นายกฯ ปลื้ม FTA ดันยอดส่งออกนมไทยโตต่อเนื่อง

กทม. 25 ธ.ค.- โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ปลื้ม FTA ส่งเสริมให้ยอดการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยไปตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขชัด 10 เดือนนี้ยอดส่งออกตลาดคู่ FTA มูลค่า 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 3%


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่อุตสาหกรรมโคนมของไทยพัฒนาดีขึ้น มีมูลค่าการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยไปตลาดต่างประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เปิดเผยข้อมูลการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมไปตลาดโลกในช่วง 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม 2565) ซึ่งมีมูลค่า 499.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (มกราคม-ตุลาคม 2564) โดยเฉพาะการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่มีความตกลงการค้าเสรี (FTA) มีมูลค่ากว่า 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3 สัดส่วนสูงถึงร้อยละ 94.1 โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ นมพร้อมดื่มยูเอชที นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม เครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีนมผสม นมเปรี้ยวและโยเกิร์ต


นอกจากนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ความตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมของไทยขยายตัว ซึ่งไทยมีอยู่ทั้งหมด 14 ฉบับกับ 18 คู่ค้า โดยปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมเป็นอันดับที่ 7 ของโลก และเป็นอันดับที่ 1 ในอาเซียน ซึ่งการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมไปตลาดอาเซียนมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 82 โดยในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 คิดเป็นมูลค่า 407 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตลาดคู่ FTA สำคัญที่ในช่วง 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม 2565) ไทยส่งออกได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ได้แก่ จีน ขยายตัว 27.9% ฮ่องกง ขยายตัว 13.1% ญี่ปุ่น ขยายตัว 121.6%

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นต่อการเจรจาเพื่อเพิ่มความตกลงทางการค้าระหว่างมิตรประเทศ เป็นแนวทางที่รัฐบาลปฏิบัติเพื่อเปิดโอกาสกระตุ้นการค้าการส่งออกระหว่างกัน สำหรับสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทย มีมาตรฐาน และคุณภาพเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ สินค้านมและผลิตภัณฑ์นมยังถือเป็นสินค้าที่เข้ากับกระแสอาหารแห่งอนาคต (Future Food) ที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารอนาคต ทั้งในระดับอาเซียนและระดับโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันพัฒนา ปรับปรุง ผลิตภัณฑ์นมไทยให้มีคุณภาพ เป็นสินค้าที่สร้างโอกาสต่อประเทศและเศรษฐกิจไทย” นายอนุชา กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง