กลุ่ม ปตท.จัดงานโชว์สุดยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมนำอนาคต

กรุงเทพ 1 มี.ค.-กลุ่ม ปตท.ขนทัพเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจใหม่ปตท. จัดแสดง 28 ก.พ. – 3 มี.ค. นี้ ณ ปตท. สํานักงานใหญ่ พบผู้นำด้านนวัตกรรมสุดล้ำ พร้อมอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคต รวมทั้งนําเสนอนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ของกลุ่ม ปตท.ที่พร้อมจับมือต่อยอดและขยายโอกาสสู่ธุรกิจที่ไกลกว่าพลังงาน


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และ นายวราวุธ ศิลปอาชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในพิธีเปิดงาน  PTT Group Tech and Innovation Day ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด”Beyond Tomorrow:นวัตกรรม นำอนาคต”โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการบริษัทปตท.จำกัด(มหาชน) นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน)และ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) พร้อมผู้บริหาร ปตท.พันธมิตรภาครัฐและเอกชนชั้นนำเข้าร่วม

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) กล่าวว่างาน  PTT Group Tech and Innovation Day จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ 3 มีนาคม 2566 เป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญเพื่อแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีและการลงทุนด้านนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท.ตลอดจนสร้างการรับรู้ของเทคโนโลยีในอนาคตและหาโอกาสต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ทั้งจากภายในกลุ่ม ปตท.และหน่วยงานภายนอก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ความเป็นกลางทางคาร์บอน และ Net Zero Emissions การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ 


ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

1.นิทรรศการ แสดงผลงานทางด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจใหม่จาก กลุ่ม ปตท. ใน 7 ด้าน ประกอบด้วยFuture Energy, Future Mobility, Life Science, AI, Robotics & Digitalization, Logistics & Infrastructure, Decarbonization และ Innovation Ecosystem ที่มีส่วนในการช่วยสร้างสรรค์และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในสังคม อาทิ การดูแลสิ่งแวดล้อมจากพลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า สุขภาพและการแพทย์จากวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต สิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันของภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมจากระบบการขนส่งโครงสร้างพื้นฐาน หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน

2.Tech Talk เวทีแลกเปลี่ยนแนวคิด และเทรนด์เทคโนโลยี นวัตกรรมที่น่าจับตาจากภาครัฐที่ขับเคลื่อนนโยบายและผู้นำด้านนวัตกรรมกว่า 23 หัวข้อ


3.Pitching Desk พื้นที่นำเสนอนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ของกลุ่ม ปตท. กว่า 30 แบรนด์ ที่พร้อมให้นักลงทุนและผู้สนใจได้ร่วมพูดคุย ต่อยอดและขยายโอกาสการเติบโตสู่ธุรกิจที่ไกลกว่าพลังงานไปด้วยกัน ตลอดจนจะได้พบกับสินค้านวัตกรรมที่พร้อมให้ช้อป ชิมจากกลุ่ม ปตท. อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจาก Innobic, น้ำเชื่อมหญ้าหวานNatural Nxt, , อาหารโปรตีนจากพืช NRPT, ไอศกรีมกะทิสดแท้ Kathisod Station และผลิตภัณฑ์รักษ์โลกจากMORE

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า งาน PTT Group Tech & Innovation Day ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยตลอดทั้ง 4 วัน นอกจากผลงานต่างๆ ที่มีการนำเสนอภายในงานแล้ว กลุ่ม ปตท. ยังคงมุ่งมั่นพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ตลอดจนเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ให้ตอบโจทย์การดูแล สิ่งแวดล้อม เทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คนและความต้องการของภาคธุรกิจ ที่จะมีความหลากหลายมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งกำลังสาคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตเป็นที่ยอมรับท้ังในภูมิภาคอาเซียนและเวทีโลก พร้อมขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคตได้ตามวิสัยทัศน์ของ ปตท.

นายสุพัฒนพงษ์ ยังได้กล่าวปาฐกถา เปิดงาน PTT Group Tech & Innovation Day ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศที่เป็นปัญหาสำคัญของโลก จนส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีพลังงานจากการใช้พลังงานแบบดั้งเดิม(ฟอสซิล) ไปสู่การใช้พลังงานสะอาด เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และประเทศไทย จำเป็นต้องดำเนินการตามกติกาของโลก โดยวางโรดแมป การมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality 2050 ภายใต้การดำเนินงานใน 6 แผนงาน ประกอบด้วย 

1.ภาคไฟฟ้า จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด เช่น โซลาร์ ลม ให้มากกว่า 50% ภายในปี 2586 (ค.ศ.2043) 

2. ภาคขนส่ง มุ่งส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ตามนโยบาย 30@30 และการลงทุนในสถานีอัดประจุไฟฟ้า และแบตเตอรี่ 

3.ภาคอุตสาหกรรม อาคาร ที่อยู่อาศัย จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์พลังงาน ลดความเข้มการใช้พลังงาน40% ในปี 2593 (ค.ศ.2050)

 4. การลดนอกเหนือจากภาคพลังงาน(กระบวนการอุตสาหกรรม เกษตร ของเสีย)

 5. ปลูกป่า 

และ6. ส่งเสริมมาตรการและเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Carbon Capture Utilization and Storage (CCUS)

