Watcharee

ปักกิ่ง 26 เม.ย. – รัฐมนตรีต่างประเทศจีนยืนยันว่า จุดยืนของจีนไม่เปลี่ยนแปลง และเตือนสหรัฐอย่าล้ำเส้นแดงของจีน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน และกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวระหว่างหารือกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐที่กรุงปักกิ่งของจีนในวันนี้ว่า ทัศนคติของจีนคงเส้นคงวาเสมอมา จีนพิจารณาและพัฒนาความสัมพันธ์กับสหรัฐด้วยวิสัยทัศน์ระดับโลกเรื่องการสร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน จุดยืนของจีนไม่เปลี่ยนแปลง โดยจีนยึดมั่นหลักการเคารพซึ่งกันและกัน ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ รวมถึงมุ่งส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐที่มีเสถียรภาพ แข็งแรง และยั่งยืน ซินหัวรายงานว่า นายหวังกระตุ้นเตือนฝ่ายสหรัฐไม่ให้แทรกแซงกิจการภายในของจีน ไม่กดขี่การพัฒนาของจีน หรือล้ำเส้นแดงของจีนในเรื่องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์จากการพัฒนาของจีนด้วยการกล่าวว่า จีนขอเรียกร้องให้สหรัฐปฏิบัติตามหลักการจีนเดียวอย่างเคร่งครัด และชี้ว่าปัญหาไต้หวันถือเป็น “เส้นแดงเส้นแรก” ที่ต้องไม่ก้าวล้ำในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ สหรัฐควรปฏิบัติตามหลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐ 3 ฉบับทั้งทางคำพูดและการกระทำ ควรงดเว้นการส่งสัญญาณผิดๆ สู่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน “เอกราชไต้หวัน” ในทุกรูปแบบ ควรดำเนินการตามคำสัญญาของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะไม่สนับสนุน “เอกราชไต้หวัน” “สองจีน” หรือ “หนึ่งจีน หนึ่งไต้หวัน” รวมถึงไม่แสวงหาการใช้ปัญหาไต้หวันเป็นเครื่องมือยับยั้งจีน นอกจากนั้นจีนเรียกร้องให้สหรัฐยุติการจัดสรรอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ไต้หวัน และสนับสนุนการรวมชาติอย่างสันติของจีนด้วย.-814.-สำนักข่าวไทย

เยรูซาเล็ม 26 เม.ย.- สื่ออิสราเอลรายงานว่า รัฐบาลอิสราเอลยอมลดจำนวนตัวประกันที่ต้องการให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวจากเดิมที่ต้องการให้ปล่อย 40 คน แลกกับการหยุดยิงชั่วคราวในกาซา หลังจากฮามาสปฏิเสธข้อเสนอที่ร่างโดยคณะเจรจากาตาร์ อียิปต์และสหรัฐ เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานอ้างเว็บไซต์ข่าวภาษาฮีบรูซึ่งเป็นภาษาของอิสราเอลหลายแห่งที่รายงานเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลอิสราเอลยินยอมให้ฮามาสปล่อยตัวประกันเพียง 20 คนในระยะแรกของข้อตกลงพักรบ โดยที่ตัวประกันเหล่านี้ต้องเป็นชายหรือหญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป และต้องเป็นผู้ป่วยหนัก เดิมอิสราเอลตั้งเงื่อนไขนี้ในข้อเรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกัน 40 คน แต่ฮามาสยืนยันว่า ไม่มีตัวประกันตามเงื่อนไขดังกล่าวที่ยังมีชีวิตอยู่มากถึง 40 คนตามที่อิสราเอลต้องการให้ปล่อย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดทางตัน คณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลจึงได้อนุมัติเมื่อวันพฤหัสบดีให้คณะเจรจาของอิสราเอลหารืออย่างยืดหยุ่นกับคณะตัวแทนของอียิปต์ที่จะเดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลในวันนี้เพื่อหารือเพิ่มเติมในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ข่าวภาษาฮีบรูเหล่านี้รายงานในเวลาต่อมาอ้างเจ้าหน้าที่อาวุโสอิสราเอลว่า ตัวเลขที่รัฐบาลยินยอมคือ 33 คน ไม่ใช่ 20 คน เป็นไปตามการคำนวณล่าสุดของทางอิสราเอลว่า น่าจะมีตัวประกันสตรี สูงวัยและป่วยที่ยังมีชีวิตอยู่ในกาซาทั้งหมด 33 คน แต่ฮามาสยืนกรานว่า มีเกือบ 20 คนเท่านั้น  รายงานข่าวเหล่านี้ไม่ได้ระบุว่า การพักรบแลกกับการปล่อยตัวประกันจะกินเวลานานเท่าใด เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า ข้อเสนอที่ฮามาสปฏิเสธไปก่อนหน้านี้กำหนดพักรบนาน 6 สัปดาห์ในระยะแรก จากนั้นจะมีการปล่อยตัวประกันชายและทหารอายุไม่ถึง 50 ปี ในระยะที่ 2 […]

