กรุงเทพฯ 9 พ.ค. – รมว.ดีอีเอส เผยอิทธิพลของพายุไซโคลน “โมคา” จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหลายพื้นที่ 10-14 พ.ค.นี้ เตือนประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้าก่อนออกไปเลือกตั้ง กรมอุตุฯ ย้ำข่าวลือพายุ 2 ลูกเคลื่อนเข้าไทยขนาบซ้ายขวาไม่เป็นความจริง ขออย่าตื่นตระหนก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง ว่า จะมีฝนตกหลายพื้นที่ เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอล มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันในช่วงวันที่ 9-10 พฤษภาคม 2566 คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นอีกเป็นพายุไซโคลน “โมคา” (MOCHA) ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 แนวโน้มการเคลื่อนตัวจะขึ้นไปทางเหนือค่อนไปทางตะวันตกเข้าสู่บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลางและอ่าวเบงกอลตอนบนในช่วงวันที่ 13-14 พฤษภาคม 2566 แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย แต่จะส่งผลให้มีฝนต่อเนื่องในประเทศไทยตอนบน โดยมีฝนตกหลายพื้นที่และตกหนักบางแห่ง ช่วงวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ภาคเหนือมีโอกาสเกิดฝนประมาณร้อยละ 60 ส่วนภาคอื่นๆ รวมถึง กทม. และปริมณฑล มีโอกาสเกิดฝนร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการออกไปใช้สิทธิในวันเลือกตั้ง จึงขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้า
ขณะเดียวกัน ภาคใต้คลื่นลมในทะเลอันดามันจะแรงขึ้น โดยเฉพาะทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วง 9-14 พฤษภาคม 2566
พร้อมกันนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ย้ำว่า สภาพอากาศ 9-15 พฤษภาคม 2566 ไม่มีพายุ 2 ลูกเคลื่อนเข้าไทยขนาบซ้ายขวาตามข่าวลือในสื่อออนไลน์แน่นอน โดยพบการก่อตัวของพายุเพียงลูกเดียวคือ พายุไซโคลน “โมคา” ในอ่าวเบงกอล ฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ส่วนในทะเลจีนใต้ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกยังไม่ปรากฏว่า มีพายุเกิดขึ้น เป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำเท่านั้น
นายชัยวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าอุณหภูมิในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ยังสูงอยู่ บางพื้นที่สูงเกินกว่า 40 องศาเซลเซียส ประกอบกับความชื้นสูงเนื่องจากกำลังเปลี่ยนผ่านจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน จะส่งผลให้ดัชนีความร้อน (Heat index) สูง บางพื้นที่อาจสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส เสี่ยงต่อภาวะลมแดด (Heat stroke) ดังนั้นจึงขอให้ กกต.กลาง กำชับไปยัง กกต.จังหวัด จัดตั้งหน่วยเลือกตั้งโดยคำนึงถึงทั้งฝนและความร้อน หากเป็นไปได้ หลีกเลี่ยงการตั้งหน่วยเลือกตั้งในที่โล่งแจ้ง ส่วนประชาชนที่ไปลงคะแนนให้เตรียมร่มและน้ำดื่มไปด้วย
กรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามลักษณะอากาศ และเปิดให้บริการสอบถามสภาพอากาศที่สายด่วน 1182 หรือสอบถามสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคต่าง ๆ ได้ดังนี้
- ภาคเหนือ ที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 053-277-919
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จังหวัดขอนแก่น โทร. 043-469-234 และศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จังหวัดอุบลราชธานี โทร. 045-244-299
- ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล ที่กรมอุตุนิยมวิทยา โทร. 02-399-4012-3
- ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จังหวัดสงขลา โทร. 074-311-760
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตกที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก จังหวัดภูเก็ต โทร. 076-327-191
ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวพยากรณ์อากาศได้ที่ เว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือเพจเฟซบุ๊ก “กรมอุตุนิยมวิทยา”. -สำนักข่าวไทย