เซ็นทรัล ทุ่ม 300 ล้านบาทฉลองตรุษจีนปีกระต่ายมงคลขานรับท่องเที่ยวไทย

กรุงเทพฯ 11 ม.ค.-บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ผนึกกำลังศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ฉลองตรุษจีนปีกระต่ายมงคลทุ่มงบ 300 ล้านบาท เปิดแคมเปญ “The Great Chinese New Year 2023” สร้างปรากฏการณ์ จับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว ครบจบที่เดียว


นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกนี้ได้โฟกัส 3 กลยุทธ์การตลาดที่สำคัญ ที่จะเป็น Driving force ในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ เพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างเต็มรูปแบบ คือ กลยุทธ์ที่ 1 –  The Best Festive Destination of All Time ตอกย้ำการเป็นเดสติเนชั่นอันดับหนึ่งในทุกเทศกาล ยกระดับประสบการณ์จับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว ที่ดีที่สุดครบจบในที่เดียว

กลยุทธ์ที่ 2 –  Create Synergistic Value ผนึกกำลังศูนย์การค้า-ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และพันธมิตร สร้าง Double Impact ชู ‘Central Destination’ เป็น place & experience maker ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า


กลยุทธ์ที่ 3 –  Spearhead Economy & Tourism ร่วมมือกับภาครัฐ และพันธมิตร เดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ และผลักดันไทยเป็น global destination ดึงดูด quality tourists ด้วยโปรโมชั่นสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม Short -haul ที่นิยมมาเที่ยวประเทศไทยในช่วงตรุษจีน เช่น มาเลเซีย,สิงคโปร์,เวียดนาม และนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนที่กำลังทยอยกลับเข้ามา โดยคาดว่าช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีเงินสะพัดจากแคมเปญกว่า 6 พันล้านบาทและดึงทราฟฟิกเพิ่มขึ้น 20%

ส่วนที่นักท่องเที่ยวจีนที่ทยอยเดินทางเข้ามาในไทย ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ประเทศไทยติดอันดับต้นๆที่คนจีนอยากมาท่องเที่ยวมากที่สุด เซ็นทรัลพัฒนาเตรียม Tourist package และโปรโมชั่นต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ โดยที่ผ่านมา Tourist malls ทั้ง 15 ศูนย์การค้า ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว สำหรับการผนึกกำลังของทั้งศูนย์และห้างเซ็นทรัลครั้งนี้ จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยสร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจทั่วประเทศอย่าง สอดรับกับโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ ของภาครัฐที่จะยิ่งกระตุ้นจับจ่ายและเงินสะพัดให้เศรษฐกิจไทยพลิกฟื้นอย่างแน่นอน โดยเซ็นทรัลพัฒนา ยังคง ตอกย้ำให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 38 สาขาทั่วประเทศเป็นเดสติเนชั่นอันดับหนึ่งในทุกเทศกาล เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการจับจ่าย-ไหว้-กิน-เที่ยว สำหรับคนทุกเจเนอเรชั่น เห็นได้จากการ Collaboration ของแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังมากมายในศูนย์ที่ออกชุดของไหว้แนวใหม่มาร่วมในแคมเปญ อาทิ Kam’s Roast ร้านดังระดับมิชลินสตาร์ เป็นต้น โดยปีนี้ นอกจากตลาดตรุษจีนทั่วประเทศแล้ว เรายังได้ผนึกสุดยอดศาสตร์และศิลป์ นำโดยหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา และศิลปินนักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่อย่าง JCCHR มามอบประสบการณ์แบบ Immersive experiences ผ่าน Art installation กระต่ายมงคลทั่วประเทศ และ Top spender จะได้ร่วม Exclusive trip ไหว้พระเสริมมงคลกับหมอช้างอีกด้วย

มร. โอลิวิเยร์ บรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัล และ Central The 1 Credit Card เพื่อเป็นการเข้าถึงลูกค้าแบบ Massive Reach และสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งและการฉลองที่ดีที่สุดสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน ในการเป็น The Best Festive Destination of All Times สำหรับทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศที่กำลังเข้ามาอย่างมากในปีนี้ อันถือได้ว่าเป็นการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยสินค้าที่ครบครันทุกความต้องการ ทุกเพศ ทุกวัย สามารถช้อปได้อย่างสะดวกสบายกับสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ


สำหรับไฮไลต์ที่สำคัญ ประกอบไปด้วย ประติมากรรมกระต่ายมงคล “The Lucky Rabbits Project” ณ 10 จุดเช็คอินกระต่ายมงคลทั่วไทย เซ็นทรัล เชียงราย : The Forest Lucky Rabbit : อำนวยพร ความสุขสมบูรณ์, เซ็นทรัล พระราม 2 : The Earth Lucky Rabbit : อำนวยพร ความมั่งคั่งร่ำรวย, เซ็นทรัล พระราม 3 : กระต่าย ทองคำ : อำนวยพร โชคลาภ, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า : กระต่าย ดอกไม้มงคล : อำนวยพร ความรัก, เซ็นทรัล อยุธยา : กระต่าย ผ้าลายอย่าง : อำนวยพร ความราบรื่น และอุดมสมบูรณ์, เซ็นทรัล โคราช : The Lunar Lucky Rabbit : อำนวยพร สุขภาพแข็งแรง, เซ็นทรัล ขอนแก่น : กระต่าย มองดวงจันทร์ในคืนปีใหม่ : อำนวยพร ครอบครัวกลมเกลียว, เซ็นทรัล อุบลราชธานี  : กระต่าย แสงแรกแห่งสยาม: อำนวยพร ความมั่งมี และความรุ่งโรจน์, เซ็นทรัล จันทบุรี : The Solar Lucky Rabbit : อำนวยพร ความโชคดี และเซ็นทรัล หาดใหญ่ : The Ocean Lucky Rabbit : อำนวยพร ความรุ่งเรือง และไฮไลต์สาขาอื่นๆ อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ ตื่นตากระต่ายมหามงคล สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ มั่งคั่ง สุขี พร้อมช้อปของไหว้ ส้มมงคลที่เยอะที่สุดครบที่สุดใน Chinese Market, อิ่มอร่อยกับเมนูมงคลร้านดังระดับมิชลิน และ Street food ร้านดังที่รวมมาไว้ที่นี่ที่เดียว พร้อมชมโชว์เชิดสิงโตเบิกเนตรอภิมหามงคล เซ็นทรัล เวสต์เกต เนรมิตมหกรรมโคมไฟจีน Oversize ที่ใหญ่ที่สุด, จับจ่ายอาหารและสินค้ามงคลในChinese Market ที่ครบที่สุดในย่าน, กิจกรรมแจกส้มมงคล และชมศิลปะวัฒนธรรมจีนที่หาชมยาก เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ จำลองบรรยากาศความเป็น Little Hong Kong มาไว้ที่ศูนย์การค้าชมการแสดงเชิดสิงโต 9 มงคล และแห่มังกรยาวกว่า 40 เมตร พร้อมสักการะขอพร 3 เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ องค์จำลองจากฮ่องกง ได้แก่ วัดแชกงหมิว (วัดกังหัน), วัดหวังต้าเซียน และเจ้าแม่กวนอิม ปางประทานพร  เซ็นทรัล พัทยา อลังการกับ Rabbit Inflatable สูงกว่า 5 เมตร กลางศูนย์การค้าฯ ท่ามกลางสวนดอกไม้มงคล เซ็นทรัลเชียงใหม่ เสริมมงคลกับเมนูอาหารมงคลจากร้านดังในงาน Chiangmai China Town, Chinese Tea Bar จิบชาส้มเมนูพิเศษและเมนูชาเพื่อสุขภาพ, ช้อปสินค้ามงคล ราคาพิเศษ เซ็นทรัล ภูเก็ต พบ Chinese Lobster and Seafood market เดสติเนชั่นที่รวมร้านซีฟู้ดชื่อดัง และเมนู Lobster สไตล์อาหารจีนไว้มากที่สุดในภูเก็ต, ชมการแสดงเชิดสิงโตใต้น้ำที่เดียวในภูเก็ต เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย