“กรุงไทย” เผยกำไรสุทธิ 9 เดือน 25,588 ล้านบาท

กทม. 21 ต.ค.- “กรุงไทย” ผลประกอบการแข็งแกร่ง กำไรสุทธิ 9 เดือน 25,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% และไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 67%


“ธนาคารกรุงไทย” เผยผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่ง กำไรสุทธิไตรมาส 3 จำนวน 8,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และกำไรงวด 9 เดือนปี 2565 จำนวน 25,588 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 54 จากรายได้รวมที่ขยายตัวได้ดี และการเติบโตของสินเชื่ออย่างสมดุล พร้อมยืนหยัดเคียงข้างคนไทย ยึดมั่นแนวทางปรับดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง รายย่อย และ SMEs ปรับตัวรับมือความท้าทายทางเศรษฐกิจ และฟื้นธุรกิจได้อย่างราบรื่น

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมถึงภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ทั่วถึง ในรูปแบบ “The New K-shaped Economy” จากความท้าทายเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ผลกระทบจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ รวมถึงอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 2 ครั้ง ในเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมา เพื่อรักษาเสถียรภาพราคา การขยายตัวของเศรษฐกิจและเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งพิจารณาการดูแลผู้ประกอบการ SMEs ในบางธุรกิจที่ฟื้นตัวช้าและกลุ่มเปราะบาง


ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด รักษาระดับของ Coverage ratio ในระดับสูง เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ มีความห่วงใยและตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย SMEs และกลุ่มเปราะบาง จึงใช้แนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป สอดคล้องกับนโยบายของธปท. และปรับขึ้นเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายใหญ่และวงเงินเบิกเกินบัญชี ในอัตราร้อยละ 0.25 ซึ่งปรับขึ้นน้อยกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้นรวมร้อยละ 0.50 เพื่อเคียงข้างลูกค้าและสามารถบริหารจัดการสภาพคล่อง โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำร้อยละ 0.15-0.825 ต่อปี เพื่อดูแลผู้ฝากเงินให้มีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมส่งเสริมการออมที่มีความมั่นคงในระยะยาว

สำหรับการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2565 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2564 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เท่ากับ 8,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.2 มีสาเหตุหลักจากรายได้รวมจากการดำเนินงานที่ขยายตัวร้อยละ 11.5 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ จากการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับขึ้น 2 ครั้งในเดือนสิงหาคม และกันยายน และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในองค์รวม โดยมี Cost to income ratio เท่ากับร้อยละ 45.31 ลดลงจากร้อยละ 46.21 ในไตรมาส 3/2564 ถึงแม้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ขยายตัวซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 5,667 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 30.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธนาคารพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ พิจารณาถึงปัจจัยแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ประกอบกับติดตามภาพรวมของเงินให้สินเชื่อและคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPLs Ratio) ร้อยละ 3.32 ลดลงเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2564 ที่เท่ากับร้อยละ 3.50 และทั้งยังคงรักษาระดับของ Coverage ratio ในระดับสูงที่ร้อยละ 176.4 เทียบกับร้อยละ 168.8 เมื่อสิ้นปี 2564 ภายใต้ทิศทางเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2565 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 สาเหตุหลักจากรายได้รวมจากการดำเนินงานที่ขยายตัวร้อยละ 7.2 จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และรายได้จากการดำเนินงานอื่น ทั้งนี้ ธนาคารบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในองค์รวม โดยมี Cost to income ratio เท่ากับร้อยละ 45.31 ถึงแม้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ขยายตัวซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการให้บริการแก่ลูกค้า ธนาคารและบริษัทย่อยยังคงระดับการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่ยึดหลักระมัดระวัง โดยในระดับเดียวกับไตรมาสที่ผ่านมา

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2565 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เท่ากับ 25,588 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักจากรายได้รวมจากการดำเนินงานที่ขยายตัวร้อยละ 5.7 จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ขยายตัวจากการเติบโตของสินเชื่ออย่างสมดุลโดยมุ่งเน้นสินเชื่อที่มีคุณภาพทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย ประกอบกับการบริหารต้นทุนทางการเงินและการบริหารค่าใช้จ่ายในองค์รวมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Cost to Income ratio เท่ากับร้อยละ 43.06 ลดลงจาก ร้อยละ 44.28 ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ลดลงร้อยละ 30.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยยังคงรักษา Coverage ratio ในระดับที่สูง


ณ 30 กันยายน 2565 ธนาคาร (งบเฉพาะธนาคาร) มีเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง เท่ากับ ร้อยละ 16.47 และร้อยละ 20.63 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์ของ ธปท. ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน 2565 ธนาคารได้ออกตราสารด้อยสิทธิ ที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 จำนวน 18,080 ล้านบาทเพื่อทดแทนตราสารด้อยสิทธิที่จะไถ่ถอนจำนวน 20,000 ล้านบาทในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นการไถ่ถอนก่อนวันครบกำหนดเพื่อช่วยรักษาระดับของอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้แข็งแกร่งและรองรับการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ ธนาคารสามารถขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกแพลตฟอร์มทั้ง Krungthai NEXT Krungthai Connext เป๋าตัง และถุงเงิน โดยธนาคารต่อยอดบริการผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ทั้งด้านบริการภาครัฐ สุขภาพ การออมและการลงทุน ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเสมอภาค ส่งผลให้ปัจจุบันผู้ใช้งานผ่านช่องทางดิจิทัลของธนาคารมากกว่า 40 ล้านคน ทั้งในภาครายบุคคล และภาคธุรกิจ โดยมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สะท้อนถึงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Open Bankingของธนาคาร เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ พร้อมยึดมั่นแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล(ESG) โดยนำกรอบเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน(SDGs) มาปรับใช้ในกระบวนการดำเนินงาน ภายใต้พันธกิจ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย