กรุงเทพฯ 2 ก.พ.- ส.อ.ท.ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจหลังจีนเปิดประเทศ เชื่อจะเสริมเศรษฐกิจไทยขยายตัวในปี 66 แน่ แต่ภาครัฐต้องดูแลต้นทุนผลิตให้เอกชนสามารถแข่งขันด้านราคาในตลาดส่งออกได้ และสร้างความร่วมมือพัฒนาระบบขนส่งสินค้าผ่านแดนไปยังประเทศจีน เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ของสินค้าไทย
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ประจำเดือนมกราคม 2566 ภายใต้หัวข้อ “เตรียมความพร้อมอย่างไรรับมือจีนเปิดประเทศ” พบว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดของจีน ภายหลังการประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการของจีน เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ทั้งภาคการผลิตและบริการ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่จึงประเมินว่า การที่จีนเปิดประเทศจะส่งผลเชิงบวกทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ รวมทั้งความต้องการและอุปสงค์ในสินค้าที่ขยายตัวจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่อนคลายหลังจากจีนเปิดประเทศ จะเป็นปัจจัยสนับสนุนในการส่งออกสินค้าของไทยไปยังจีนให้ขยายตัวมากขึ้นด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการเปิดประเทศของจีน ผู้บริหาร ส.อ.ท. เสนอว่า ภาครัฐจะต้องดูแลต้นทุนการผลิตให้เอกชนสามารถแข่งขันด้านราคาในตลาดส่งออกได้ และมีการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาระบบขนส่งสินค้าผ่านแดนไปยังประเทศจีน เพื่อลดต้นทุนโลจิสติกส์ของสินค้าไทย รวมถึงอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เข้มงวด ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมเองจะต้องเตรียมความพร้อมในการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ นำเทคโนโลยีมาใช้ลดต้นทุนธุรกิจ เพื่อแข่งขันและเจาะตลาดจีน มีการเตรียมแผนรองรับในการรักษาตลาดส่งออกเดิม หลังจากจีนกลับมาขยายการส่งออกหลังเปิดประเทศ รวมทั้งมีการพัฒนาสินค้าและบริการให้ได้มาตรฐานสากล ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างจุดแข็งให้แก่สินค้าไทย
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงความกังวลต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีน จากสถานการณ์ที่จีนยังมีการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่นั้น พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ไม่มีความกังวล และมองว่าจะเป็นโอกาสของภาคการท่องเที่ยวไทยที่จะกลับมาฟื้นตัวเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป
จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 280 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 25 จำนวน 5 คำถาม ดังนี้
1. อุตสาหกรรมมีแนวโน้มอย่างไร หลังจากจีนเปิดประเทศ (Single choice)
อันดับที่ 1 : ขยายตัว 45.4%
อันดับที่ 2 : ทรงตัว 45.0%
อันดับที่ 3 : ชะลอตัว 9.6%
2. จีนเปิดประเทศจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมไทยในเรื่องใด (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวจากนักท่องเที่ยวชาวจีนช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ 80.0%
อันดับที่ 2 : ความต้องการและอุปสงค์จากจีนขยายตัวจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่อนคลายหลังจีนเปิดประเทศ 60.4%
3. ภาครัฐควรส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมอย่างไรหลังจีนเปิดประเทศ (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ดูแลต้นทุนการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ 74.3%
อันดับที่ 2 : สร้างความร่วมมือและพัฒนาระบบขนส่งสินค้าผ่านแดนไปยังประเทศจีน เพื่อลดต้นทุตโลจิสติกส์ 55.7%
4. ภาคอุตสาหกรรมควรปรับตัวเตรียมรับมือกับการเปิดประเทศของจีนอย่างไร (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ นำเทคโนโลยีมาใช้ลดต้นทุนธุรกิจ 63.2% เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน
อันดับที่ 2 : เตรียมแผนรองรับในการรักษาตลาดส่งออกเดิม หลังจากจีนกลับมา 57.5% ขยายการส่งออกหลังเปิดประเทศ
5. จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศจีน ท่านมีความกังวลต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักเที่ยวชาวจีนหรือไม่ (Single choice)
อันดับที่ 1 : ไม่มีความกังวล 65.4%
อันดับที่ 2 : มีความกังวล 34.6% เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย