นนทบุรี 24 ม.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ เผยยอดส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศปี 65 สูงกว่าเป้า โต 5.5% แม้มีปัจจัยกระทบหลายด้านที่ฉุดยอดส่งออกรายเดือนช่วงไตรมาสสุดท้ายติดลบก็ตาม พร้อมตั้งเป้ายอดส่งออกหลังจากหารือร่วมกับภาคเอกชน เชื่อปี 66 ยอดส่งออกน่าจะยังเป็นบวกได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงยอดมูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนธันวาคม 2565 พบว่า อยู่ที่ 21,718 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบที่ 14.6% เนื่องจากสินค้าส่งออกหดตัวในทุกหมวด ทั้งสินค้าเกษตร และเกษตรอุตสาหกรรม รวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรม และฐานการส่งออกที่สูงจากปีก่อนหน้า ซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ หากดูในภาพรวมตลอดทั้งปี 2565 มูลค่าการส่งออกของไทยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมกว่า 287,067 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่ 5.5% สูงเกินกว่าเป้าหมายที่ 4% นำรายได้เข้าประเทศกว่า 9 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าการนำเข้า ปี 2565 ที่ 303,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บวก 13.6% ส่งผลให้ดุลการค้าไทย ในปี 2565 ไทยขาดดุลการค้า มูลค่า 16,122 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยท่ามกลางวิกฤติในหลายเรื่อง เป็นผลมาจากทำงานร่วมกันกับภาคเอกชนในเชิงรุก ในการหาตลาดใหม่ และการแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว โดยเฉพาะการหาตู้คอนเทนเนอร์มาทดแทนในช่วงที่ขาดแคลน และเร่งรัดการเปิดด่านชายแดนให้ได้มากที่สุด ประกอบกับความต้องการสินค้าอาหารทั่วโลก จึงเป็นโอกาสของสินค้ากลุ่มเกษตรและอาหารไปได้ดี โดยสินค้าที่ส่งออกได้ดีในปี 2565 มีทั้งน้ำตาลทราย ไก่สด แช่เย็นแช่แข็ง ไก่แปรรูป รวมไปถึงเครื่องโทรสาร อัญมณีและเครื่องประดับ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ และอาหารเลี้ยงสัตว์ ขณะที่ตลาดส่งออกที่ขยายตัวได้ดีสูงสุด คือ ตะวันออกกลาง สหราชอาณาจักร แคนาดา สหรัฐ และ CLMV
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับภาคเอกชน โดยตั้งเป้าหมายการส่งออกในปี 2566 แม้เจอความท้าทายทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง ค่าเงินบาทที่ผันผวน และที่สำคัญคือ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังยืดเยื้อ แต่ยังคงคาดว่าจะขยายตัวเป็นบวกได้ที่ 1-2% เพราะยังมีปัจจัยบวกจากระบบการขนส่งที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ จากค่าระวางเรือที่ลดลง และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์คลี่คลาย ความต้องการอาหารของโลกยังมีอยู่ และยังมีตลาดที่มีศักยภาพในการนำเข้าสินค้า ทั้งตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ไปจนถึงจีน ที่เปิดประเทศแล้ว
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มั่นใจส่งออกปีนี้ยังเป็นบวก เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานเชิงรุกผ่านวอร์รูมร่วมกับภาครัฐ ทำให้แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และปีนี้ได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวมาสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวต่อเนื่อง
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ย้ำว่า การออกไปบุกตลาดใหม่ๆ ท่ามกลางปัญหาท้าทายของโลก เริ่มเห็นผลชัดเจนทันที สะท้อนจากตลาดตะวันออกกลางที่ขยายตัวสูงสุดในปี 2565 ทำให้หลังจากนี้จะต้องทำงานร่วมกันต่อเนื่อง เพราะดูแนวโน้มปัญหายังคงอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมัน แม้จะทยอยลดลง แต่ถือว่ายังทรงตัวสูง และค่าเงินบาทที่ผันผวน.-สำนักข่าวไทย
