คาดปี 66 เศรษฐกิจโต 3.4% จีนเข้าไทยกว่า 4 ล้านคน

กรุงเทพฯ 23 ม.ค. – ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธ.ไทยพาณิชย์ ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 66 ยังโตต่อเนื่อง 3.4% ได้อานิสงส์จากจีนเปิดประเทศ คาดนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน ส่งผลดีท่องเที่ยว-บริโภคภาคเอกชนท่ามกลางความกังวลการส่งออกชะลอตัว เงินเฟ้อที่ 3.2%


ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์เศรษฐกิจโลกปี 2566 มีแนวโน้มชะลอลงมากจากปีก่อน แต่ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยปรับลดลง เศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่ที่เริ่มปรับดีขึ้นจากจุดต่ำสุด อีกทั้ง ผลกระทบจากวิกฤตพลังงานในกลุ่มประเทศยุโรปน้อยกว่าคาดจากราคาพลังงานโลกที่ลดลงเร็วและฤดูหนาวไม่รุนแรงมาก รวมถึงอัตราการว่างงานยังลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด และทิศทางเงินเฟ้อโลกเริ่มชะลอตัวชัดเจนขึ้น ทำให้ความกังวลภาวะการเงินตึงตัวเริ่มปรับลดลง เนื่องจากนโยบายการเงินโลกจะไม่เข้มงวดมากไปกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทั้งนี้แม้ทิศทางเศรษฐกิจโลกจะปรับดีขึ้นบ้าง แต่ความไม่แน่นอนยังมีอยู่สูงจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการแพร่ระบาดในจีนที่อาจทำให้จีนกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้งโดย SCB EIC ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก   2 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี (ครั้งละ25 BPS) สู่ระดับ 4.75-5% และคงดอกเบี้ยตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้

ขณะที่เศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง 3.4% แรงส่งสำคัญมาจากภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะมาเยือนไทย 28.3 ล้านคนในปีนี้ จากความต้องการท่องเที่ยวไทยที่ยังมีอยู่มากประกอบกับอานิสงส์จากการยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์ของจีนเร็วกว่าคาด ทำให้คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 4 ล้านคน ส่งผลดีต่อธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม สายการบิน บริษัททัวร์รถเช่า สปาและเวลเนส การแพทย์ รวมถึงเอื้อให้การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติขยายตัวมากขึ้นอีกทั้ง การท่องเที่ยวในประเทศสามารถเติบโตดีกลับไปใกล้ระดับก่อนเกิด COVID-19 ทำให้การบริโภคขยายตัวต่อเนื่อง  ขณะที่การส่งออกสินค้าของไทยในปี 2566 มีแนวโน้มไม่สดใสนักตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงมากและอาจเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากการจัดเก็บภาษีนำเข้าใหม่ของประเทศคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ ยุโรป คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าไทยจะขยายตัวเพียง 1.2%


SCB EIC คาดเงินเฟ้อในปี 2566 จะอยู่ที่ 3.2% สูงกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ จากราคาพลังงานในประเทศและราคาอาหารที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับเศรษฐกิจอยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นซ้ำเติมภาระค่าใช้จ่าย และต้องติดตามประเด็นการเลือกตั้งในปีนี้ เพราะอาจกระทบเสถียรภาพการเมืองไทย และส่งผลต่อความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของไทยได้

ภาวะการเงินไทยมีแนวโน้มตึงตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย การสิ้นสุดมาตรการต่ออายุการลดอัตรานำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF fee) และการแข็งค่าของเงินบาทเร็วกว่าสกุลอื่นในภูมิภาค โดย SCB EIC คาดว่า ในปี 2566 กนง. จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง 3 ครั้ง (ครั้งละ 25 BPS) สู่ระดับ 2% ณ สิ้นปี 2566 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่จะยังอยู่สูงกว่ากรอบเป้าหมายของ ธปท.  ประเมินเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น อานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีน และเงินทุนไหลเข้าตลาดการเงินไทย โดยคาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าที่ 31.5-32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปีนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย