เปิดจุดบริการด่วนมหานคร แบบครบวงจร ที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน

กทม. 9 ก.ย. – กรมการกงสุล กรุงเทพมหานคร และ MBK Center จับมือกันครั้งแรก เพื่อให้บริการประชาชนแบบครบวงจรที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน


เช้าวันนี้ (9 ก.ย.) นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน และนายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดตั้งจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service) ณ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ชั้น 5 โซน A เพื่อให้บริการภาครัฐและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว

นับเป็นครั้งแรกที่กรมการกงสุล กรุงเทพมหานคร และศูนย์การค้า MBK Center จับมือกันเปิดให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ประกอบด้วย บริการหนังสือเดินทางและการรับรองนิติกรณ์เอกสารของกรมการกงสุล งานทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชนและงานทะเบียนราษฎรของสำนักงานเขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด


ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2565 เป็นต้นไป จุดบริการด่วนมหานครจะเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 10.00-19.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ วันหยุดราชการหรือวันนักขัตฤกษ์ ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. ยกเว้นวันหยุดเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ และวันสงกรานต์

ในช่วงวันที่ 9-30 กันยายน 2565 บริการหนังสือเดินทางจะเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันเสาร์ ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. และบริการรับรองนิติกรณ์เอกสาร จะเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 10.00-15.30 น. ยกเว้นวันหยุดที่ทางราชการกำหนด

ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป บริการหนังสือเดินทางจะเปิดให้บริการในวันจันทร์-วันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. ยกเว้นวันหยุดที่ราชการกำหนด


นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล เน้นย้ำงานบริการประชาชนซึ่งเป็นหัวใจของกรมการกงสุลตามแนวทาง “การทูตเพื่อประชาชน ทุกแห่งหนเราดูแล” ทำให้กรมการกงสุลได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) และมุ่งพัฒนางานบริการอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานหนังสือเดินทางฯ ปทุมวัน เป็นแห่งแรกที่ให้บริการรับคำร้องแบบบริการด้วยตนเองผ่านเครื่อง Kiosk ซึ่งมีจุดเด่นที่กล้องถ่ายภาพ ผู้รับบริการพึงพอใจที่สามารถเลือกภาพถ่ายใบหน้าที่จะปรากฏในหนังสือเดินทางได้ตามชอบ คุณภาพกล้องและการจัดแสงไฟทำให้ได้ภาพใบหน้าที่ดูดีสำหรับหนังสือเดินทางสำหรับหนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งาน 10 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลแนะนำการใช้งานและทำความสะอาดเครื่อง Kiosk ตลอดเวลา รวมทั้งสามารถชำระค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทางและค่าบริการไปรษณีย์ที่เครื่อง Kiosk นับเป็นนวัตกรรมที่ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียวในเดือนตุลาคมนี้ และเป็นสำนักงานฯ แห่งแรกที่เปิดให้บริการในวันเสาร์ตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 และต่อไปจะเปิดให้บริการทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก จะเห็นได้จากจำนวนผู้มารับบริการหนังสือเดินทางที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณ 1,800 คน/วัน

โดยสำนักงานฯ สามารถรองรับการให้บริการได้ 2,000 คนต่อวัน ผู้ที่ประสงค์จะรับบริการควรจองคิวออนไลน์มาล่วงหน้าเพื่อความสะดวกในการรับบริการ ไม่ต้องรอนาน

นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่าสำนักงานเขตปทุมวัน ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานครในการให้บริการประชาชน เน้นการให้บริการเชิงรุก สะดวก รวดเร็ว และประชาชนเกิดความพึงพอใจ โดยมีการเปิดศูนย์ย่อยให้บริการนอกสำนักงานเขตทั้งหมด 4 แห่งในพื้นที่ โดยในจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service) ณ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน มีความพิเศษกว่าจุดบริการอื่นๆ คือ ทำบัตรประจำตัวประชาชนทุกกรณี คัดรับรองสำเนาเอกสารฉบับภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ได้แก่ ทะเบียนบ้าน ทะเบียนคนเกิด ทะเบียนคนตาย และทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชนที่มีในฐานข้อมูล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ให้สามารถติดต่อรับบริการได้ในช่วงนอกเวลาราชการ หรือวันหยุด นักขัตฤกษ์ โดยผู้รับบริการยังสามารถจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น BMAQ เพื่อเข้ารับบริการได้ตามวันและเวลาที่ต้องการ โดยไม่ต้องรอนาน

นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ มุ่งมั่นในการส่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งและบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้ครบในที่เดียว (One Stop shopping & Service) และความพร้อมของทำเลที่ตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมือกับกรมการกงสุล และกรุงเทพมหานคร จัดตั้งจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service) ณ สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ถือเป็นการยกระดับการให้บริการแบบครบวงจร ขยายความร่วมมือจากที่ได้ร่วมกันจัดตั้งสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปทุมวัน

จองคิวออนไลน์ทำหนังสือเดินทางได้ที่ https://www.qpassport.in.th และจองคิวออนไลน์เพื่อรับรองนิติกรณ์เอกสารได้ที่ https://qlegal.consular.go.th/ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]