“กรุงไทย” เผยกำไรสุทธิ 9 เดือน 25,588 ล้านบาท

กทม. 21 ต.ค.- “กรุงไทย” ผลประกอบการแข็งแกร่ง กำไรสุทธิ 9 เดือน 25,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% และไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 67%


“ธนาคารกรุงไทย” เผยผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่ง กำไรสุทธิไตรมาส 3 จำนวน 8,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และกำไรงวด 9 เดือนปี 2565 จำนวน 25,588 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 54 จากรายได้รวมที่ขยายตัวได้ดี และการเติบโตของสินเชื่ออย่างสมดุล พร้อมยืนหยัดเคียงข้างคนไทย ยึดมั่นแนวทางปรับดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง รายย่อย และ SMEs ปรับตัวรับมือความท้าทายทางเศรษฐกิจ และฟื้นธุรกิจได้อย่างราบรื่น

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมถึงภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ทั่วถึง ในรูปแบบ “The New K-shaped Economy” จากความท้าทายเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ผลกระทบจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ รวมถึงอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 2 ครั้ง ในเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมา เพื่อรักษาเสถียรภาพราคา การขยายตัวของเศรษฐกิจและเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งพิจารณาการดูแลผู้ประกอบการ SMEs ในบางธุรกิจที่ฟื้นตัวช้าและกลุ่มเปราะบาง


ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด รักษาระดับของ Coverage ratio ในระดับสูง เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ มีความห่วงใยและตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย SMEs และกลุ่มเปราะบาง จึงใช้แนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป สอดคล้องกับนโยบายของธปท. และปรับขึ้นเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายใหญ่และวงเงินเบิกเกินบัญชี ในอัตราร้อยละ 0.25 ซึ่งปรับขึ้นน้อยกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้นรวมร้อยละ 0.50 เพื่อเคียงข้างลูกค้าและสามารถบริหารจัดการสภาพคล่อง โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำร้อยละ 0.15-0.825 ต่อปี เพื่อดูแลผู้ฝากเงินให้มีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมส่งเสริมการออมที่มีความมั่นคงในระยะยาว

สำหรับการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2565 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2564 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เท่ากับ 8,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.2 มีสาเหตุหลักจากรายได้รวมจากการดำเนินงานที่ขยายตัวร้อยละ 11.5 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ จากการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้น 2 ครั้งในเดือนสิงหาคม และกันยายน และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในองค์รวม โดยมี Cost to income ratio เท่ากับร้อยละ 45.31 ลดลงจากร้อยละ 46.21 ในไตรมาส 3/2564 ถึงแม้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ขยายตัวซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 5,667 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 30.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธนาคารพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ พิจารณาถึงปัจจัยแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ประกอบกับติดตามภาพรวมของเงินให้สินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPLs Ratio) ร้อยละ 3.32 ลดลงเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ที่เท่ากับร้อยละ 3.50 และทั้งยังคงรักษาระดับของ Coverage ratio ในระดับสูงที่ร้อยละ 176.4 เทียบกับร้อยละ 168.8 เมื่อสิ้นปี 2564 ภายใต้ทิศทางเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2565 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 สาเหตุหลักจากรายได้รวมจากการดำเนินงานที่ขยายตัวร้อยละ 7.2 จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และรายได้จากการดำเนินงานอื่น ทั้งนี้ ธนาคารบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในองค์รวม โดยมี Cost to income ratio เท่ากับร้อยละ 45.31 ถึงแม้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ขยายตัวซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงระดับการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่ยึดหลักระมัดระวัง โดยในระดับเดียวกับไตรมาสที่ผ่านมา

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2565 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เท่ากับ 25,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักจากรายได้รวมจากการดำเนินงานที่ขยายตัวร้อยละ 5.7 จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ขยายตัวจากการเติบโตของสินเชื่ออย่างสมดุลโดยมุ่งเน้นสินเชื่อที่มีคุณภาพทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย ประกอบกับการบริหารต้นทุนทางการเงินและการบริหารค่าใช้จ่ายในองค์รวมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Cost to Income ratio เท่ากับร้อยละ 43.06 ลดลงจาก ร้อยละ 44.28 ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ลดลงร้อยละ 30.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยยังคงรักษา Coverage ratio ในระดับที่สูง


ณ 30 กันยายน 2565 ธนาคาร (งบเฉพาะธนาคาร) มีเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง เท่ากับ ร้อยละ 16.47 และร้อยละ 20.63 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ของ ธปท. ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน 2565 ธนาคารได้ออกตราสารด้อยสิทธิ ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 จำนวน 18,080 ล้านบาทเพื่อทดแทนตราสารด้อยสิทธิที่จะไถ่ถอนจำนวน 20,000 ล้านบาทในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นการไถ่ถอนก่อนวันครบกำหนดเพื่อช่วยรักษาระดับของอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้แข็งแกร่งและรองรับการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ ธนาคารสามารถขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกแพลตฟอร์มทั้ง Krungthai NEXT Krungthai Connext เป๋าตัง และถุงเงิน โดยธนาคารต่อยอดบริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ทั้งด้านบริการภาครัฐ สุขภาพ การออมและการลงทุน ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเสมอภาค ส่งผลให้ปัจจุบันผู้ใช้งานผ่านช่องทางดิจิทัลของธนาคารมากกว่า 40 ล้านคน ทั้งในภาครายบุคคล และภาคธุรกิจ โดยมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สะท้อนถึงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Open Bankingของธนาคาร เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ พร้อมยึดมั่นแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล(ESG) โดยนำกรอบเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน(SDGs) มาปรับใช้ในกระบวนการดำเนินงาน ภายใต้พันธกิจ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