สรรพสามิตยันจับสุราเถื่อน เป็นไปด้วยความชอบธรรม

กทม. 19 ก.พ.- กรมสรรพสามิตยืนยันกรณีจับกุมสุราเถื่อน จ.แพร่ เป็นไปด้วยความชอบธรรม และปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม


นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่าตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานสรรพสามิต สังกัดสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ กรณีจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ขนสุราที่ผลิตขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยใช้รถจักรยานยนต์และเกิดอุบัติเหตุ เฉี่ยวชนกับรถยนต์ของทางราชการ จนเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ โดยระบุว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ใช้รถของทางราชการพุ่งเข้าชน นั้น

กรมสรรพสามิต ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ ก่อนวันเกิดเหตุสรรพสามิตพื้นที่แพร่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการขนสุราที่ผลิตขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งลักลอบผลิตบริเวณป่าเขา เขตพื้นที่บ้านนาตอง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โดยจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการขนสุราที่ผลิตได้ และจะทำการขนในกลางคืน ประมาณเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป โดยจะนำสุราซึ่งบรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกที่มีปริมาณน้ำสุราประมาณ 25 ลิตร และห่อหุ้มด้วยถุงผ้า วางไว้บริเวณหว่างขาของผู้ขับ จะมาตามเส้นทางถนนช่อแฮ – นาตอง เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปในตำบลช่อแฮและตำบลใกล้เคียง​​​​สายตรวจสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ จึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าตรวจสอบจับกุม ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 โดยกำหนดจุดเพื่อทำการตรวจสอบ ณ บริเวณถนนสายช่อแฮ-นาตอง ห่างจาก ปากทางเข้าวัดพระธาตุดอยเล็ง ต.ช่อแฮ ประมาณ 150 เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีไฟฟ้าส่องสว่างข้างทางชัดเจน จนเวลาประมาณ 22.50 น. เจ้าพนักงานฯ ได้สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์วิ่งตามกันมา 2 คัน สังเกตเห็นลักษณะตามที่ได้รับแจ้ง จึงได้ส่งสัญญาณไฟเพื่อให้หยุด เมื่อรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 หยุดแล้ว เจ้าพนักงานฯ จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตขอตรวจสอบ โดยแยกกันตรวจสอบ คันแรก ผู้ขับขี่เป็นผู้หญิง คันที่สองผู้ขับขี่เป็นผู้ชาย ขณะทำการตรวจสอบรถคันที่สอง ผู้ขับขี่ได้เร่งเครื่องยนต์ย้อนกลับไปทางเดิม โดยมีเจ้าพนักงานฯ ได้พยายามคว้าจับรถจักรยานยนต์เพื่อให้หยุด แต่ไม่สามารถทำให้รถจักรยานยนต์หยุดได้ และทำให้ถุงผ้าขนาดใหญ่ จำนวน 1 ถุง ที่วางอยู่บริเวณหว่างขา ตกหล่นบนถนนห่างจากจุดหยุดรถประมาณ 6 – 8 เมตร เจ้าพนักงานฯ จึงวิ่งไล่ตามและส่วนหนึ่งได้ขับรถยนต์ราชการ ตามไปเพื่อแซงและส่งสัญญาณให้หยุด แต่ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ของผู้กระทำผิดเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของทางราชการ บริเวณแก้มซ้ายและประตูหลังซ้ายของรถยนต์ เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ล้มลงและผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งบริเวณเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันห่างจากจุดตรวจสอบประมาณ 100 เมตร หลังจากนั้น เจ้าพนักงานฯ ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและได้ตรวจสอบถุงผ้าขนาดใหญ่ทั้ง 2 ถุง ปรากฏว่าเป็นสุรากลั่นชนิดสุราขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกห่อหุ้มด้วยถุงผ้า


ส่วนผู้ขับขี่ผู้หญิงทราบชื่อภายหลัง ชื่อนางสายพิน แผ่นทอง เจ้าพนักงานฯ จึงแจ้งแก่ นางสายพิน ว่าได้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 และแจ้งสิทธิตามกฎหมาย พร้อมนำตัวและของกลางส่งสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ สาขาเมืองแพร่ เพื่อดำเนินการต่อไป และผู้มีอำนาจเปรียบเทียบคดีได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 30,000 บาท ตามใบเสร็จรับเงินเล่มที่ 00089 เลขที่ 46 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 คดีที่ 20/2566

ส่วนกรณีชายผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุทราบชื่อภายหลังชื่อนายสมบัติ แผ่นทอง ซึ่งมีบางสื่ออ้างว่าเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพยายามแก้ปัญหาโดยการนำผู้บาดเจ็บและจักรยานยนต์ชำรุดออกจากที่เกิดเหตุโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่นั้น กรมสรรพสามิตขอชี้แจงว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยเจ้าพนักงานฯ ได้โทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ภัย ณ ที่เกิดอุบัติเหตุทันที เพื่อให้มารับตัวนายสมบัติ ไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแพร่ โดยมีเจ้าพนักงานฯ ให้ความช่วยเหลือขึ้นติดตามไปกับรถกู้ภัยและอยู่ดูแลตั้งแต่เข้าห้องฉุกเฉิน จนนายสมบัติฯ ถูกส่งตัวขึ้นไปพักรักษาพยาบาลที่ตึกศัลยกรรมกระดูกชาย โรงพยาบาลแพร่ ในเบื้องต้นพบอาการบาดเจ็บที่บริเวณต้นขาซ้าย

สำหรับพนักงานขับรถยนต์ราชการได้ไปพบพนักงานสอบสวน ที่สถานีตำรวจภูธรพระธาตุช่อแฮ ตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ เพื่อเข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 01.50 น.
หลังวันเกิดเหตุ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 09.30 น. ได้มีการนำรถยนต์ของทางราชการที่เกิดอุบัติเหตุไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ เพื่อให้พิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานการเกิดอุบัติเหตุ ร่องรอยการเฉี่ยวชนพร้อมรถจักรยานยนต์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการตรวจยึดไว้ และเวลา 14.00 น. เจ้าพนักงานสรรพสามิตที่อยู่ในวันเกิดเหตุได้เดินทางไปชี้สถานที่เกิดเหตุ เพื่อจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมพนักงานสอบสวน


ทางด้านการช่วยเหลือดูแลผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ทางกรมสรรพสามิต ไม่ได้นิ่งดูดาย ได้มีเจ้าพนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่เข้าเยี่ยมด้วยความห่วงใย ณ โรงพยาบาลแพร่ พร้อมกันนี้ ยังได้ประสานแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ ให้ดูแลผู้บาดเจ็บได้ใช้สิทธิในการรักษาพยาบาลจากประกันภัยด้วย

​เบื้องต้นจากการที่เจ้าพนักงานฯ ได้พูดคุยผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่า นายสมบัติ เคยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ทำสุราชุมชนแต่ได้เลิกกิจการไปแล้ว ในส่วนของกลางสุรากลั่นบรรจุถุงพลาสติกและห่อหุ้มด้วยถุงผ้าที่ตกหล่นบนถนนนั้น ได้นำส่งสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่แพร่ สาขาเมืองแพร่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“กรมสรรพสามิต ขอยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฯ ดังกล่าว เป็นไปตามหลักปฏิบัติในการเข้าตรวจสอบจับกุม และไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งได้ดูแลตามหลักมนุษยธรรมอีกด้วย อย่างไรก็ดี กรมสรรพสามิตขอย้ำเตือนว่า การผลิตสุราเถื่อนมีความผิดทางกฎหมาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคจนอาจทำให้เสียชีวิตได้ จึงอยากรณรงค์ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ถูกต้อง” นายณัฐกร กล่าวสรุป

หากผู้ใดพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่สรรพสามิต หรือพบการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1713 หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]