กรมบัญชีกลางแจงเปลี่ยนระบบรับชำระเงินจากเครื่อง EDC

กรุงเทพฯ 27 ก.พ. – กรมบัญชีกลางแจงเรื่องการเปลี่ยนระบบรับชำระเงินจากเครื่อง EDC เป็นแอปฯ ถุงเงิน สำหรับร้านค้าที่รับชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ


นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางในฐานะที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าที่รับชำระเงินค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ดำเนินการวางเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ให้แก่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (เดิมชื่อร้านธงฟ้าประชารัฐ) ของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งขณะนี้เครื่อง EDC เริ่มทยอยสิ้นสุดระยะเวลาการรับประกันการใช้งาน 5 ปี แล้ว หากร้านค้ามีความประสงค์จะใช้เครื่อง EDC ต่อ จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าบริการที่ บมจ. ธนาคารกรุงไทย เรียกเก็บประมาณ 2,100 บาทต่อปี โดย บมจ. ธนาคารกรุงไทย จะให้ร้านค้าที่ประสงค์ใช้งานเครื่อง EDC ต่อ ทำข้อตกลง ซึ่งจะเริ่มเก็บค่าบริการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 และปีถัดไปจะต้องชำระภายในเดือนมีนาคมของทุกปี สำหรับร้านค้าที่ไม่ประสงค์จะใช้งานเครื่อง EDC ต่อ สามารถเปลี่ยนไปใช้แอปพลิเคชันถุงเงินแทนได้ (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) โดยส่งคืนเครื่อง EDC พร้อมอุปกรณ์ที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัด และต้องยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงระบบรับชำระสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจากเครื่อง EDC เป็นแอปพลิเคชันถุงเงินที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหรือกรมการค้าภายใน

“ทั้งนี้ ร้านค้าที่เครื่อง EDC มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีแล้ว กรมบัญชีกลางจะมีหนังสือแจ้งไปยังร้านค้า เพื่อให้ติดต่อที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดเท่านั้น จะไม่มีการโทรสอบถามข้อมูลใด ๆ โปรดอย่าหลงเชื่อและระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง โทรสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงิน หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย