กรุงเทพฯ 3 พ.ย.- EXIM BANK ประกาศจุดยืนใหม่ “กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” เดินเกมรุกปั้นผู้ส่งออกและนักลงทุนในอุตสาหกรรม BCG เชื่อมโยง Supply Chain โลก
EXIM BANK ประกาศจุดยืนและบทบาทใหม่ เป็นธนาคารที่กล้า พัฒนาธุรกิจไทยและประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก ด้วย 3 เครื่องมือใหม่เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มต้นจากบริการสร้างตัวตนแบบครบวงจรให้ SMEs ไทยในเวทีโลก บริการสร้างโอกาสการลงทุนในต่างแดน โดยเฉพาะ New Frontiers (นิว ฟรอนเทียร์ส)รวมถึง CLMV ต่อด้วยบริการยกระดับธุรกิจไทยสู่ BCG Model มุ่งสร้างเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำตามนโยบายรัฐบาล โดยตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อคงค้างเป็น 300,000 ล้านบาทภายในปี 2570
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานประกาศจุดยืนและบทบาทใหม่ “EXIM BANK รวมพลคนกล้า พัฒนาเพื่อคนไทย” และปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ถอดรหัสความกล้า พลิกโฉมประเทศไทยในเวทีโลก”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในปีนี้เศรษฐกิจไทยเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คาดว่าเศรษฐกิจและการส่งออกขยายตัว 3.4% และ 8.1% ตามลำดับ ในส่วนของภาคการส่งออกยังคงมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยอาศัยบทบาทของหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งการขยายบทบาทของ EXIM BANK ในการผลักดันให้เกิดมูลค่าการค้าและการลงทุนที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้การบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐอย่าง EXIM BANK เพื่อพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำตลอด Supply Chain ให้เติบโตได้มั่นคงและยั่งยืน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) ได้ ต้องใช้ “ความกล้า” เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดมิติใหม่ขององค์ความรู้ โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน เครือข่ายธุรกิจ การถ่ายทอดนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะคนตัวเล็ก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน และ SMEs ให้สามารถปรับตัวให้ก้าวทันโลก ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสรักษ์โลก และความยั่งยืน และผู้ประกอบการไทยต้องกล้าเปลี่ยนกรอบความคิด (Mindset) ตัวตน (Identity) และโมเดลธุรกิจ (Business Model)
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า EXIM BANK ขานรับนโยบายของกระทรวงการคลัง เดินหน้าขยายบทบาทการเป็นผู้นำ (Lead Bank) ที่ “กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย (One Step Ahead for All Development)” สร้างนักรบเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในเวทีโลก โดยใช้ 3 เครื่องมือใหม่ ได้แก่
1. บริการสร้างตัวตนแบบครบวงจรให้ SMEs ไทยในเวทีโลก
2. บริการสร้างโอกาสการลงทุนในต่างแดน
3. บริการยกระดับธุรกิจไทยสู่ BCG Model มุ่งสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำตามนโยบายรัฐบาล
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา EXIM BANK ได้ดำเนินบทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” โดยสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งองค์กรในปี 2536 และเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในปี 2537 เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา EXIM BANK ได้มีบทบาทชัดเจนขึ้นในการ “รับความเสี่ยง” “ให้กำเนิดอุตสาหกรรมใหม่” และ “หนุนทุนไทยไปต่างแดน” ด้วยปณิธานของความ “กล้า” ที่จะสนับสนุนความฝันของคนไทยและประเทศไทยให้เป็นจริง
สำหรับผลการดำเนินงานเดือนมกราคม-กันยายน 2565 EXIM BANK สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการไทยด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินและไม่ใช่การเงินได้อย่างครบวงจร ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนในหลายมิติ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 51,243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ณ 20 ตุลาคม 2565 สินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 162,513 ล้านบาท คาดว่าภายในปี 2565 จะทะลุ 165,000 ล้านบาท สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงาน โดย EXIM BANK ตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อคงค้างเป็น 300,000 ล้านบาทภายในปี 2570.-สำนักข่าวไทย