ดีอีเอส เตือนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมกรมสรรพากรเรียกจ่ายหนี้ค้าง

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค. – กระทรวงดีอีเอส สรุปข่าวปลอมรอบสัปดาห์ พบข่าวปลอมกรมสรรพากรโทรศัพท์เรียกจ่ายหนี้ภาษีอากรค้างชำระ คนสนใจอันดับหนึ่ง แต่จำนวนข่าวปลอมจากกลุ่มนโยบายภาครัฐมากที่สุด ขณะที่กระแสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนระบาดและทำให้การติดโควิด-19 ง่ายขึ้น ส่งผลมีข่าวปลอม 7 เรื่อง


นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า สรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 2-8 ธันวาคม 2565 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบข้อความที่เข้ามาจำนวน 5,131,164 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 222 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 184 ข้อความ และข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 38 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 103 เรื่อง

ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย


  • กลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศจำนวน 49 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 39 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 3 ข่าวปลอมเศรษฐกิจ จำนวน 11 เรื่อง
  • กลุ่มที่ 4 ข่าวปลอมเรื่องภัยพิบัติ จำนวน 4 เรื่อง

สำหรับข่าวปลอมทั้ง 4 กลุ่มมีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องโควิค-19 จำนวน 7 เรื่อง

สำหรับข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจสูงสุด 10 อันดับระหว่างวันที่ 2-8 ธันวาคม ดังนี้

  • อันดับที่ 1 เรื่อง กรมสรรพากรโทรศัพท์เรียกจ่ายหนี้ภาษีอากรค้างชำระ
  • อันดับที่ 2 เรื่อง ห้ามสแกนจ่ายเงินค่าปรับ ผ่านใบสั่งเจ้าหน้าที่พนักงานเด็ดขาด
  • อันดับที่ 3 เรื่อง คลื่นแผ่จากเสาส่งโทรศัพท์มือถือและคลื่น WiFi เป็นสาเหตุหลัก ๆ ของการก่อมะเร็ง
  • อันดับที่ 4 เรื่อง 37 จังหวัด เตรียมรับมือพายุกระหน่ำไทย แรงที่สุดในปี 2565 ความแรง 160 km.hr
  • อันดับที่ 5 เรื่อง กัญชาช่วยบรรเทาอาการลมชักเฉียบพลันได้
  • อันดับที่ 6 เรื่อง กรมการจัดหางานรับสมัครงานออนไลน์ และงานพาร์ทไทม์ ผ่านเพจ BLOODHUNTER
  • อันดับที่ 7 เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดรับนักลงทุนหน้าใหม่
  • อันดับที่ 8 เรื่อง รักษาโรคหวัด ด้วยการดื่มน้ำผสมเบคกิ้งโซดา
  • อันดับที่ 9 เรื่อง เกาหลีเปิดรับแรงงานไทยทำไร่ส้ม
  • อันดับที่ 10 เรื่อง เดินไขว้เท้าช่วยให้หัวใจแข็งเเรง

“ดีอีเอส ตระหนักถึงผลกระทบของข่าวปลอมที่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างมาก ขอให้ประชาชนอย่างหลงเชื่อข่าวปลอมที่มีการแพร่ระบาดในทุกช่องทางทั้งจากโชเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และเอสเอ็มเอส หากท่านได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปกติ ผ่านโชเชียลมีเดีย เอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น สามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ” นางสาว นพวรรณ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น