ขยายเวลาลดค่าผ่านทางพิเศษที่ด่านฯ พระราม 9-1 (ฉลองรัช)

กรุงเทพฯ 16 ม.ค. – กทพ. ขยายเวลาการให้ลดค่าผ่านทางพิเศษที่ด่านฯ พระราม 9-1 (ฉลองรัช) 10 บาท สำหรับรถทุกประเภท ตั้งแต่ 1 มกราคม- 31 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 จะให้ส่วนลดเฉพาะผู้ใช้บัตร Easy Pass เท่านั้น


การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ขยายเวลาการให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษ ของทางพิเศษฉลองรัช ที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพระราม 9-1 (ฉลองรัช) โดยมีส่วนลด จำนวน 10 บาท ต่อเที่ยว สำหรับรถทุกประเภทเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งจะส่งผลให้รถแต่ละประเภทที่ใช้บริการที่ด่านฯ ดังกล่าว มีอัตราค่าผ่านทางพิเศษ ดังนี้

1. รถ 4 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษปกติ 40 บาท ปรับลดเหลือ 30 บาท


2. รถ 6-10 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษปกติ 60 บาท ปรับลดเหลือ 50 บาท  

3. รถมากกว่า 10 ล้อ อัตราค่าผ่านทางพิเศษปกติ 80 บาท ปรับลดเหลือ 70 บาท

ในการนี้จะแบ่งการให้ส่วนลดเป็น 2 ระยะคือ ระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2566 ให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษจำนวน 10 บาทต่อเที่ยว สำหรับรถที่ใช้เงินสด และรถที่ใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติด้วยบัตร Easy Pass


ระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2566 จะให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษจำนวน 10 บาทต่อเที่ยว เฉพาะรถที่ใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติด้วยบัตร Easy Pass เท่านั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการ ทางพิเศษหันมาใช้บัตร Easy Pass ในการผ่านทางเพิ่มขึ้น อันจะช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านฯ   ทั้งยังเป็นการสนับสนุนสังคมไร้เงินสด เพื่อช่วยลดปัญหาการแพร่เชื้อ COVID-19 ที่ยังคงระบาดอยู่ในขณะนี้ด้วย

ผู้ใช้บริการบัตร Easy Pass ที่บัตรใกล้หมดอายุ (อายุการใช้งานมาประมาณ 7 ปี หรือใช้ผ่านทางมาแล้วประมาณ14,000 ครั้ง) ผู้ใช้บริการสามารถนำบัตร Easy Pass มาเปลี่ยนได้ ที่อาคารด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษทุกด่าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และขอเชิญชวนผู้ใช้บริการบัตร Easy Pass ลงทะเบียนปรับปรุงข้อมูลด้วยตนเองทาง EXAT Portal Application หรือ www.thaieasypass.com เพื่อยกระดับบัตร Easy Pass เป็น Easy Pass Plus เตรียมพร้อมเข้าสู่ระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) อีกด้วย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ (EXAT Call Center) โทร 1543 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย