AOT คาดสงกรานต์ มีผู้เดินทาง 2.37 ล้านคน

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-AOT คาดสงกรานต์ 2566 มีผู้โดยสารเดินทางกว่า 2.37 ล้านคน พุ่งขึ้น 137% จากปีก่อน แนะผู้โดยสารโหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เพื่อวางแผนการเดินทาง


บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT จำนวนกว่า 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 137.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ขณะเดียวกันได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและขอแนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ตรวจสอบข้อมูลและสถานะของจุดบริการต่างๆ เพื่อวางแผนการเดินทาง

AOT ได้ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11–17 เมษายน 2566 ณท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ จะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 14,220 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 59.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ประมาณ 7,500 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 219.20% และเที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 6,720 เที่ยวบินเพิ่มขึ้น 2.44% โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 137.48% แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 1.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 561.76% และผู้โดยสารภายในประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น26.08% 


เมื่อเทียบประมาณการจราจรทางอากาศช่วงสงกรานต์ 2566 กับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปี 2562 พบว่า ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารยังคงติดลบ โดยเที่ยวบินรวมลดลง 18.47% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 17,440 เที่ยวบิน เที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง 20.90% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 9,480 เที่ยวบิน เที่ยวบินภายในประเทศลดลง 15.59% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 7,960 เที่ยวบิน ขณะที่ประมาณการผู้โดยสารรวมลดลง 17.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีจำนวน 2.87 ล้านคน ผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 20.96% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 1.74 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศลดลง11.91% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 1.13 ล้านคน

ด้านการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ท่าอากาศยานของ AOT จึงได้นำนวัตกรรมมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นผ่านทางแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT โดยแอปพลิเคชันสามารถตรวจสอบข้อมูลและสถานะเที่ยวบินรวมถึงตรวจสอบระยะเวลาการรอคิว ณ จุดเช็กอิน (Check-in) จุดตรวจความปลอดภัย (Security) และจุดตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) ตลอดจนตรวจสอบสถานะของกระเป๋าเดินทาง บอกตำแหน่งและจำนวนห้องน้ำที่พร้อมให้บริการภายในอาคารผู้โดยสาร รวมถึงจำนวนช่องจอดรถที่ว่าง สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถสาธารณะสามารถจองรถแท็กซี่ และค้นหาข้อมูลรถสาธารณะได้ นอกจากนี้ AOT ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง Kiosk สำหรับเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ ณ ทสภ.ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสาร โดยไม่ต้องเข้าแถวรอคิวเข้าใช้บริการเคาน์เตอร์ต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระล่วงหน้าได้ 6-12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน) 

ในส่วนของ ทสภ.ได้มีการปรับปรุงการให้บริการเพิ่มเติม โดยได้ติดตั้งระบบส่งคืนถาดใส่สัมภาระอัตโนมัติ(Automatic Return Tray System: ARTS) ณ จุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยติดตั้งแล้วเสร็จจำนวน 4 ชุด ที่จุดตรวจค้นฯ โซน 3 ซึ่งระบบดังกล่าวนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาความคับคั่งในการรอต่อคิวตรวจกระเป๋าและสัมภาระแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสด้วย UV Light (UVC) ได้สูงถึง99.9% และในระหว่างที่ ทสภ.มีการดำเนินงานตามแผนติดตั้งระบบ ARTS ที่เหลืออีก 15 ชุด ทสภ.ได้มีการเปิดใช้งานจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั่วคราว บริเวณท้ายเคาน์เตอร์เช็กอิน Row W พร้อมทั้งสนับสนุนพนักงานปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดตรวจค้นฯ ชั่วคราว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร นอกจากนี้ ทสภ.ได้มีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 12 เมษายน 2566 ถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 18 เมษายน 2566 พร้อมจัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง


สำหรับ ทดม.ได้มีการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าชานชาลาขาออกชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยจะมีการปรับช่องทางเข้าอาคารจอดรถ 7 ชั้น จากเดิมใช้ช่องทางเข้าชั้น 3 เส้นทางเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารภายในประเทศขาออก เปลี่ยนมาใช้ช่องทางเข้าในชั้น 1 แทน ทั้งนี้ จะเริ่มการปรับเปลี่ยนเส้นทางดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2566 ระหว่างเวลา 04.00 – 07.00 น. เท่านั้น นอกจากเวลาดังกล่าว ผู้ใช้บริการสามารถใช้เส้นทางเข้าอาคารจอดรถได้ตามปกติ ทั้งนี้ เพื่อความสะดวก รวดเร็วของผู้โดยสาร ทดม.ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแนะนำตลอดเส้นทางอีกด้วย

AOT ขอเน้นย้ำในหลักเกณฑ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ ติดตัวขึ้นเครื่อง ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องหรือเข้าไปในเขตหวงห้ามในสนามบินได้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีลักษณะที่ปิดสนิทและมีข้อความระบุปริมาตรของบรรจุภัณฑ์ชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นบนอากาศยานรวมกันได้ไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร ทั้งนี้ หากบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวฯ เกินกว่าที่กำหนด (100 มิลลิลิตร) แม้ว่าจะมีของเหลวอยู่เล็กน้อยต้องนำใส่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องโดยเฉพาะอาหารพื้นเมือง เช่น น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกอื่นๆ ที่เป็นของฝากยอดนิยมของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศหากจะนำขึ้นเครื่องต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์มาตรฐานขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องมีฉลากแสดงปริมาตรและที่มาอย่างชัดเจน

สำหรับการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์แสดงตัวตนสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลที่จะเข้าเขตหวงห้าม พื้นที่ควบคุม หรือเขตการบินของสนามบิน ผู้โดยสารขาออกเที่ยวบินภายในประเทศสามารถใช้เอกสารได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ (1) เอกสารฉบับจริงที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถ หนังสือเดินทาง และสูติบัตรฉบับจริง (สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี) เป็นต้น (2) เอกสารรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยแสดงผ่านแอปพลิเคชันที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น DLT QR License หรือ ThaID (ไทยดี) เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่สามารถใช้ภาพถ่าย (Capture) ของเอกสาร หรือภาพถ่ายไฟล์ PDF เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ ทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ และง่ายต่อการปลอมแปลง

AOT ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดพิธีปล่อยแถวปฏิบัติการในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงาน หรือศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัยในสนามบิน โดยมีผู้บริหาร และพนักงาน AOT รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมประจำศูนย์ฯ ตลอดเทศกาล รวมทั้งสนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ โดยจัดพื้นที่สำหรับสรงน้ำพระพุทธรูป จัดกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร จัดกิจกรรมสาธิต และสอนการตัดตุงไส้หมู ตลอดจนประดับตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสารให้มีบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ 

อย่างไรก็ตาม อาจมีผู้มาใช้บริการสนามบินของ AOT จำนวนมาก จึงขอความกรุณาผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมายังสนามบินล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง หรือตรวจสอบข้อมูลสถานะเที่ยวบิน รวมถึงตรวจสอบระยะเวลาการรอบริเวณจุดให้บริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเที่ยวบินและการให้บริการของ AOT ได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]