลือกใช้ชีวภัณฑ์ต่างๆ และติดตามผลระหว่างการปลูก ตั้งแต่การเพาะเมล็ด การเตรียมแปลง การย้ายปลูก การให้น้ำ การป้องกันจำกัดโรคและแมลงศัตรูพืช จนถึงการเก็บเกี่ยวช่วงที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐาน  โดยบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด จะรับซื้อผักจากเกษตรกรไทยคิดเป็นประมาณ 20% ของยอดผักที่ต้องใช้ต่อวันของจำนวนผักที่ใช้ในปัจจุบัน หรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 1 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นการช่วยให้เกษตรกรได้มีอาชีพและสร้างรายได้อย่างมั่นคง


ความร่วมมือในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “S-Small” หรือการสร้างโอกาสเพื่อคนตัวเล็ก เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเติบโตอย่างเข้มแข็งยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”