13 ก.พ. – ปัญหาการฉ้อโกงผ่านระบบออนไลน์ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดวันนี้ กระทรวงพาณิชย์ เปิดแถลงข่าวเตือนประชาชน หากมีการโทรแชทไลน์ไปชวนทำธุรกรรม ในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าขณะนี้มีกรณีเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับกระทรวงพาณิชย์ หลอกลวงติดต่อทางโทรศัพท์และ Line โดยแอบอ้าง เอกสาร และเว็บไซต์หน่วยงานในกระทรวงฯ ขอข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอตรวจสอบข้อมูลทางธุรกิจเรื่องต่าง ๆ การเสนอเงินให้ความช่วยเหลือทางธุรกิจ โดยให้คลิ๊กลิ้งก์เข้าไปให้ผู้เสียหายกด นำไปสู่การหลอกลวง ดึงเงินจากบัญชี เกิดความเสียหายต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว และเรียกประชุมหารือกับหน่วยงานภายในทันที พร้อมกับได้ออกแนวปฏิบัติเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าทุกครั้งที่ได้รับโทรศัพท์หรือข้อความที่กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ หรือหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ ขอให้สงสัยก่อนว่าเป็นการแอบอ้างจากมิจฉาชีพ” และ “ห้ามทำธุรกรรมใด ๆ อย่างเด็ดขาด” หากไม่มั่นใจ ให้โทรถาม “สายด่วน 1203” เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์โดยเร็วทันที
ทั้งนี้ จากสถิติตัวเลขของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส ประชุมคณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ครั้งที่ 1 /2566 เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมได้แก่ ผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงาน กสทช. ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย และได้เพิ่มผู้แทนจาก กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาอาชญาออนไลน์
ทั้งนี้ ที่ประชุม ได้มีการติดตามแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยได้สรุปผลของการปฎิบัติงานและสถิติการดำเนินคดีทางอาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญ ในปี 2565 (เดือนมกราคม-ธันวาคม 2565) ประกอบด้วย
1.ดำเนินคดีแก๊ง Call Center ในต่างประเทศ 8 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหา 166 คน
2.ปิดกั้นการโทรหลอกลวง/ข้อความ SMS จำนวน 118,530 หมายเลข
3.การอายัดบัญชีม้าจำนวน 58,463 บัญชี และปิดกลุ่มโซเชี่ยลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 8 กลุ่ม
4.การดำเนินคดีหลอกลวงลงทุน – ระดมทุน ออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน จำนวน 657 คดี จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 673 ราย
5.การปราบพนันออนไลน์ โดยดำเนินคดี 318 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 461 ราย และปิดกั้นเว็บพนัน จำนวน 1,830 เว็บ
6.การดำเนินคดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ จำนวน 263 คดี และจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 270 ราย. -สำนักข่าวไทย