เซ็นทรัล ทุ่ม 300 ล้านบาทฉลองตรุษจีนปีกระต่ายมงคลขานรับท่องเที่ยวไทย

กรุงเทพฯ 11 ม.ค.-บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ผนึกกำลังศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ฉลองตรุษจีนปีกระต่ายมงคลทุ่มงบ 300 ล้านบาท เปิดแคมเปญ “The Great Chinese New Year 2023” สร้างปรากฏการณ์ จับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว ครบจบที่เดียว


นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกนี้ได้โฟกัส 3 กลยุทธ์การตลาดที่สำคัญ ที่จะเป็น Driving force ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างเต็มรูปแบบ คือ กลยุทธ์ที่ 1 –  The Best Festive Destination of All Time ตอกย้ำการเป็นเดสติเนชั่นอันดับหนึ่งในทุกเทศกาล ยกระดับประสบการณ์จับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว ที่ดีที่สุดครบจบในที่เดียว

กลยุทธ์ที่ 2 –  Create Synergistic Value ผนึกกำลังศูนย์การค้า-ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และพันธมิตร สร้าง Double Impact ชู ‘Central Destination’ เป็น place & experience maker ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า


กลยุทธ์ที่ 3 –  Spearhead Economy & Tourism ร่วมมือกับภาครัฐ และพันธมิตร เดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ และผลักดันไทยเป็น global destination ดึงดูด quality tourists ด้วยโปรโมชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม Short -haul ที่นิยมมาเที่ยวประเทศไทยในช่วงตรุษจีน เช่น มาเลเซีย,สิงคโปร์,เวียดนาม และนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนที่กำลังทยอยกลับเข้ามา โดยคาดว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีเงินสะพัดจากแคมเปญกว่า 6 พันล้านบาทและดึงทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 20%

ส่วนที่นักท่องเที่ยวจีนที่ทยอยเดินทางเข้ามาในไทย ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยติดอันดับต้นๆที่คนจีนอยากมาท่องเที่ยวมากที่สุด เซ็นทรัลพัฒนาเตรียม Tourist package และโปรโมชั่นต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ โดยที่ผ่านมา Tourist malls ทั้ง 15 ศูนย์การค้า ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว สำหรับการผนึกกำลังของทั้งศูนย์และห้างเซ็นทรัลครั้งนี้ จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยสร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจทั่วประเทศอย่าง สอดรับกับโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ ของภาครัฐที่จะยิ่งกระตุ้นจับจ่ายและเงินสะพัดให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นอย่างแน่นอน โดยเซ็นทรัลพัฒนา ยังคง ตอกย้ำให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 38 สาขาทั่วประเทศเป็นเดสติเนชั่นอันดับหนึ่งในทุกเทศกาล เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการจับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว สำหรับคนทุกเจเนอเรชั่น เห็นได้จากการ Collaboration ของแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังมากมายในศูนย์ที่ออกชุดของไหว้แนวใหม่มาร่วมในแคมเปญ อาทิ Kam’s Roast ร้านดังระดับมิชลินสตาร์ เป็นต้น โดยปีนี้ นอกจากตลาดตรุษจีนทั่วประเทศแล้ว เรายังได้ผนึกสุดยอดศาสตร์และศิลป์ นำโดยหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา และศิลปินนักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่อย่าง JCCHR มามอบประสบการณ์แบบ Immersive experiences ผ่าน Art installation กระต่ายมงคลทั่วประเทศ และ Top spender จะได้ร่วม Exclusive trip ไหว้พระเสริมมงคลกับหมอช้างอีกด้วย

มร. โอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัล และ Central The 1 Credit Card เพื่อเป็นการเข้าถึงลูกค้าแบบ Massive Reach และสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งและการฉลองที่ดีที่สุดสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน ในการเป็น The Best Festive Destination of All Times สำหรับทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศที่กำลังเข้ามาอย่างมากในปีนี้ อันถือได้ว่าเป็นการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยสินค้าที่ครบครันทุกความต้องการ ทุกเพศ ทุกวัย สามารถช้อปได้อย่างสะดวกสบายกับสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ


สำหรับไฮไลต์ที่สำคัญ ประกอบไปด้วย ประติมากรรมกระต่ายมงคล “The Lucky Rabbits Project” ณ 10 จุดเช็คอินกระต่ายมงคลทั่วไทย เซ็นทรัล เชียงราย : The Forest Lucky Rabbit : อำนวยพร ความสุขสมบูรณ์, เซ็นทรัล พระราม 2 : The Earth Lucky Rabbit : อำนวยพร ความมั่งคั่งร่ำรวย, เซ็นทรัล พระราม 3 : กระต่าย ทองคำ : อำนวยพร โชคลาภ, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า : กระต่าย ดอกไม้มงคล : อำนวยพร ความรัก, เซ็นทรัล อยุธยา : กระต่าย ผ้าลายอย่าง : อำนวยพร ความราบรื่น และอุดมสมบูรณ์, เซ็นทรัล โคราช : The Lunar Lucky Rabbit : อำนวยพร สุขภาพแข็งแรง, เซ็นทรัล ขอนแก่น : กระต่าย มองดวงจันทร์ในคืนปีใหม่ : อำนวยพร ครอบครัวกลมเกลียว, เซ็นทรัล อุบลราชธานี  : กระต่าย แสงแรกแห่งสยาม: อำนวยพร ความมั่งมี และความรุ่งโรจน์, เซ็นทรัล จันทบุรี : The Solar Lucky Rabbit : อำนวยพร ความโชคดี และเซ็นทรัล หาดใหญ่ : The Ocean Lucky Rabbit : อำนวยพร ความรุ่งเรือง และไฮไลต์สาขาอื่นๆ อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ ตื่นตากระต่ายมหามงคล สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ มั่งคั่ง สุขี พร้อมช้อปของไหว้ ส้มมงคลที่เยอะที่สุดครบที่สุดใน Chinese Market, อิ่มอร่อยกับเมนูมงคลร้านดังระดับมิชลิน และ Street food ร้านดังที่รวมมาไว้ที่นี่ที่เดียว พร้อมชมโชว์เชิดสิงโตเบิกเนตรอภิมหามงคล เซ็นทรัล เวสต์เกต เนรมิตมหกรรมโคมไฟจีน Oversize ที่ใหญ่ที่สุด, จับจ่ายอาหารและสินค้ามงคลในChinese Market ที่ครบที่สุดในย่าน, กิจกรรมแจกส้มมงคล และชมศิลปะวัฒนธรรมจีนที่หาชมยาก เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ จำลองบรรยากาศความเป็น Little Hong Kong มาไว้ที่ศูนย์การค้าชมการแสดงเชิดสิงโต 9 มงคล และแห่มังกรยาวกว่า 40 เมตร พร้อมสักการะขอพร 3 เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ องค์จำลองจากฮ่องกง ได้แก่ วัดแชกงหมิว (วัดกังหัน), วัดหวังต้าเซียน และเจ้าแม่กวนอิม ปางประทานพร  เซ็นทรัล พัทยา อลังการกับ Rabbit Inflatable สูงกว่า 5 เมตร กลางศูนย์การค้าฯ ท่ามกลางสวนดอกไม้มงคล เซ็นทรัลเชียงใหม่ เสริมมงคลกับเมนูอาหารมงคลจากร้านดังในงาน Chiangmai China Town, Chinese Tea Bar จิบชาส้มเมนูพิเศษและเมนูชาเพื่อสุขภาพ, ช้อปสินค้ามงคล ราคาพิเศษ เซ็นทรัล ภูเก็ต พบ Chinese Lobster and Seafood market เดสติเนชั่นที่รวมร้านซีฟู้ดชื่อดัง และเมนู Lobster สไตล์อาหารจีนไว้มากที่สุดในภูเก็ต, ชมการแสดงเชิดสิงโตใต้น้ำที่เดียวในภูเก็ต เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]

เจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐ บรรยากาศดีขึ้น

ทำเนียบ 5 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เผยทีมประเทศไทย เจรจาภาษีนำเข้ากับสหรัฐ บรรยากาศดีขึ้น เตรียมปรับข้อเสนอ เน้นตอบโจทย์ผลประโยชน์ win-win ร่วมกัน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 22.00น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะประเทศไทยเริ่มต้นกระบวนการเจรจาอย่างเป็นทางการกับฝ่ายสหรัฐ แล้ว โดยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย พบหารือกับนายเจมิสัน กรีเออร์ (Mr. Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐ (United States Trade Representative – USTR) ซึ่งเป็นการหารือในระดับรัฐมนตรีครั้งแรกระหว่างสองประเทศ นายพิชัยได้กล่าวถึงบรรยากาศการเจรจาในครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เปิดกว้าง และมีพัฒนาการเป็นที่น่าพอใจ โดยฝ่ายไทยได้รับข้อเสนอแนะจากสหรัฐอย่างตรงไปตรงมาและเป็นประโยชน์ ซึ่งคณะประเทศไทยจะได้นำฟีดแบ็กนี้กลับไปใช้ในการพิจารณาจัดทำข้อเสนอใหม่ บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย (win-win solution) โดยตั้งเป้าหมายที่จะเร่งรัดการดำเนินงานเพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ภายในกรอบเวลาที่กำหนดในสัปดาห์หน้า ภายใต้หลักการที่ว่า […]