กรุงเทพฯ 1 ก.พ.-เอกชนห่วงค่าไฟ ทำต้นทุนการผลิตสูง เสนอลดค่าไฟ ft งวดที่ 2 เดือน พ.ค.-ส.ค. ชี้ค่าไฟต้องไม่เกิน 5 บาท
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เมื่อวาน (31 ม.ค.) กกร. ได้ร่วมประชุมหารือแก้ปัญหาวิกฤตค่าไฟฟ้าและค่าพลังงาน ร่วมกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานพร้อมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในด้านพลังงาน เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้า
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาภาคเอกชนได้ช่วยลดการใช้ก๊าซธรรมชาติ โดยใช้พลังงานเชื้อเพลิงอื่นมาทดแทนไปส่วนหนึ่งแล้ว เพื่อทำให้การคำณวนค่า Ft ในรอบถัดไปมีอัตราที่ลดลง ซึ่ง กกร.เสนอให้ปรับลดค่า Ft งวดที่ 2 เดือน พ.ค – ส.ค. เนื่องจากมีปัจจัยหนุนในด้านการเพิ่มขึ้นของก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และราคาก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบในแนวทางการจัดตั้ง กรอ. พลังงาน และให้สำนักงาน กกร. จัดทำโครงสร้างรูปแบบการทำงาน เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบเพื่อพิจารณาจัดตั้งต่อไป และระหว่างการจัดตั้ง กรอ. พลังงาน ขอให้มีคณะทำงาน Task Force ด้านพลังงาน (เฉพาะกิจ) เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและสร้างความเข้าใจในด้านพลังงาน รวมถึงหารือมาตรการระยะสั้น-กลาง-ยาว โดยมีตัวแทน 3 ฝ่าย ได้แก่ สำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน (สนพ.) สำนักกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.)
“ยังต้องลุ้นว่าค่าไฟฟ้า งวดเดือน พ.ค.-ส.ค.” จะมีการปรับหรือไม่ แต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะค่าเงินบาท ที่แข็งค่าสขึ้นจากเดือนตุลาคม 65 ถึง 15% ส่วนราคาแอลเอนจีก็ลดลงมาอยู่ที่ 17-18 เหรียญ ซึ่งคาดว่าค่าไฟจะลดลงได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการหารือกัน เพราะค่าไฟฟ้ามีผลต่อการแข่งขันของภาคผลิต ภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ขณะที่คู่แข่งอย่างประเทศเวียดนามค่าไฟปัจจุบันอยู่ที่ 2บาทกว่าๆ ซึ่งถูกกว่าบ้านเราเท่าตัว ซึ่งหากค่าไฟสูงมากเราจะเสียเปรียบ”นายเกรียงไกร กล่าว
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน ส.อ.ท เผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่เงินบาทแข็งค่า ราคาแอลเอนจีลดลง ราคาค่าพลังงานโลกที่ลดลง และมีแนวโน้มว่าปริมาณก๊าซในอ่าวไทยจะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวก ที่จะทำให้ค่าไฟเอกชนงวดที่ 2 เดือน พ.ค.-ส.ค. ลดลงได้แน่นอน และค่าไฟไม่ควรเกิน 5 บาท แต่จะเป็นเท่าใดนั้น จะต้องเข้าสู่ระบบการคำนวณอีกครั้ง แต่ส่วนตัวมองว่าหากปัจจัยบวกยังคงที่ และไม่มีปัจจัยอื่นๆมากระทบ เชื่อว่าค่าไฟฟ้าจะสามารถปรับลดลงมาได้ และต้องไม่เกิน 5 บาท เพราะหากค่าไฟยังยืนอยู่ในระดับสูงก็จะส่งผลกระทบในทุกๆ ด้านโดยเฉพาะต้นทุนการผลิต ซึ่งจะส่งผลต่อราคาสินค้า และจะส่งผลต่อประชาชนผู้บริโภคโดยตรง.-สำนักข่าวไทย