กรุงเทพฯ 19 ม.ค.- กรมสรรพสามิต สั่งพักงาน เจ้าหน้าที่รีดเงินร้านมือถือ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน หากผิดลงโทษทางวินัยขั้นสูงสุด
นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่ากรณี เจ้าหน้าที่ของกรรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นภายในร้าน จำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ของชาวจีน ก่อนจับผู้จัดการร้าน ลูกน้อง ชาวพม่า ขึ้นรถไป พร้อมเรียกรับเงินกว่า 3 แสนบาท แลกกับการปล่อยตัว เหตุเกิดที่ตึกแถวซอยอู่ทอง 37/2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เบื้องต้นกรมสรรพสามิต ได้สั่งพักงานและหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน หากพบว่ามีความผิดจะดำเนินการทางวินัยขั้นสูงสุด ส่วนในเรื่องคดีอาญา เป็นขั้นตอนของพนักงานสอบสวนตำรวจ เป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
สำหรับฐานความผิด จากการเข้าตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่สรรพสามติ เขตพื้นที่สมุทรปราการ 1 สถานที่โกดัง ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ (เจ้าขอวชื่อ Yi Wen สัญชาติจีน) พบสินค้าแบตเตอรี่ ประเภท แบตเตอรี่มือถือ จำนวน 465 ก้อน มีความผิดตามกฎหมายสรรพสามิต มาตรา 204 ขายหรือมีไว้เพื่อขายสินค้าที่มิได้เสียภาษี ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5-15 เท่า
กรมสรรพสามิตกำหนดอัตราภาษีแบตเตอรี่ร้อยละ 8 ของราคาขายปลีกแนะนำ มีค่าปรับ มีการเปรียบเทียบปรับ (5 เท่า) ค่าปรับ 80,101 บาท ค่าภาษี 16,020 บาท กรมสรรพสามิต กำหนดระเบียบที่ถูกต้องในการจับกุม
- ในการจับกุมตรวจค้นเจ้าหน้าที่ต้องแสดงตัว โดยแต่งเครื่องแบบ หรือแสดงบัตรข้าราขการ ในขณะปฎิบัติหน้าที่
- เมื่อจับกุมแล้วต้องทำบันทึกจับกุม
- กรณีไม่เกิน 50,000 บาท ปรับที่สำนักงานสรรพสามิตได้เลย
- กรณีไม่เกิน 50,000 บาท ต้องไปลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจที่เกิดเหตุ ก่อนนำตัวผู้ต้องหามาปรับที่สำนักงานสรรพสามิต
- ของกลางให้นำมาเก็บที่สำนักงานสรรพสามิต .-สำสนักข่าวไทย