ธปท.คาด GDP ปี 66 โต 3.6% ชี้นโยบายหาเสียงกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – ผู้ว่าฯ ธปท.คาดจีดีพีปี 2566 โต 3.6% ชี้นักท่องเที่ยวต่างชาติ-การบริโภคภาคเอกชน ยังหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง เสถียรภาพเข้มแข็ง แต่ยังกังวลหนี้ครัวเรือน มองนโยบายหาเสียงพรรคการเมืองช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น 


ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเจอวิกฤตจากหลายปัจจัย เริ่มจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก  ขณะที่จีดีพีของไทยปี2563 หดตัวอยูที่ 6.1%, ปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้เงินเฟ้อไทยเพิ่มขึ้นสูงสุด 7.9%  ในเดือน ส.ค.2565 ขณะที่ธนาคารกลางหลักพร้อมใจกันขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงสุดเป้นประวัติการณ์ ส่งผลค่าเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ16 ปี อยู่ที่ 38.40 บาท เมื่อ 28 ก.ย.2565 และปัญหาภาคธนาคารในต่างประเทศ ซึ่งระบบการเงินไทยได้รับผลกระทบในวงจำกัด ทั้งนี้ ธปท.ยังจับตาความผันผวนของตลาดการเงินโลกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มองว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตมาแล้ว ขณะนี้อยู่ในทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปีจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก  โดยคาดว่าครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอยู่ที่ 2.9% และครึ่งปีหลังอยู่ที่ 4.3%  ภาพรวมทั้งปีอยู่ที่ 3.6%  โดยปัจจัยหลักที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าตลอดทั้งปีจะแตะ 28 ล้านคน และการบริโภคภาคเอกชน  แต่ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าครึ่งปีแรกคาดว่าจะติดลบ และกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลัง  ขณะที่รายได้เกษตรกรในช่วงครึ่งปีหลังจะติดลบเนื่องจากปีที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้นสูงมาก จึงเข้าสู่ช่วงปรับลดลง ขณะที่เงินเฟ้อ คาดอยู่ที่ 2.9%  อย่างไรก็ตาม ยังกังวลหนี้ครัวเรือนมองว่าปีนี้จะอยูที่ 86.9% ซึ่งยังอยู่ในระดับสูง แต่ยังมั่นใจว่าจะไม่ลุกลามถึงระบบเสถียรภาพการเงินโดยรวม 


ส่วนการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พ.ค.2565 ที่หลายพรรคการเมืองประกาศนโยบายหาเสียง ลดแลกแจกแถมนั้น หากได้รับเลือกตั้งและมีการนำมาใช้จริง มองว่าเป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น  ได้ผลเพียงชั่วคราว  และจะเกิดผลกระทบตามมา ตัวเลขหนี้ครัวเรือนอาจเพิ่มขึ้น และยังมีค่าเสียโอกาส  อยากเสนอทางเลือกเพิ่มเติมว่าควรนำทรัพยากรที่มีไปบริหารจัดการในภารกิจที่เหมาะสมกับเศราฐกิจของประเทศ-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก