บอร์ดไทยออยล์แต่งตั้ง “บัณฑิต” เป็น CEO คนใหม่

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค. – คณะกรรมการบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) มีมติแต่งตั้งนายบัณฑิต ธรรมประจำจิต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป


บมจ.ไทยออยล์ แจ้งว่า นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ด้านไฮโดรคาร์บอน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมอันดับต้นๆ ของประเทศ จึงได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมให้สามารถสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงทางพลังงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกลุ่มโรงกลั่นในระดับภูมิภาค

นายบัณฑิต จะเข้ามาเป็นผู้นำองค์กร มีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนการทรานส์ฟอร์มธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ ให้สอดรับกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงานเพื่อให้กลุ่มไทยออยล์เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน และบรรลุวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยพลังงานและเคมีภัณฑ์ที่ยั่งยืน”


นายบัณฑิต จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเคมี (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทด้านวิศวกรรมเคมีขั้นสูง (Distinction), Imperial College, University of London ประเทศอังกฤษ และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ (SASIN) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังได้ผ่านการอบรมในหลักสูตรสำคัญที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 63 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน (วพน.) รุ่นที่ 14 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) รุ่นที่ 27 เป็นต้น

ซีอีโอคนใหม่ถือเป็นลูกหม้อที่ทำงานกับไทยออยล์มานานกว่า 31 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เริ่มทำงานในตำแหน่งวิศวกรผลิต (Technologist) ต่อมาในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2540-2545 ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติงานกับบริษัท Shell Global Solutions International B.V. ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีการกลั่นน้ำมัน โดยให้คำปรึกษาด้านเทคนิคแก่โรงกลั่นน้ำมันในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เช่น เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก อาร์เจนตินา สิงคโปร์ บรูไน และไทย เป็นต้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคนไทยไม่กี่คนที่ได้รับมอบหมายภารกิจนี้ ก่อนจะกลับมาทำงานที่ไทยออยล์.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”