กรมเชื้อเพลิงฯแย้มเปิดสำรวจแหล่งปิโตรเลียมบนบกปีนี้

กรุงเทพฯ 17 ม.ค.-กรมเชื้อเพลิงฯเร่งหาปิโตรเลียม รองรับความต้องการใช้ของประชาชน แย้มจะเปิดสำรวจแหล่งปิโตรเลียมบนบกในปีนี้ เร่งประกาศผู้คว้าสิทธิสำรวจแหล่งอ่าวไทยรอบ24 เดือน ก.พ. โดย ปตท.สผ.ยื่นเสนอ 2 แปลง พร้อมร่วมประสานคุยพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา คาดประชุมคณะทำงานใน 2 เดือนนี้


นายสราวุธ แก้วตาทิพย์. อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่าจากสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงมีผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าทางกระทรวงพลังงานได้ร่วมหาทางที่จะลดผลกระทบ ทั้งการเปิดสำรวจแหล่งปิโตรเลียมในไทย  และการเจรจากับกัมพูชา เพื่อพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนไทย – กัมพูชา โดยคาดว่า จะมีการหารือร่วมระหว่างคณะทำงานของ 2 ประเทศ ใน 2 เดือนข้างหน้านี้ เพื่อที่ร่วมกำหนดแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ปิโตรเลียม ให้เกิดประโยชน์ต่อ 2 ประเทศต่อไป 

ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆนี้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานเรื่องการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เข้าต่อที่ประชุม ครม.หลังจาก เดือนธ.ค.2565 ทางฝ่ายไทยได้มีการหารือกับ นายซุย แซม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกัมพูชา เพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณพื้นที่ปิโตรเลียมทับซ้อน ไทย-กัมพูชา(Overlapping Claims Area : OCA) พื้นที่ประมาณ 26,000 ตารางกิโลเมตร โดยใช้โครงสร้างของ คณะกรรมการร่วม (Joint Committee : JC) ระหว่างไทย -กัมพูชา 


นายสราวุธ ยังกล่าวด้วยว่า จากที่ กรมเชื้อเพลิงฯออกประกาศพื้นที่แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยสำหรับการให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบ24 จำนวน 3 แปลง ประกอบด้วย แปลง G1/65 G2/65 และ G3/65 เป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับแนวท่อก๊าซที่มีอยู่เดิมและอยู่ใกล้กับพื้นที่ผลิตหลัก ที่ปัจจุบันมีการผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมต่อไปได้ โดยมีผู้ยื่นเสนอ 2 ราย ในขณะนี้ขึ้นตอนการพิจารณาได้เร่งดำเนินการและจะประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ ใน เดือน กุมภาพันธ์นี้ 

นอกจากนี้ กรมฯกำลังเร่งพิจารณา จะเปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ หรือรอบที่ 25 ในพื้นที่บนบก โดยจะเปิดรอบใหม่ภายในในปีนี้  ซึ่งพื้นที่บนบกนั้นได้หารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าจะวางแนวทางอย่างไร หากเปิดสำรวจไปแล้ว พื้นที่ปิโตรเลียมเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นอนุรักษ์ป่าไม้ และพื้นที่ ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)  พื้นที่เหล่านี้จะดำเนินการอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาเหล่านี้ และกระทบต่อผู้ลงทุน อย่างไรก็ตาม การประกาศรอบที่ 25 อาจจะเลือกพื้นที่ที่ไม่มีปัญหามาเปิดก่อนเพื่อให้ประเทศไทยมีทรัพยากรมาบริหารจัดการ ช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และลดผลกระทบจากการนำเข้าพลังงานที่มีราคาสูง

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. กล่าวว่า ปตท.สผ.สนับนุนนโยบายของกรมเชื้อเพลิงฯ ในการเร่งดำเนินการดังกล่าว โดยในรอบที่ 24 นั้นทาง ปตท.สผ.ได้ยื่นขอสิทธิ สำรวจ 2 แปลง ซึ่งเป็นแปลงที่อยู่ใกล้กลับแท่นผลิตของ ปตท.สผ.ในปัจจุบัน โดยหากได้สิทธิ ก็จะทำให้ สำรวจและผลิจได้ภายใน 3-4 ปีข้างหน้า เร็วกว่าการผลิตในแหล่งใหม่ที่ไม่ใกล้พื้นที่เดิมที่จะต้องใช้เวลาในการสำรวจกว่า 3 ปีและใช้เวลาผลิตอีก 2 ปี รวมกว่า 5 ปี 


ในขณะเดียวกัน หากกรมเชื้อเพลิง ฯเปิดสิทธิ สำรวจบนบกในรอบที่ 25 ทาง ปตท.สผ. จะร่วมยื่นขอสิทธิ ด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใกล้เคียงแหล่งสินภูฮ่อม จ.อุดรธานี ที่จะหมดอายุสัมปทานในอีก 8 ปีข้างหน้า โดยพื้นที่นี้มีความสำคัญที่จะต้องผลิตก๊าซธรรมชาติเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าขอนแก่น ผลิตไฟฟ้ารองรับความต้องการของประชาชน โดยโรงไฟฟ้าขอนแก่นมีกำลังผลิต ราว 600 เมกะวัตต์ ส่วนแหล่งสินภูฮ่อมมีกำลังผลิตราว 90 ล้านลูกบาศก์ ฟุตต่อวัน.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร