กยท. 24 พ.ค.-การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)และบริษัท เหินฟง
รับเบอร์ อินดัสเทรียล จำกัด ลงนามซื้อขายยางแท่งระหว่างกันเฉลี่ยเดือนละ 5,000 ตัน
ส่งมอบล๊อตแรกปลายเดือนมิถุนายนนี้
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการกยท.กล่าวว่า
บริษัท เหินฟง รับเบอร์ อินดัสเทรียล จำกัด เป็นผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศจีน มีกำลังการผลิตจำนวนมาก และมีความต้องการใช้ยางวันละประมาณ 30,000 ตัน ซึ่งการลงนามของ 2 ฝ่ายเป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อขายยาง
ซึ่งในสัญญาซื้อขายฉบับแรก ทางบริษัท เหินฟงฯได้แสดงความจำนงต้องการซื้อยางจากกยท.เดือนละ
5,040 ตัน ซึ่งจะเป็นยางประเภท STR 20
หรือยางคอมปาวน์ ตามมาตรฐานสากล เริ่มส่งมอบงวดแรกปลายเดือนมิถุนายนนี้
โดยกยท. จะเป็นผู้รวบรวมยางจากเกษตรกรชาวสวนยางด้วยการซื้อผ่านทางสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ
กยท. และคัดเลือกยางที่มีคุณภาพเหมาะสมตรงตามความต้องการ ป็นการดูดซับเอายางจากฤดูกาลเปิดกรีดนี้ออกจากตลาดได้ประจำทุกเดือน
ซึ่งเกษตรกรชาวสวนยาง หรือสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่มีศักยภาพจะมีส่วนร่วมในการจำหน่ายวัตถุดิบในโครงการนี้ด้วย
นายธีธัช กล่าวว่า
ความต้องการใช้ยางของบริษัท เหินฟงฯนั้นมีมากหากผ่านไปแล้ว 6 – 8 กยท.อาจจะปรับเพิ่มตามความต้องการใช้ เพราะในเครือบริษัทของกลุ่ม เหินฟง
มีมากถึง 45 บริษัท
ที่อยู่ในมลฑลชานตุง ซึ่งมีความต้องการใช้ยางปีละ 1.5
ล้านตัน
นายสังข์เวิน ทวดห้อย
ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยาง กรรมการกยท. กล่าวว่า ในฐานะเกษตรกรชาวสวนยางมีความพึงพอใจมาก
เพราะมีความมุ่งหวังในการเป็นผู้นำด้านการผลิตยาง ซึ่งในระดับต่างประเทศ
เกษตรกรชาวสวนยางก็สามารถทำได้ และขณะนี้ กยท.ได้ทำหน้าที่ในการมองหาตลาด
เป็นสื่อกลางเพื่อรวบรวมวัตถุดิบที่มีคุณภาพขายให้ผู้บริโภคโดยตรง เกษตรกรชาวสวนยาง
ซึ่งเป็นฝ่ายผลิต ฝ่ายวัตถุดิบจะต้องให้ความสำคัญในกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำคือ
การดูแลและควบคุมเรื่องคุณภาพ อย่างเช่นยางก้อนถ้วย
ควรให้ความระมัดระวังไม่ให้มีสิ่งปลอมปน ในส่วนของกลางน้ำ
จะต้องมีกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพเช่นกัน เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของยางพาราไทย
ซึ่งผู้บริโภค หรือผู้ซื้อจะได้เชื่อมั่นและพึงพอใจต่อสินค้า
ก่อให้เกิดการซื้อขายและทำธุรกิจร่วมกันอย่างยาวนานที่สุด-สำนักข่าวไทย
