ขนส่งสาธารณะคึกคัก ทยอยกลับสงกรานต์

กทม. 12 เม.ย. – ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยใช้บริการขนส่งสาธารณะมากกว่าทุกปี ทำให้บรรยากาศคึกคัก โดยเฉพาะที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ปีนี้เป็นสงกรานต์แรกที่ได้ส่งและรับผู้โดยสารกลับบ้าน

ประชาชนหอบหิ้วสัมภาระการเดินทาง เพื่อเตรียมตัวไปขึ้นรถไฟสายยาว ต้นทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ปลายทางอุบลราชธานี ที่ชานชาลาที่ 1 ซึ่งอยู่ด้านบน หลายคนมาใช้บริการเป็นครั้งแรก บอกว่าสะดวกสบาย

ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ให้บริการขบวนรถไฟทางไกลสายเหนือ สายใต้ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว รวม 52 ขบวน ผู้โดยสารที่มีตั๋วโดยสารแล้ว สามารถนั่งรอภายในโถงด้านล่างสถานี (ประตู 4) โดยเจ้าหน้าที่จะประกาศเรียกไปขึ้นรถบนชานชาลาก่อนขบวนรถออก 20 นาที

สอบถามเจ้าหน้าที่บอกว่า ปกติจะมีผู้โดยสารประมาณ 2,000 คน แต่ช่วงสงกรานต์นี้เพิ่มเป็นวันละกว่า 3,000 คน เพิ่มขึ้นมากกว่า 50%

ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน ทั้งการให้บริการเดินรถ และมาตรการดูแลความปลอดภัย โดยได้ตั้งศูนย์ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค พร้อมกับเพิ่มกำลังพนักงาน เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตำรวจรถไฟ ทั้งบนขบวนรถและสถานี

ส่วนขบวนรถสายสั้น ทั้งขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถนำเที่ยวทุกสาย จำนวน 62 ขบวน ยังคงให้บริการต้นทาง-ปลายทางที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เหมือนเดิม และเพื่อให้การเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ได้อย่างสะดวก การรถไฟฯ และ ขสมก. ยังได้จัด Shuttle Bus ให้บริการรับ-ส่ง ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ส่วนบรรยากาศที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ หรือหมอชิต ก็คึกคักเช่นกัน และน่าจะคึกคักกว่าทุกๆ วัน เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนหยุดสงกรานต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. คาดว่าวันนี้จะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 60,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,500 เที่ยว ซึ่ง บขส.ได้เตรียมรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถทะเบียน 30) มาจัดเสริมในเส้นทางต่างๆ ประมาณ 700 คัน มั่นใจรองรับผู้โดยสารได้เพียงพอ

กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส. กำชับทุกฝ่ายให้อำนวยความสะดวกประชาชน และให้เข้มงวดเรื่องการตรวจสอบชั่วโมงการทำงานของพนักงานขับรถ และขอให้ผู้ประกอบการรถร่วมปฏิบัติตามระเบียบ และกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบมีปัญหาร้องเรียนด้านบริการต่าง ๆ จะลงโทษปรับ และหากทำผิดซ้ำอีกจะลงโทษขั้นสูงสุด นอกจากนี้ขอความร่วมมือให้ติดป้ายแสดงราคาค่าโดยสารที่หน้าช่องขายตั๋วให้ชัดเจน เพื่อแจ้งราคาและป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าโดยสาร. – สำนักข่าวไทย