ทั้งนี้ เชื่อว่าจากโรดแมปดังกล่าว ประเทศไทยอาจไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าแผน โดยเฉพาะหากมี CCUS เกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ กฟผ. ก็เข้าไปดูพื้นที่เหมืองแม่เมาะ ร่วมกับ ปตท.สผ. เพื่อพัฒนาเป็น CCUS และก็ดูพื้นที่ในอ่าวไทย ขณะเดียวกัน กลุ่มปตท.เอง ก็ได้ไปจัดวางพอร์ตลงทุนสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ด้วย ฉะนั้นไทยจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ปตท.อาจจะมีความกังวลเรื่องการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานจากฟอสซิล ไปสู่พลังงานสะอาด แต่หากปตท.ปรับตัวได้ทันผันไปสู่การลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตวกรรมพลังงานรูปแบบใหม่ๆมากขึ้น ก็จะเกิดอุตสาหกรรมใหม่เข้ามาแทนที่ ซึ่งในช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ปตท.ก็มีการปรับตัวเข้าไปศึกษาและแสวงหาโอกาสการลงทุนด้านพลังงานใหม่ร่วมกับพันธมิตร และวันนี้ สิ่งที่ปตท.ได้ดำเนินการไว้กำลังจะออกดอกและผลให้กับ ปตท.ในอนาคต และจะเกิดเป็นอุตสาหกรรมใหม่ของประเทศ

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาล ได้เตรียมความพร้อมส่งเสริมการลงทุนพลังงานสะอาดทั้งการเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 5,000-10,000 เมกะวัตต์ ส่งเสริมการตั้งฐานผลิตรถอีวี แบตเตอรี่ และที่สำคัญแม้ว่าไทยจะเป็นฐานการผลิตรถยนต์แต่ในส่วนของอิเล็กทรอนิกส์ยังต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากต่างประเทศ 30% แต่จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศทำให้ผู้ผลิตลังเลและตัดสินใจย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นแทน เช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ แต่วันนี้ประเทศจะดึงผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กลับมา ขณะเดียวกันกลุ่มปตท.ก็มีการลงทุนในด้านนี้ด้วยก็เชื่อว่าจะกลายเป็นธุรกิจใหม่ในอนาคต

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวย้ำว่า วันนี้ ทุกคนจะหันกลับมาประเทศไทยแล้ว และยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ล่าสุดปี2565 อยู่ที่ระดับ 6.6 แสนล้านบาท ถือเป็นทิศทางการลงทุนที่ดีมาก ซึ่งในอดีตยอดขอ BOI เคยไปแตะ 1 ล้านล้านบาท ฉะนั้น ถ้าไทยสร้างฐานดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนก็จะไปแตะ 1 ล้านล้านบาทได้ ก็จะเป็นผลพวงให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้

นายนฤตย์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวในงานเสวนา “Thailand Strategic Direction for Future” ว่า การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ หรือ เอฟดีไอในช่วงปี 2558-2565 มีมูลค่ารวม 2.22 ล้านล้านบาท โดยมีประเทศญี่ปุ่นลงทุนเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 24% ของมูลค่าเอฟดีไอทั้งหมดซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกแหล่งลงทุนในอนาคตมาจาก ศักยภาพของตลาด,โครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ,ความพร้อมของบุคลากร ,กฎระเบียบที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ, ฐานอุตสาหกรรมสนับสนุน, ต้นทุนที่เหมาะสมและสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ ซึ่งในระยะต่อไปจะต้องพิจารณาถึงเรื่องต่างๆเหล่านี้ด้วย เช่น สงครามการค้า ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน การบริหารจัดการสถานการณ์ที่ไม่กระทบธุรกิจและความสามารถในการจัดหาพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น

สำหรับจุดแข็งของไทยในการดึงดูดการลงทุนในอดีต คือ โครงสร้างพื้นฐานดี เช่น ไฟฟ้า ประปา ถนน โทรคมนาคมท่าเรือ สนามบินและนิคมอุตสาหกรรม, ฐานอุตสาหกรรมสนับสนุนความพร้อม เช่น วัตถุดิบ ชิ้นส่วนรองรับอุตสาหกรรมต่างๆ, บุคลากรโดยรวมมีคุณภาพ,ตลาดในประเทศมีขนาดใหญ่และมีศักยภาพ,สิทธิประโยชน์แข่งขันได้และสภาพแวดล้อมน่าอยู่ เป็นมิตรกับธุรกิจและมีต้นทุนที่เหมาะสม ส่วนจุดแข็งใหม่ของไทย คือ EEC โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก,Renewable Energy พลังงานทดแทน,Resiliency ความยืดหยุ่น,Ease of Investment and Living in Thailand ความยากง่ายในการลงทุนและการพำนักอาศัยในเมืองไทย รวมทั้ง Conflict-free Zone ความขัดแย้งในเขตปลอดอากร เป็นต้น

ทั้งนี้ มี 5 อุตสาหกรรมที่เรากำลังจะพุ่งเป้าไป คือ 1.BCG โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 2.EV รถพลังงานไฟฟ้า3.Smart Electronics อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ 4.Digital ดิจิทัล 5.Creative ความคิดสร้างสรรค์

สำหรับแผนยุทธศาสตร์การลงทุนในอีก 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2566-2570) คือ 1.การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมและสร้างความเข้มแข็งในห่วงโซ่อุปทาน 2.เร่งเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมอัจฉริยะและยั่งยืน หรือ  Smart and Sustainable Industry 3.ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศและประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค4.ส่งเสริมเอสเอ็มอีและสตาร์ท อัพ ให้เข้มแข็งและเชื่อมต่อโลก 5.ส่งเสริมการลงทุนตามศักยภาพพื้นที่เพื่อสร้างความเติบโตอย่างทั่วถึง 6.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อชุมชนและสังคม และ 7.การส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศเพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]