คลัง ชวนประชาชน ร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้

กรุงเทพฯ 19 ม.ค. คลัง ชวนประชาชน ร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ณเทศบาลเมืองบ้านสวน จ.ชลบุรี


นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 – 22 มกราคม 2566 จะมีการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 4 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. โดยงานมหกรรมครั้งนี้เป็นการจัดครั้งที่4 หลังจากครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดเชียงใหม่ ตามลำดับที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

รัฐบาลได้มีนโยบายที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างจริงจัง จึงได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน ถึงแม้ว่าปัจจุบันได้ผ่านพ้นปี 2565 ไปแล้ว แต่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังคงต้องทำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และหน่วยงานพันธมิตรจึงจัด “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบปัญหาหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” สัญจรในครั้งที่ 4 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 มกราคม 2566 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี


ทั้งนี้ การจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ สัญจร ครั้งที่ 4 นี้ กระทรวงการคลังได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย และได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นางสาวตรีนุช เทียนทอง) เข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ สัญจร ครั้งที่ 4 อีกทั้งสมาคมสถาบันการเงินของรัฐได้จัดสรรพื้นที่บางส่วนภายในงานเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการครูเป็นการเฉพาะอีกด้วย 

นอกจากนี้ งานมหกรรมในครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) รวมทั้งหน่วยงานให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหรือการพัฒนาอาชีพ และหน่วยงานในระดับพื้นที่ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือด้านรายได้และหนี้สินให้กับประชาชนเข้าร่วมเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินภายในงานทำได้อย่างครอบคลุมและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น 

ในงานจะมีกิจกรรมประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ (1) การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้การปรับเงื่อนไขการชำระนี้ เพื่อช่วยผ่อนปรนภาระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง (2) การสร้างรายได้ผ่านการสร้างอาชีพหรืออาชีพเสริม เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ ให้เพียงพอต่อการชำระหนี้ และสามารถขอรับสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเป็นแหล่งทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม (3) การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีรายได้ที่เพียงพอและมั่นคง และการเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน เพื่อสร้างความตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินและส่งเสริมการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างถูกต้อง ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน


ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT/Page/Consent.aspx หรือ Scan QR Code ท้ายแถลงข่าว หรือแจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานได้ที่หน้างานมหกรรม ทั้งนี้นอกจากงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ครั้งนี้แล้ว ยังมีกำหนดจัดมหกรรมในลักษณะเดียวกันอีก 1 ภูมิภาค ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 มกราคม 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านช่องทางเดียวกัน

นอกจากนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชนทำได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดระบบลงทะเบียนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออนไลน์ และขยายระยะเวลาลงทะเบียนออนไลน์จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อขอแก้ไขหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์ได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 ได้ทางเว็บไซต์https://www.bot.or.th/DebtFair หรือ Scan QR Code และคาดหวังว่าการจัดงานในครั้งที่ 4 นี้จะได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการเช่นเดียวกับการจัดงานครั้งที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

อากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่ ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อนโดยทั่วไป และร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก