เมียนมาจับผู้สื่อข่าวอีก 2 คน

สถานีโทรทัศน์ของกองทัพเมียนมารายงานว่า ทางการได้ควบคุมตัวผู้สื่อข่าวชาวเมียนมาอีก 2 คน ด้านองค์กรสื่อประณามว่า เป็นการควบคุมตัวโดยผิดกฎหมาย

นายกฯออสเตรียยืนยันไม่รับชาวอัฟกันอพยพ

เวียนนา 22 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน คุร์ซ ของออสเตรียยืนยันว่า จะไม่รับชาวอัฟกันอพยพเข้าประเทศตราบใดที่เขายังเป็นผู้นำประเทศ ผู้นำสายอนุรักษ์นิยมวัย 34 ปี ชูนโยบายแข็งกร้าวต่อการอพยพ จนชนะเลือกตั้งมา 2 สมัยตั้งแต่ปลายปี 2560 เขาให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ในประเทศ ซึ่งเผยแพร่บทสัมภาษณ์บางส่วนก่อนออกอากาศเต็มในวันนี้ว่า เขาคัดค้านอย่างชัดเจนอยู่แล้วเรื่องเปิดประเทศรับผู้อพยพอีก เรื่องนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นตราบใดที่เขายังเป็นนายกรัฐมนตรี ออสเตรียรับผู้อพยพเข้าประเทศในสัดส่วนที่มากอย่างไม่เหมาะสมอยู่แล้ว ทั้งผู้ลี้ภัย (refugee) และผู้แสวงหาที่ลี้ภัย (asylum seeker) ชาวอัฟกัน เขาเห็นว่า ผู้ที่กำลังเดินทางออกจากอัฟกานิสถานควรอยู่ในภูมิภาคมากกว่า พร้อมกับอ้างข้อมูลที่ตรงกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ว่าประเทศเพื่อนบ้านอัฟกานิสถานอย่างเติร์กเมนิสถานและอุซเบกิสถานรับผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันเพียง 14 และ 13 คนเท่านั้น ออสเตรียรับผู้แสวงหาที่ลี้ภัยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 1 ของประชากรทั้งประเทศ ในช่วงที่ยุโรปเกิดวิกฤตผู้อพยพในปี 2558-2559 ข้อมูลปี 2563 ของ UNHCR ระบุว่า ออสเตรียมีผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันมากกว่า 40,000 คน มากเป็นอันดับสองของยุโรปรองจากเยอรมนีที่มีมากถึง 148,000 คน แต่ออสเตรียมีประชากรน้อยกว่าเยอรมนีถึง 9 เท่า.-สำนักข่าวไทย

ผู้ร่วมก่อตั้งตาลีบันเข้าคาบูลแล้วเตรียมหารือตั้งรัฐบาล

นายมุลลาห์ อับดุล กานี บาราดาร์ ผู้ร่วมก่อตั้งตาลีบันเดินทางเข้ากรุงคาบูลของอัฟกานิสถานแล้ว เพื่อเจรจากับแกนนำกลุ่มต่าง ๆ เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลปกครองประเทศ หลังจากยึดการปกครองได้เมื่อสัปดาห์ก่อน

สหรัฐ-เยอรมนีเตือนคนในอัฟกานิสถานอย่าไปสนามบิน

คาบูล 22 ส.ค.- สหรัฐและเยอรมนีเตือนพลเมืองของตนเองในอัฟกานิสถานหลีกเลี่ยงการเดินทางไปท่าอากาศยานกรุงคาบูล เนื่องจากเสี่ยงไม่ปลอดภัยจากการที่คนจำนวนมากไปเบียดเสียดกันหวังเดินทางออกนอกประเทศ หลังจากตาลีบันเข้าปกครองประเทศอีกครั้ง สถานทูตสหรัฐออกคำแนะนำว่า ขอเตือนพลเมืองอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่ท่าอากาศยานกรุงคาบูลในเวลานี้ จนกว่าจะได้รับคำสั่งเป็นรายบุคคลจากตัวแทนรัฐบาลสหรัฐให้เดินทางไป ขณะที่สถานทูตเยอรมนีส่งอีเมลเตือนพลเมืองเยอรมันว่า ตาลีบันกำลังควบคุมพื้นที่รอบท่าอากาศยานอย่างเข้มงวด พล.ต.วิลเลียม เทย์เลอร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายจัดการกำลังพลและปฏิบัติการภูมิภาคในคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ ชี้แจงต่อกระทรวงกลาโหมสหรัฐว่า กำลังพล 5,800 นาย ยังคงประจำการอยู่ที่ท่าอากาศยานที่ยังคงมีความปลอดภัย และเพิ่งเปิดประตูท่าอากาศยานบางประตูอีกครั้งเมื่อวันก่อนเพื่อให้ผู้ต้องการอพยพปลอดภัย จนถึงขณะนี้อพยพคนออกจากอัฟกานิสถานแล้ว 17,000 คน เป็นชาวอเมริกัน 2,500 คน ด้านตาลีบันเผยกับรอยเตอร์ว่า อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอยู่ ทางกลุ่มกำลังหาทางทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ต้องการเดินทางออกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่รัฐบาลกาตาร์แจ้งว่า กองทัพอากาศได้อพยพชาวอัฟกัน นักการทูตและสื่อต่างชาติออกจากอัฟกานิสถาน และจะให้ชาวอัฟกันพักพิงจนกว่าจะสามารถเข้าประเทศที่สามได้.-สำนักข่าวไทย

ยอดโควิดระลอกใหม่ในนิวซีแลนด์เพิ่มเป็น 72 คน

เวลลิงตัน 22 ส.ค.- นิวซีแลนด์พบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่ 21 คนในวันนี้ ทำให้การระบาดระลอกล่าสุดจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ง่ายมียอดติดเชื้อเพิ่มเป็น 72 คนแล้วในขณะนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนิวซีแลนด์แจ้งว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20 คนอยู่ในเมืองออกแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ  และอีก 1 คนอยู่ในกรุงเวลลิงตัน มีคนต้องเข้าโรงพยาบาล 5 คน แต่ไม่มีใครป่วยหนัก คนในนิวซีแลนด์ 5.1 ล้านคนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดทั้งประเทศจนถึงเที่ยงคืนวันอังคาร เพราะการระบาดขยายวงออกไปจาก 2 เมืองนี้แล้ว นายคริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีนิวซีแลนด์ผู้รับผิดชอบเรื่องมาตรการรับมือโรคโควิด-19 เผยว่า มีผู้รับวัคซีนครบโดสแล้วราว 1 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากร หลังจากเมื่อวานนี้เร่งฉีดได้มากกว่า 50,000 โดส นิวซีแลนด์มียอดติดเชื้อสะสมราว 3,000 คน เสียชีวิต 26 คน.-สำนักข่าวไทย

เผยอังกฤษจะตรวจภูมิคุ้มกันโควิดให้คนมีผลตรวจเป็นบวก

สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ว่า รัฐบาลจะตรวจภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีผลตรวจเป็นบวก

ตาลีบันเข้าเมืองหลวงอัฟกานิสถานแล้ว

เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานแจ้งว่า กลุ่มตาลีบันเข้ากรุงคาบูลแล้วในวันนี้ ด้านสหรัฐใช้เฮลิคอปเตอร์อพยพนักการทูตออกจากสถานทูต

ฟิลิปปินส์พบคนติดโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดารายแรก

มะนิลา 15 ส.ค.- ฟิลิปปินส์แจ้งพบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์แลมบ์ดาเป็นรายแรกของประเทศ ขณะที่ยอดติดเชื้อรายใหม่ช่วง 7 วันที่ผ่านมาเฉลี่ยที่วันละ 11,000 คน กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์แลมบ์ดาเป็นรายแรกของประเทศ และขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด องค์การอนามัยโลกกำหนดให้สายพันธุ์แลมบ์ดาเป็นสายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ พบครั้งแรกที่เปรูเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผลการศึกษาในห้องทดลองพบว่า มีการกลายพันธุ์ที่สามารถต้านทานแอนติบอดีที่ร่างกายสร้างขึ้นจากการถูกกระตุ้นด้วยวัคซีน ด้านกลุ่มวิจัยในฟิลิปปินส์แจ้งวันนี้ว่า วันที่ 8-14 สิงหาคมพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยวันละ 11,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 จากช่วง 7 วันก่อนหน้านี้ และมีอัตราการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1.46 หมายความว่าผู้ติดเชื้อ 1 คนสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้อีก 1.46 คน ส่วนอัตราการครองเตียงในหอผู้ป่วยวิกฤตหรือไอซียูอยู่ที่ร้อยละ 70 ซึ่งถือว่าสูง ฟิลิปปินส์มียอดติดเชื้อสะสมกว่า 1 ล้าน 7 แสน 4 หมื่นคน เสียชีวิตกว่า 30,300 คน.-สำนักข่าวไทย

ปากีสถานปิดด่านอัฟกานิสถานที่พลุกพล่านที่สุดแล้ว

อิสลามาบัด 15 ส.ค.- ปากีสถานปิดด่านข้ามแดนติดกับอัฟกานิสถานที่พลุกพล่านที่สุดแล้วในวันนี้ หลังจากกลุ่มตาลีบันเข้ายึดเมืองพรมแดนดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยปากีสถานแถลงว่า ได้ปิดด่านตอร์คามที่เชื่อมจังหวัดไคเบอร์ปักตุนควาของปากีสถานกับจังหวัดนันการ์ฮาร์ของอัฟกานิสถานแล้ว เป็นด่านพรมแดนที่พลุกพล่านที่สุดระหว่างกัน หลังจากตาลีบันยึดเมืองจาลาลาบัด เมืองเอกของนันการ์ฮาร์ได้ในวันนี้ และตำรวจอัฟกานิสถานบริเวณพรมแดนได้ยอมจำนนให้แก่ตาลีบัน ส่วนด่านชามานที่เชื่อมจังหวัดบาลูจิสถานของปากีสถานกับจังหวัดกันดาฮาร์ของอัฟกานิสถานยังคงเปิดอยู่ ปากีสถานประกาศก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่สามารถรับผู้อพยพชาวอัฟกันที่หนีการสู้รบในอัฟกานิสถานได้อีกแล้ว และใกล้จะติดตั้งรั้วตลอดแนวพรมแดนยาวแล้วเสร็จ เพื่อป้องกันสมาชิกตาลีบันข้ามพรมแดนเข้ามา.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ตั้งกำแพงรถบัสสกัดชุมนุมการเมือง

โซล 15 ส.ค.- ตำรวจเกาหลีใต้ระดมรถโดยสารมาตั้งเป็นกำแพงและตั้งด่านตรวจในวันนี้ เพื่อสกัดการชุมนุมทางการเมืองในกรุงโซล เนื่องในวันฉลองอิสรภาพ 15 สิงหาคมของทุกปี รัฐบาลเกาหลีใต้ห้ามการประท้วงและประกาศลงโทษการฝ่าฝืนกฎหมายทุกอย่างเป็นการล่วงหน้า เพราะเกรงจะซ้ำรอยการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและการรวมตัวทางศาสนาเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อนที่ทำให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด มีคนติดเชื้อมากกว่า 1,800 คน ตำรวจนำรถโดยสารมาจอดขวางตามถนนสายหลัก และรอบจัตุรัสใหญ่ใจกลางกรุงโซล รวมทั้งตั้งจุดตรวจกว่า 80 จุด สกัดยวดยานที่จะนำคนและอุปกรณ์เข้าไปชุมนุม ขณะที่รถไฟใต้ดินและรถโดยสารสาธารณะไม่จอดตามสถานีรอบสถานที่ที่อาจมีการชุมนุม นายกรัฐมนตรีคิม บูคยอมประกาศใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับการชุมนุมผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี ภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์ในเกาหลีใต้เห็นกลุ่มคนหลายกลุ่มยังคงออกไปรวมตัวกัน โดยมีการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อประท้วงในหลายประเด็น เช่น นโยบายรัฐบาล สิทธิแรงงาน ขณะเดียวกันสำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า นิกายทางศาสนาที่เป็นศูนย์กลางการระบาดเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อนได้จัดพิธีทางศาสนาในวันนี้ มีคนเข้าร่วมกว่า 800 คน ฝ่าฝืนมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ส่วนเมื่อวานนี้ตำรวจได้สลายกลุ่มที่จัดการชุมนุมทางการเมืองเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน และศาลได้ออกหมายจับแกนนำสหภาพแรงงานที่จัดการประท้วงผิดกฎหมายหลายครั้งมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม สำนักควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีของเกาหลีใต้แจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,817 คนเมื่อวันเสาร์ ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมกว่า 223,900 คน เสียชีวิตกว่า 2,100 คน เกาหลีใต้หาทางควบคุมการระบาดระลอก 4 ตั้งเป้าฉีดวัคซีนประชากรให้ได้ร้อยละ 70 ภายในเดือนตุลาคมนี้ […]

พันธมิตรในฮ่องกงสลายตัวเพราะถูกจีนบีบ

ฮ่องกง 15 ส.ค.- พันธมิตรในฮ่องกงที่เคยจัดการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฮ่องกงเมื่อ 2 ปีก่อน ประกาศสลายตัวแล้วในวันนี้ เนื่องจากถูกทางการจีนกวาดล้าง แนวร่วมสิทธิมนุษยชนพลเมือง (CHRF) ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า การที่ทางการจีนกวาดล้างผู้สนับสนุนและคำสั่งที่มีผลห้ามการประท้วงทำให้ทางกลุ่มไม่เหลือทางเดินต่อ ทุกกลุ่มใน CHRF ถูกปราบปราม ภาคประชาสังคมเผชิญความท้าทายร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน จึงจำเป็นต้องประกาศสลายตัว และจะบริจาคทรัพย์สินที่เหลืออยู่ราว 1.6 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 6 ล้าน 8 แสน 5 หมื่นบาท) ให้แก่กลุ่มที่เหมาะสมต่อไป CHRF ตั้งขึ้นในปี 2545 ชักชวนคนออกมาชุมนุมตามท้องถนนอย่างสันติอยู่เสมอ บางครั้งมีคนเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน จากคนทั้งเมือง 7 ล้าน 3 แสนคน การชุมนุมหลายครั้งในปี 2562 เกิดจากความไม่พอใจกฎหมายที่เปิดช่องให้ฮ่องกงส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในจีน จนกระทั่งกลายเป็นการเรียกร้องประชาธิปไตย และไม่พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางปราบปรามฝูงชน.-สำนักข่าวไทย

เผยนายกฯมาเลเซียจะลาออกจันทร์นี้

กัวลาลัมเปอร์ 15 ส.ค.- สื่อมาเลเซียรายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซินของมาเลเซียจะลาออกในวันจันทร์ หลังจากเสียเสียงข้างมาก เพราะรัฐบาลผสมเสียงแตก เว็บท่าข่าวมาเลเซียกินีรายงานอ้างนายมูฮัมหมัด ริดวาน หมัด ยูซุฟ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินจะถวายหนังสือลาออกต่อสมเด็จพระราชาธิบดีในวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ และได้แจ้งเรื่องนี้ให้สมาชิกพรรคทราบแล้ว เพราะหมดหนทางที่จะประคองรัฐบาลผสมไว้ได้ต่อไป โดยจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษก่อนเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดี รอยเตอร์ชี้ว่า หากนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินลาออกจริงจะเป็นการยุติการดำรงตำแหน่งที่วุ่นวายมาตลอด 17 เดือน แต่จะทำให้มาเลเซียเข้าสู่ภาวะไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น ในยามที่ต้องรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดหนักและเศรษฐกิจตกต่ำ ยังไม่แน่ชัดว่า ใครจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากไม่มีสมาชิกสภาคนใดกุมเสียงข้างมากในสภาอย่างชัดเจน สมเด็จพระราชาธิบดีในฐานะพระมหากษัตริย์ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญจะทรงตัดสินพระทัยว่าจะดำเนินการใดต่อไป ตามที่ทรงมีพระราชอำนาจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี โดยเลือกจากสมาชิกสภาที่ทรงเห็นว่าสามารถกุมเสียงข้างมากในสภาได้ นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินยืนกรานไม่ลาออกตามกระแสกดดันมาหลายสัปดาห์ และมั่นใจว่าจะสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าครองเสียงข้างมากในสภาด้วยการผ่านการลงมติไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายน เขายอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ว่า สูญเสียเสียงข้างมากที่มีปริ่มน้ำ หลังจากสมาชิกสภาบางคนในพรรคอัมโนที่มีเสียงมากที่สุด ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เขาพยายามเฮือกสุดท้ายหวังให้ฝ่ายค้านลงมติไว้วางใจ ด้วยการรับปากจะปฏิรูปการเมืองและการเลือกตั้ง แต่ถูกปฏิเสธด้วยเสียงเอกฉันท์.-สำนักข่าวไทย

1 609 610 611 612 613 694