กรุงเทพฯ 15 ก.พ.-ตลท.ร่วมกับพันธมิตรเปิดเทรนด์ปี 2566 ชี้ 4 ปัจจัยผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนไทยต้องรู้ เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงด้าน ESG ในสัมมนา SET Sustainability Forum
งานสัมมนา “SET Sustainability Forum” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ ตลท.โดยมีนายประสารไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ “Sustainability Transformation – the Real Test for Leadership” ว่า มี 4 ปัจจัยหลักที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนไทยต้องรู้ คือ
1.การปรับตัวของภาครัฐในมิติสิ่งแวดล้อม สืบเนื่องจากประชุม COP26/COP27 ที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะด้านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นทั้งความเสี่ยงและโอกาสของธุรกิจ
2.ประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมาก
3.ความสำคัญของข้อมูล ESG ต่อผู้ลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดกลยุทธ์การลงทุนของผู้ลงทุนทั่วโลก
4.ความเสี่ยงด้าน ESG ที่ผู้นำทุกภาคส่วนควรรู้และให้ความสำคัญ ซึ่งครอบคลุมถึงการปรับตัวของธุรกิจบทบาทของคณะกรรมการ การนำเครื่องมือมาใช้ประเมินความเสี่ยง รวมถึงมุมมองจากผู้ลงทุนสถาบัน
นายประสารกล่าวว่า ปี 2566 เป็นปีที่ภาคธุรกิจไทยต้องการภาวะผู้นำมากที่สุด เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมรุนแรงซับซ้อนยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อเนื่องและใกล้ตัวเข้ามาทุกที อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีศักยภาพและข้อได้เปรียบ หากไม่เร่งปรับตัวจะเสียโอกาสและขีดความสามารถในการแข่งขันในที่สุด ที่สำคัญ ปัจจัยความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนให้ทันเวลา คือ ผู้นำองค์กรต้องเป็นผู้นำที่มององค์รวม คือ ทั้ง E, S และ G ผู้นำที่พร้อมลงมือทำสามารถนำพาองค์กรเรียนรู้เท่าทันโลก และสามารถทำงานกับทุกฝ่าย เพื่อสานพลังพลิกสถานการณ์หรือสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ นี่คือบททดสอบของผู้นำที่แท้จริง ณ ทางแยกที่เราต่างเผชิญร่วมกันอยู่ในวันนี้ ทางหนึ่งคือ Business as Usual หรือคิดว่า อีกตั้งหลายบริษัทก็ยังไม่ได้เริ่ม เราก็ยังไม่ต้องทำหรอกหรือเราจะเป็นผู้นำที่เล็งเห็นว่า จริงๆ แล้ว บริษัทเราลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานลงได้อีกมาก บริษัทเราช่วยสังคมพัฒนาคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพได้ผ่านสวัสดิการพนักงานที่ดูแลไปจนถึงลูกเขาในช่วงอายุต่างๆ
ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงความสำคัญและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง โดยการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ อัปเดตทิศทาง ESG Trends และสร้างเครือข่ายบุคลากรที่ทำงานด้านความยั่งยืนในตลาดทุนและที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน รวมทั้งสร้างเครื่องมือด้าน ESG เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจด้านต่างๆอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย