เปิดจุดบริการด่วนมหานคร แบบครบวงจร ที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน

กทม. 9 ก.ย. – กรมการกงสุล กรุงเทพมหานคร และ MBK Center จับมือกันครั้งแรก เพื่อให้บริการประชาชนแบบครบวงจรที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน


เช้าวันนี้ (9 ก.ย.) นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และนายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดตั้งจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service) ณ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ชั้น 5 โซน A เพื่อให้บริการภาครัฐและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว

นับเป็นครั้งแรกที่กรมการกงสุล กรุงเทพมหานคร และศูนย์การค้า MBK Center จับมือกันเปิดให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ประกอบด้วย บริการหนังสือเดินทางและการรับรองนิติกรณ์เอกสารของกรมการกงสุล งานทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชนและงานทะเบียนราษฎรของสำนักงานเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด


ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2565 เป็นต้นไป จุดบริการด่วนมหานครจะเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 10.00-19.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ วันหยุดราชการหรือวันนักขัตฤกษ์ ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. ยกเว้นวันหยุดเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ และวันสงกรานต์

ในช่วงวันที่ 9-30 กันยายน 2565 บริการหนังสือเดินทางจะเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันเสาร์ ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. และบริการรับรองนิติกรณ์เอกสาร จะเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 10.00-15.30 น. ยกเว้นวันหยุดที่ทางราชการกำหนด

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป บริการหนังสือเดินทางจะเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. ยกเว้นวันหยุดที่ราชการกำหนด


นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล เน้นย้ำงานบริการประชาชนซึ่งเป็นหัวใจของกรมการกงสุลตามแนวทาง “การทูตเพื่อประชาชน ทุกแห่งหนเราดูแล” ทำให้กรมการกงสุลได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) และมุ่งพัฒนางานบริการอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานหนังสือเดินทางฯ ปทุมวัน เป็นแห่งแรกที่ให้บริการรับคำร้องแบบบริการด้วยตนเองผ่านเครื่อง Kiosk ซึ่งมีจุดเด่นที่กล้องถ่ายภาพ ผู้รับบริการพึงพอใจที่สามารถเลือกภาพถ่ายใบหน้าที่จะปรากฏในหนังสือเดินทางได้ตามชอบ คุณภาพกล้องและการจัดแสงไฟทำให้ได้ภาพใบหน้าที่ดูดีสำหรับหนังสือเดินทางสำหรับหนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งาน 10 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลแนะนำการใช้งานและทำความสะอาดเครื่อง Kiosk ตลอดเวลา รวมทั้งสามารถชำระค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทางและค่าบริการไปรษณีย์ที่เครื่อง Kiosk นับเป็นนวัตกรรมที่ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียวในเดือนตุลาคมนี้ และเป็นสำนักงานฯ แห่งแรกที่เปิดให้บริการในวันเสาร์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 และต่อไปจะเปิดให้บริการทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก จะเห็นได้จากจำนวนผู้มารับบริการหนังสือเดินทางที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 1,800 คน/วัน

โดยสำนักงานฯ สามารถรองรับการให้บริการได้ 2,000 คนต่อวัน ผู้ที่ประสงค์จะรับบริการควรจองคิวออนไลน์มาล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการรับบริการ ไม่ต้องรอนาน

นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่าสำนักงานเขตปทุมวัน ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานครในการให้บริการประชาชน เน้นการให้บริการเชิงรุก สะดวก รวดเร็ว และประชาชนเกิดความพึงพอใจ โดยมีการเปิดศูนย์ย่อยให้บริการนอกสำนักงานเขตทั้งหมด 4 แห่งในพื้นที่ โดยในจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service) ณ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน มีความพิเศษกว่าจุดบริการอื่นๆ คือ ทำบัตรประจำตัวประชาชนทุกกรณี คัดรับรองสำเนาเอกสารฉบับภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ได้แก่ ทะเบียนบ้าน ทะเบียนคนเกิด ทะเบียนคนตาย และทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชนที่มีในฐานข้อมูล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ให้สามารถติดต่อรับบริการได้ในช่วงนอกเวลาราชการ หรือวันหยุด นักขัตฤกษ์ โดยผู้รับบริการยังสามารถจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น BMAQ เพื่อเข้ารับบริการได้ตามวันและเวลาที่ต้องการ โดยไม่ต้องรอนาน

นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ มุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งและบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ครบในที่เดียว (One Stop shopping & Service) และความพร้อมของทำเลที่ตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับกรมการกงสุล และกรุงเทพมหานคร จัดตั้งจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service) ณ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ถือเป็นการยกระดับการให้บริการแบบครบวงจร ขยายความร่วมมือจากที่ได้ร่วมกันจัดตั้งสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน

จองคิวออนไลน์ทำหนังสือเดินทางได้ที่ https://www.qpassport.in.th และจองคิวออนไลน์เพื่อรับรองนิติกรณ์เอกสารได้ที่ https://qlegal.consular.go.th/ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]