คาด กนง. 2 รอบสุดท้ายปีนี้ขึ้นดอกเบี้ยสกัดบาทอ่อนค่า

กรุงเทพฯ 23 ก.ย.-กสิกรไทยคาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ย อีก 2 รอบปีนี้ รวมอีก  0.50% สกัดบาทอ่อนค่า เตือนใน 1 เดือนข้างหน้าแตะ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ด้าน “กอบศักดิ์” ส่งสัญญาณเตือนรับมือ Global Recessions   หลังเฟดย้ำเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยกดเงินเฟ้อตามเป้า 2 %


นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน  28  ก.ย.นี้ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตรา 0.25% และปรับขึ้นอีกในอัตราเดียวกันในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี รวมเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ จะช่วยลดแรงกดดันการอ่อนค่าของเงินบาทที่จะส่งผลต่อการนำเข้าต้นทุนพลังงานและนำไปสู่ต้นทุนของธุรกิจ-ค่าครองชีพต่อไปได้  โดยคาดว่าเงินบาทในช่วงสิ้นปีจะอยู่ที่ราว 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยสนับสนุนมาจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจน ส่งผลต่อเนื่องให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศดีขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ประเมินค่าเงินบาทในช่วง 1 เดือนข้างหน้านี้ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง และมีโอกาสทดสอบที่ระดับ 38.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ช่วงนี้ ทิศทางบาทอ่อนค่าและมีความผันผวนค่อนข้างสูง ตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่สูงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และยังส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเข้มข้นต่อไปเพื่อกดเงินเฟ้อให้ลดลงยู่ในระดับ 2% ส่งผลให้ค่าเงินของเกือบทุกประเทศทั่วโลกอ่อนค่าลง ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลงนับแต่ต้นปีคิดเป็น 10.6% ซึ่งสอดคล้องกับค่าเงินอื่นในภูมิภาค 


“คาด กนง.สัปดาห์หน้าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับ 0.25%  และภาครัฐคงจะขอความร่วมมือแบงก์พาณิชย์ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยทันที แต่จะมีผลในตลาดตราสารหนี้มากกว่า โดยเศรษฐกิจไทยแม้จะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่โตต่ำกว่าศักยภาพอยู่ถึง 5%  และยังสุ่มเสี่ยงจากภาคการส่งออกที่เติบโตในอัตราที่ลดลงเรื่อยๆ  แม้การท่องเที่ยวเริ่มฟื้น แต่คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีจึงจะกลับไปช่วงก่อนเกิดโควิด ดังนั้น การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป”นายกอบสิทธิ์กล่าว

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ และประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ที่ขึ้นดอกเบี้ยก.ย. 0.75% และนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดออกมาระบุถึงการดำเนินการต่อไปตามเป้าหมายเฟดจะเอาเงินเฟ้อลงมาที่ 2% ให้ได้ เพราะถ้าพลาดเรื่องนี้ จะเสียหายกันมากกว่านี้ เช่น ระบุว่า “ We will keep at it until we are confident the job is done … เราจะไม่หยุด จนเรามั่นใจได้ว่าเงินเฟ้อสยบ และปิดงานได้”

นายกอบศักดิ์ชี้ว่าจากสิ่งที่เฟดกำลังทำ คงต้องสรุปว่า เฟดตั้งใจที่จะ “ทุบเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่การสยบเงินเฟ้อ” ซึ่งเป็นไม้ตายขั้นสูงสุด ที่ธนาคารกลางจะนำมาใช้ได้ หมายความว่า เฟดจะเดินหน้า ไม่เปลี่ยนใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไร คนจะตกงาน บริษัทล้มละลาย ตลาดอสังหาสหรัฐพัง ค่าเงินดอลลาร์แข็ง ส่งออกไม่ได้ Emerging Market ปั่นป่วน เกิดวิกฤตรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น พรรคเดโมแครต ได้รับผลกระทบในการเลือกตั้งที่จะถึงเศรษฐกิจสหรัฐพัง ติดลบ


โดยล่าสุด จากการประมาณการณ์ของเฟดในรอบที่ผ่านมา  ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ที่เมื่อปลายปีที่แล้วประมาณว่าจะโต4.0% ขณะนี้ปรับใหม่ คาดว่าจะโตเพียง 0.0-0.5% หรือลดลง 3.5-4.0% อัตราคนว่างงานปีนี้ ที่เคยคิดว่าจะอยู่ที่ 3.5%ตอนนี้ คาดว่าจะตกงานกันที่ 3.7-5.0% เพิ่มขึ้น 0.2-1.5% โดยหากเป็นกรณีแย่สุด จะมีคนตกงานเพิ่มขึ้น1.5% หมายความว่า ถ้าคำนวนเร็วๆ จากคนทำงานในสหรัฐ 157.5 ล้านคนต้องมีคนตกงานเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านคน

ทั้งหมดนี้ เป็นแค่ตัวเลขเบื้องต้น บนพื้นฐานจากดอกเบี้ยที่คาดว่าจะขึ้นไปสูงสุดที่ 4.6% ในช่วงปลายปีหน้า แต่ถ้าสุดท้ายเงินเฟ้อยังดื้อแพ่ง ลงมาช้า หรือค้างอยู่ที่ 3-4% เฟดก็คงต้องเพิ่มยาขึ้นดอกเบี้ยไปอย่างน้อยถึงระดับ 5-6% ตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้ ก็จะแย่กว่านี้ ไปอีกพอสมควร แต่เฟดก็คงยังยืนยันต่อไปว่า เป็นสิ่งทุกคนที่ต้องยอม ไม่มีทางเลือกซึ่งจะทำให้สหรัฐก็จะเข้าสู่ภาวะถดถอย( Recession) เต็มรูปแบบ ที่อาจลึกกว่าที่ทุกคนคาด

“ทั้งหมด จึงเป็นสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า อันจะมีนัยยะต่อทุกคนต่อไป ราคาสินทรัพย์ต่างๆค่าเงิน การส่งออก กำไร สภาพคล่อง การจ้างงาน และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งความจริงแล้ว การทุบเศรษฐกิจ เพื่อสยบเงินเฟ้อ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีคนบอกว่า ถ้าลองย้อนไปดูในอดีตที่ผ่านมา Recession ที่เกิดขึ้น เป็นผลงานที่เฟดสร้างเป็นส่วนมาก เพียงแต่ครั้งนี้ปัญหาอาจจะลุกลามขึ้นเป็น Global Recessions  เพราะมีธนาคารกลางหลายแห่ง ที่อยาก “พิชิตเงินเฟ้อ” พร้อมๆกันครับ”นายกอบศักดิ์ ระบุ-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย