AOT คาดสงกรานต์ มีผู้เดินทาง 2.37 ล้านคน

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-AOT คาดสงกรานต์ 2566 มีผู้โดยสารเดินทางกว่า 2.37 ล้านคน พุ่งขึ้น 137% จากปีก่อน แนะผู้โดยสารโหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เพื่อวางแผนการเดินทาง


บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT จำนวนกว่า 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 137.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ขณะเดียวกันได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและเจ้าหน้าที่คอยให้บริการและขอแนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT ตรวจสอบข้อมูลและสถานะของจุดบริการต่างๆ เพื่อวางแผนการเดินทาง

AOT ได้ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11–17 เมษายน 2566 ณท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ จะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 14,220 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 59.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ ประมาณ 7,500 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 219.20% และเที่ยวบินภายในประเทศ ประมาณ 6,720 เที่ยวบินเพิ่มขึ้น 2.44% โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 137.48% แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประมาณ 1.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 561.76% และผู้โดยสารภายในประเทศ ประมาณ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น26.08% 


เมื่อเทียบประมาณการจราจรทางอากาศช่วงสงกรานต์ 2566 กับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปี 2562 พบว่า ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารยังคงติดลบ โดยเที่ยวบินรวมลดลง 18.47% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 17,440 เที่ยวบิน เที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง 20.90% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 9,480 เที่ยวบิน เที่ยวบินภายในประเทศลดลง 15.59% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 7,960 เที่ยวบิน ขณะที่ประมาณการผู้โดยสารรวมลดลง 17.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีจำนวน 2.87 ล้านคน ผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 20.96% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 1.74 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศลดลง11.91% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีจำนวน 1.13 ล้านคน

ด้านการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ท่าอากาศยานของ AOT จึงได้นำนวัตกรรมมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นผ่านทางแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT โดยแอปพลิเคชันสามารถตรวจสอบข้อมูลและสถานะเที่ยวบินรวมถึงตรวจสอบระยะเวลาการรอคิว ณ จุดเช็กอิน (Check-in) จุดตรวจความปลอดภัย (Security) และจุดตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) ตลอดจนตรวจสอบสถานะของกระเป๋าเดินทาง บอกตำแหน่งและจำนวนห้องน้ำที่พร้อมให้บริการภายในอาคารผู้โดยสาร รวมถึงจำนวนช่องจอดรถที่ว่าง สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถสาธารณะสามารถจองรถแท็กซี่ และค้นหาข้อมูลรถสาธารณะได้ นอกจากนี้ AOT ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง Kiosk สำหรับเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ ณ ทสภ.ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสาร โดยไม่ต้องเข้าแถวรอคิวเข้าใช้บริการเคาน์เตอร์ต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระล่วงหน้าได้ 6-12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน) 

ในส่วนของ ทสภ.ได้มีการปรับปรุงการให้บริการเพิ่มเติม โดยได้ติดตั้งระบบส่งคืนถาดใส่สัมภาระอัตโนมัติ(Automatic Return Tray System: ARTS) ณ จุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยติดตั้งแล้วเสร็จจำนวน 4 ชุด ที่จุดตรวจค้นฯ โซน 3 ซึ่งระบบดังกล่าวนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาความคับคั่งในการรอต่อคิวตรวจกระเป๋าและสัมภาระแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสด้วย UV Light (UVC) ได้สูงถึง99.9% และในระหว่างที่ ทสภ.มีการดำเนินงานตามแผนติดตั้งระบบ ARTS ที่เหลืออีก 15 ชุด ทสภ.ได้มีการเปิดใช้งานจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั่วคราว บริเวณท้ายเคาน์เตอร์เช็กอิน Row W พร้อมทั้งสนับสนุนพนักงานปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดตรวจค้นฯ ชั่วคราว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร นอกจากนี้ ทสภ.ได้มีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 12 เมษายน 2566 ถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 18 เมษายน 2566 พร้อมจัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง


สำหรับ ทดม.ได้มีการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าชานชาลาขาออกชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยจะมีการปรับช่องทางเข้าอาคารจอดรถ 7 ชั้น จากเดิมใช้ช่องทางเข้าชั้น 3 เส้นทางเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารภายในประเทศขาออก เปลี่ยนมาใช้ช่องทางเข้าในชั้น 1 แทน ทั้งนี้ จะเริ่มการปรับเปลี่ยนเส้นทางดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2566 ระหว่างเวลา 04.00 – 07.00 น. เท่านั้น นอกจากเวลาดังกล่าว ผู้ใช้บริการสามารถใช้เส้นทางเข้าอาคารจอดรถได้ตามปกติ ทั้งนี้ เพื่อความสะดวก รวดเร็วของผู้โดยสาร ทดม.ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแนะนำตลอดเส้นทางอีกด้วย

AOT ขอเน้นย้ำในหลักเกณฑ์การนำของเหลว เจล สเปรย์ ติดตัวขึ้นเครื่อง ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) โดยสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องหรือเข้าไปในเขตหวงห้ามในสนามบินได้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีลักษณะที่ปิดสนิทและมีข้อความระบุปริมาตรของบรรจุภัณฑ์ชัดเจน ซึ่งผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นบนอากาศยานรวมกันได้ไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร ทั้งนี้ หากบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณของเหลวฯ เกินกว่าที่กำหนด (100 มิลลิลิตร) แม้ว่าจะมีของเหลวอยู่เล็กน้อยต้องนำใส่ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่องโดยเฉพาะอาหารพื้นเมือง เช่น น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกอื่นๆ ที่เป็นของฝากยอดนิยมของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศหากจะนำขึ้นเครื่องต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์มาตรฐานขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และต้องมีฉลากแสดงปริมาตรและที่มาอย่างชัดเจน

สำหรับการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์แสดงตัวตนสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลที่จะเข้าเขตหวงห้าม พื้นที่ควบคุม หรือเขตการบินของสนามบิน ผู้โดยสารขาออกเที่ยวบินภายในประเทศสามารถใช้เอกสารได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ (1) เอกสารฉบับจริงที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับรถ หนังสือเดินทาง และสูติบัตรฉบับจริง (สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี) เป็นต้น (2) เอกสารรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยแสดงผ่านแอปพลิเคชันที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น DLT QR License หรือ ThaID (ไทยดี) เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่สามารถใช้ภาพถ่าย (Capture) ของเอกสาร หรือภาพถ่ายไฟล์ PDF เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูลได้ ทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ และง่ายต่อการปลอมแปลง

AOT ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดพิธีปล่อยแถวปฏิบัติการในการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงาน หรือศูนย์ร่วมรักษาความปลอดภัยในสนามบิน โดยมีผู้บริหาร และพนักงาน AOT รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมประจำศูนย์ฯ ตลอดเทศกาล รวมทั้งสนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ โดยจัดพื้นที่สำหรับสรงน้ำพระพุทธรูป จัดกิจกรรมมอบของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสาร จัดกิจกรรมสาธิต และสอนการตัดตุงไส้หมู ตลอดจนประดับตกแต่งภายในอาคารผู้โดยสารให้มีบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ 

อย่างไรก็ตาม อาจมีผู้มาใช้บริการสนามบินของ AOT จำนวนมาก จึงขอความกรุณาผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมายังสนามบินล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง หรือตรวจสอบข้อมูลสถานะเที่ยวบิน รวมถึงตรวจสอบระยะเวลาการรอบริเวณจุดให้บริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT เพื่อป้องกันการพลาดเที่ยวบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลเที่ยวบินและการให้บริการของ AOT ได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]

“ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี”

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี” ชี้กองทัพพร้อมประสานข้อมูลเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่เหมาะสมเรื่องของข้อมูล และความน่าเชื่อถือ ว่า น.ส.ปนัดดา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีความสนใจในเรื่องบ้านเมือง ซึ่งข้อมูลด้านการทหารอาจจะรู้ไม่เยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่มีความตั้งใจ อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งก็เป็นการเสนอจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งต้นคิดว่าเรื่องของการได้ข้อมูล เมื่อทางทหารสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้ดี นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชาเป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่าใช้โฆษกทหารที่เป็นผู้ชายไปโต้แย้ง เราอาจจะเสียเปรียบกว่า ซึ่งเห็นว่า น.ส.ปนัดดา มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลก็ให้ประสานกับกองทัพอย่างเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตรงนี้ตนคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่ น.ส.ปนัดดา จะพูดออกมา เป็นการกลั่นกรองมาจากทางกองทัพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ประมาณนั้น […]