เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือนที่ 36.48 บาท/ดอลลาร์ฯ

กรุงเทพฯ 22 มี.ค. – เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือนที่ 36.48 บาท/ดอลลาร์ฯ ผันผวนว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา แนะใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย


ธนาคารกสิกรไทย รายงานว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือนที่ 36.48 บาท/ดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.42-36.44 บาท/ดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.28 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.05 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทยังคงอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากสัญญาณ Dovish ของธนาคารกลางอื่นๆ ที่มีการประชุมเมื่อวานนี้ ทั้งธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ที่ประเมินว่าสถานการณ์เศรษฐกิจกำลังโน้มไปในทางที่ทำให้ BOE เตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงิน

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าขึ้นหลัง SNB ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% วานนี้ (21 มี.ค.) ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่สวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และทำให้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์กลายเป็นธนาคารกลางรายใหญ่แห่งแรกของโลกที่เริ่มยุติการคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และการอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก สวนทางกับเงินดอลลาร์ฯ ที่มีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลง และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. ที่เพิ่มขึ้นกว่าที่ตลาดคาด)


นายวิทวัส เลิศบรรณพงษ์ ผู้ช่วยผู้บริหารงานขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ระบุอีกปัจจัยหนึ่งที่อาจกดดันค่าเงินบาทในช่วงครึ่งปีแรก คือ “ฟันด์โฟลว์” ไหลออกแรง หลังจ่ายเงินปันผล ให้ผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติช่วง เม.ย.-พ.ค. ประเมินจ่ายออกประมาณ 81,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อน ส่วนปัจจัยเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ความไม่แน่นอนน่าจะอยู่ที่เรื่องดอกเบี้ย แต่จะได้รับปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยว คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 38 ล้านคน คาดเงินบาท ณ สิ้นปี 67 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 35.20 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปัจจุบัน

ด้าน น.ส.ซาร่า ผลพิบูลย์ ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุนอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย มองปัจจัยหลักๆ ที่จะมีผลต่อทิศทางค่าเงินบาทว่า มาจากแนวโน้มเศรษฐกิจ และแนวโน้มดอกเบี้ย โดยเศรษฐกิจไทยโมเมนตัมอ่อนแอ ตลาดมองว่าปีนี้ ธปท.จะลดดอกเบี้ยทั้งหมด 2 ครั้ง ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.00% ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 2.50% ต่อปี คาดว่าครั้งแรกน่าจะลดในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือน มิ.ย. เนื่องจากถ้าลดเร็วกว่านั้น อาจไม่สมเหตุสมผล ขณะเดียวกันการลดดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดูไม่สมเหตุสมผล เพราะอาจเกิดผลลบมากกว่า ทำ flow ไหลออกต่อเนื่อง และกระทบเงินบาทได้

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การพลิกกลับมาอ่อนค่าเกินกว่าคาดของเงินบาทนั้น ทำให้ต้องประเมินใหม่ ว่า เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าต่อทดสอบโซนแนวต้าน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้ โดยจังหวะดังกล่าว อาจเกิดขึ้นได้ไม่ยาก หากสกุลเงินฝั่งยุโรป ทั้ง เงินปอนด์อังกฤษ และเงินยูโร อ่อนค่าลงต่อเนื่อง จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ที่ออกมาแย่กว่าคาด หรือสะท้อนการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจฝั่งยุโรปมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดมั่นใจแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของบรรดาธนาคารกลางหลักฝั่งยุโรปที่อาจเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้


“มุมมองของเราต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง อีกทั้ง ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในด้านการท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนในเชิง Valuation ค่าเงินบาทแถว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ ก็เป็นโซนที่เงินบาท Undervalued พอสมควร ทำให้เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดสามารถทยอย SELL on RALLY USDTHB ได้ ในช่วงนี้ ความผันผวนของเงินบาทนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา แนะนำผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย เช่น Option หรือการเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency)”นายพูน กล่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลจีนได้เข้าดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วยการเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินหยวน หลังเงินหยวนอ่อนค่าทะลุระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 7.2 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับต่ำถึง 7.24 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินหยวนอ่อนค่า เพราะคาดกันว่าจีนจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจีน นักบริหารเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เช้านี้บาทอ่อนค่าไปมากตามทิศทางตลาดโลก แต่น่าจะเป็นสถานการณ์ชั่วคราว ช่วงนี้ระหว่างวันจะผันผวน ตลาดกลับมาซื้อดอลลาร์หลังเทขายออกมาเพื่อทำกำไร ในขณะเดียวกันเงินเยนก้อ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 151.47 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 151.07 เยน/ดอลลาร์.-511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก