แนะพรรคการเมือง ออกนโยบายสิ่งแวดล้อม 

นิด้า 20 เม.ย.- นักวิชาการ เรียกร้อง พรรคการเมือง  ชูนโยบายสิ่งแวดล้อม  แก้น้ำท่วม พายุ  ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เริ่มรุนแรงมากขึ้น อย่าปล่อยให้ ลูกหลาน…ตาย…ผ่อนส่ง 


นายศิวัช พงษ์เพียจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวในเวทีสัมนา “นโยบายส่ิงแวดล้อม และการจัดการภัยพิบัติ ควรมีในสนามเลือกตั้ง2566  ว่า  ภัยพิบัติทั้งแผ่นดินไหว น้ำท่วม พายุ มีความเสี่ยงเกิดได้ในยุคปัจจุบัน รวมทั้งปัญหาฝุ่น  PM 2.5 เร่ิมรุนแรงมากขึ้น  รัฐบาลชุดใหม่ต้องเตรียมรับมือจากภัยพิบัติเหล่านี้  ยอมรับว่าปัญหาเหล่านี้ยิ่งใหญ่มาก  แต่กลับถูกกำหนดนโยบายเอาไว้บรรทัดหลังสุดของนโยบายหาเสียงของพรรคต่างๆ  

ปัญหาโลกร้อนคืบคลานเข้ามา  จากบทเรียนในอดีต น้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ปัญหาสึนามิในจังหวัดภูเก็ต พังงา บทเรียนดังกล่าวราคาแพงมาก ต้องใช้งบประมาณเยียวยามหาศาล  และต้องสูญเสียชีวิตอีกมากมาย ในต่างประเทศเกิดเหตุแผ่นดินไหว  พายุหิมะในประเทศที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน   ดังนั้น  รัฐบาลชุดใหม่ จึงต้องมีนโยบายออกมากป้องกันและส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM 2.5 มองว่าเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องเร่งแก้ไขและป้องกัน  


นายวีรชัย พุทธวงศ์  นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ควรผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ และควรดึงหลายหน่วยงานมาร่วมแก้ปัญหาและป้องกัน  อย่างเช่น ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดกลับถูกตีตกไปในสภา  นับว่าการเมืองไทยมีปัญหาต่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม  นอกจากนี้ยังต้องอาศัยความร่วมมือกับหลายหน่วยงาน มาร่วมกันป้องกันปัญหาภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วม ปัญหาฝุ่น ภัยแล้ง ล้วนเป็นเรื่องสำคัญมาก หากเกิดปัญหาจะใช้งบประมาณฟื้นฟูสูงมาก 

นายกนก วงษ์ตระหว่าน  ตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า  การเตรียมตัวรองรับปัญหาเคมีรั่วไหล เมื่อเกิดแล้วชุมชนต้องดูแลตัวเองอย่างไร จากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานย่านลาดกระบัง ชาวบ้านได้รับผลกระทบอย่างมาก  อีกทั้งปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขณะนี้ทำให้หลายครัวเรือนทั่วโลกเสียชีวิต  6.5 หมื่นคนต่อปี นับว่ายอดเสียชีวิตหนักมาก จึงเสนอคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามนโยบายรัฐบาลให้เข้าสู่ Net Zero การฟื้นฟูชุมชนหลังเหตุภัยพิบัติต่างๆ  การตั้งกองทุน 5 หมื่นบาท – 1 แสนล้านบาท มาใช้ในการชดเชยดูแล  การตั้งเป้าหมายลดการใช้ถทานหิน และน้ำมัน ในการผลิตกระแสไฟฟ้า  กำหนดการใช้พลังงานสะอาดสัดส่วนสูงขึ้น ปฏิรูปกการผลิตอาหารใหม่ การตั้ง APEC รับซื้อคาร์บอนเครดิต การสร้างตลาดซื้อขายคาร์บอนด์ จากการส่งเสริมให้ประชาชนปลูกต้นไม้มากขึ้น 

นายปลอดประสพ  สุรัสวดี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การผลักดันร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ต้องมีกระบวนการตรวจสอบความสะอาดคุณภาพอากาศ ต้องมีพนักงานอากาศสะอาดคอยติดตามดูแล  ผู้ใดทำให้อากาศเป็นพิษอากาศเสียต้องลงโทษทางอาญา ต้องควบคุมต้นตออากาศเสีย เช่น เผาไร่ข้าวโพด สวน ต้องกำหนดโทษให้ชัดเจน ต้องนำระบบการเกษตรที่ดีมาใช้กับผู้ประกอบการในประเทศ ต้องมีมาตรการแทรกแซง หากใครทำให้เกิดผลเสียต่อส่ิงแวดล้อมการนำข้อตกลงระหว่างประเทศ ป้องกันปัญหาฝุ่นกับประเทศตามแนวชายแดน  ภาครัฐควรมีแผนลดมลพิษ ควบคุมแหล่งกำเนิดเสียงของเสีย ส่วนราชการกำกับดูแลต้องมีอำนาจควบคุม ลงโทษ เพื่อแก้ปัญหาเบร็ดเสร็จ ตั้งกองทุนขึ้นมาดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทยพร้อมผลักดันอย่างเต็มที่ 


น.ต. ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า  การเกิดฝน แผ่นดินข้างล่างต้องชุ่มชื้น เมื่อความอุดมสมบูรณ์น้อยลง จึงมีฝนตกน้อยลง ปัญหาฝุ่น PM  2.5 ยอมรับว่าหนักมาก คนเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ป่วยจากระบบทางเดินหายใจ 2 ล้านคน หากรักษา 10,000 บาทต่อคน ต้องใช้เงินรักษา 20,000 ล้านบาทต่อปี  การปลูกข้าวโพดในเชียงใหม่ 5 ล้านไร่  แต่ยังมีความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ถึง 8 ล้านไร่ ทำให้เกษตรกรต้องเผาซังเข้าโพดและปลูกเพิ่มขึ้น จึงต้องหาทางดูแลการปลูกข้าวโพด ด้วยการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม 

นายเดชรัต  สุขกำเนิด พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกล พร้อมร่วมกับหลายพรรคการเมือง แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมภายใน 100 วันแรกที่เข้าสภา จะเร่งเสนอกฎหมาย และแนวทางแก้ปัญหา เพื่อควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตร เพราะปัจจุบันยังเผาแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายผังเมือง  การควบคุมดูแลการลักลอบทิ้งขยะพิษจากภาคอุตสาหกรรม การลักลอบทิ้งขยะนอกพื้นที่เขตเมือง

นพ.วรงศ์ เดชกิจวิกรม พรรคไทยภักดี กล่าวว่า ต้องหาแนวทางปฏิรูปโครงสร้างพลังงานไทย ด้วยการเปิดเสรีการรับซื้อพลังงานสะอาด ทั้งพลังงานลม โซล่าเซลล์ โรงไฟฟ้าชุมชนจากพืชเกษตร อย่างเสรี  เพื่อลดการใช้น้ำมันจากฟอสซิล เนื่องจากรัฐบาลรับซื้อน้ำมันราคาแพง 9.7 บาทต่อหน่วย แต่มาขายไฟฟ้าให้ชาวบ้าน 4.7 บาทต่อหน่วย จึงทำให้ กฟผ.ขาดทุนนับแสนล้านบาท จึงต้องก้าวข้ามจากพลังงานฟอสซิลเปลี่ยนมาเป็นพืชพลังงาน เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร และลดปัญหาฝุ่นควัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]

ตำรวจภาค 8 รวบ 3 ราย ขบวนการส่งยาขนมากับรถทัวร์

กระบี่ 11 มิ.ย. – รวบขบวนการค้ายาบ้า ขนมากับรถทัวร์ สายเชียงใหม่-ภูเก็ต 3 แสนเม็ด แวะลงกระบี่ ส่งให้เอเย่นต์สาขาสุราษฎร์ฯ ตำรวจรวบทีเดียวทั้งคนส่งและคนรับ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รักษาการ ผบ.ภ.จ.กระบี่ แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ได้ผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด ประกอบด้วย นายสัมพันธ์ อายุ 54 ปี นายสุรพล อายุ 30 ปี และนางสาวสุนารี อายุ 27 ปี พร้อมยึดรถเก๋ง 1 คัน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาบ้ากันบริเวณสามแยกเขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เมื่อถึงเวลาก็มีรถทัวร์สายเชียงใหม่-ภูเก็ต […]

‘ฮุน มาเนต’ ย้ำทหารกัมพูชาไม่ได้ถอยออกจากพื้นที่

ปารีส 10 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งสารจากฝรั่งเศสถึงชาวกัมพูชา ยืนยันจุดยืนกองทัพไม่ได้ถอนออกจากพื้นที่ภายใต้อธิปไตย พร้อมร่วมมือกับไทยปักปันเขตแดน ตามกลไกเจบีซี ยกเว้น 4 จุดที่จะส่งศาลโลกตัดสิน ฮุน มาเนต ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมว่าด้วยมหาสมุทรของสหประชาชาติ ครั้งที่ 3 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ส่งสารถึงชาวกัมพูชา มีใจความดังนี้ กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยสันติ แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการพยายามรุกรานใดๆ กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกลไกการเจรจาชายแดนกับไทยที่มีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพื่อดำเนินงานรังวัดและปักปันเขตแดนที่เหลือระหว่าง 2 ประเทศต่อไป ยกเว้นประเด็นที่กัมพูชาจะส่งให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเจ (ICJ) พิจารณา

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ดูบังเกอร์หลบภัย ถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ มท.

11 มิ.ย.- นายกฯ ดูชาวบ้านทำบังเกอร์ ร้องโถ่ ก่อนถามผู้ว่าฯ สุรินทร์ ทำไมไม่ของบ ก.มหาดไทย หลังรายงานขอรับบริจาคมาใช้แทนยางรถยนต์ วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 13.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ต่อมายังหมู่บ้านสกลพัฒนา ตำบลตะเคียน อำเภอกาบเชิง เพื่อพบปะชาวบ้าน มอบสิ่งของ และตรวจดูการทำบังเกอร์หลบภัย โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง ได้มีชาวบ้านนำผ้าขาวม้ามามอบให้ ซึ่งนายกฯ รับมาก่อนจะหันไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “ผูกกันเป็นทีม” ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค เพื่อให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมการสร้างบังเกอร์ โดยมีนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านสกลพัฒนา รายงาน โดยนายกรัฐมนตรี ถามผู้ว่าฯ ว่า ขอเข้าไปดูได้หรือไม่ และถามชาวบ้านบ้านว่า “ทำมานานหรือยัง” โดยชาวบ้านบอกว่า […]

คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา-ค้านประกันตัว

กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – คุมตัว “หมอแอร์” ฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวฝากขังพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ควบคุมตัวหมอแอร์ ไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากการกระทำความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะมีการหลบหนีและยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในระหว่างควบคุมตัว หมอแอร์สวมหมวก แว่นตาดำ และแมสก์ปิดบังใบหน้า พยายามแอบอยู่หลังเจ้าหน้าที่ โดยไม่ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกจับในขบวนการเดียวกัน พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดาฯ วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) .-สำนักข่าวไทย

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]