ลอสแอนเจลิส 26 เม.ย.- กลุ่มสนับสนุนอิสราเอลจัดการชุมนุมเผชิญหน้ากับกลุ่มสนับสนุนปาเลสไตน์ที่ตั้งเต็นท์ค้างแรมในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส หรือยูซีแอลเอ (UCLA) ของสหรัฐ กลุ่มสนับสนุนอิสราเอลตั้งเวทีถัดจากจุดที่กลุ่มประท้วงการทำสงครามในกาซาตั้งเต็นท์ค้างแรมในมหาวิทยาลัย นำธงชาติอิสราเอลมาโบกและคลุมตัว พร้อมกับใช้เครื่องขยายเสียงตะโกนใส่กลุ่มสนับสนุนปาเลสไตน์ที่เพิ่งมารวมตัวกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งมาชุมนุมอย่างสันติร่วมกระแสการต่อต้านสงครามกาซาที่นักศึกษาในสหรัฐพากันตั้งเต็นท์ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ นักศึกษายูซีแอลเอที่มีทั้งนักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่า นำแผ่นกระดานมากั้นเป็นพื้นที่ตั้งเต็นท์แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวปาเลสไตน์ พวกเขาเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยถอนการลงทุนออกจากบริษัทที่พวกเขาระบุว่า หากำไรจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในกาซาโดยทันที.-814.-สำนักข่าวไทย           

ลิมา 26 เม.ย.- หญิงชาวเปรูที่ป่วยด้วยโรคที่ไม่อาจรักษาให้หายได้ เสียชีวิตแล้วจากการทำการุณยฆาตเป็นรายแรกของประเทศ หลังจากศาลสูงวินิจฉัยให้เธอสามารถทำการุณยฆาตโดยได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ ตามที่เธอยื่นเรื่องร้องขอ อนา เอสตราดา นักจิตวิทยาวัย 47 ปี ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออักเสบมานานกว่า 30 ปี และในช่วง 5 ปีหลัง อาการของเธอแย่ลงเรื่อยๆ ถึงขั้นกล้ามเนื้อเกือบทั้งหมดไม่สามารถใช้การได้ ทำให้เธอไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ มีชีวิตแบบผู้ป่วยติดเตียง และอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจและอยู่ภายใต้การดูแลของบุคคลอื่น ล่าสุด ทนายความของเอสตราดาแจ้งผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า เอสตราดาเสียชีวิตแล้วจากทำการุณยฆาตโดยได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ก่อนหน้านี้ เอสตราดาไม่สามารถทำการุณยฆาตเพื่อจบชีวิตของตัวเองได้ เนื่องจากขัดต่อกฎหมายของเปรูที่ระบุไว้ว่า ผู้ที่มีส่วนช่วยเหลือให้คนคนหนึ่งจบชีวิตตัวเอง จะมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 3 ปี แต่เอสตราดาได้ยื่นคำร้องต่อศาลสูง ระบุว่าสาเหตุที่เธอต้องการทำการุณยฆาต เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอต้องล้มหมอนนอนเสื่อเป็นผู้ป่วยติดเตียง และใช้ชีวิตอยู่กับเครื่องช่วยหายใจ จากโรคที่ไม่มีทางรักษา เธอต้องการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานเพื่อจากไปอย่างมีศักดิ์ศรี ภายใต้การดำเนินงานทางการแพทย์ ต่อมา ศาลสูงเปรูมีคำวินิจฉัยในปี 2566 โดยแม้จะยังยืนยันว่า การทำการุณยฆาตไม่สามารถทำได้ตามกฎหมายในประเทศเปรู แต่ศาลจะยกเว้นไม่เอาผิดกับแพทย์ที่ให้ยาเพื่อช่วยทำการุณยฆาตให้กับเอสตราดา เพื่อให้เธอได้จากไปอย่างมีศักดิ์ศรีตามที่ร้องขอ การทำการุณยฆาตยังคงถือว่าผิดกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในเปรู ซึ่งผู้คนนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นส่วนใหญ่ […]

เวนิส 26 เม.ย.- เวนิส เมืองท่องเที่ยวชื่อดังในอิตาลี กลายเป็นเมืองแรกของโลกที่เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยว หวังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว และป้องกันไม่ให้เมืองมรดกโลกแห่งนี้ได้รับความเสียหายจากนักท่องเที่ยวที่แห่แหนกันมามากเกินไป เมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ในอิตาลี และเป็นวันแรกที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเวนิสแบบไปเช้าเย็นกลับต้องชำระค่าธรรมเนียมเข้าเมืองราคาคนละ 5 ยูโร (ประมาณ 200 บาท) มีจุดจำหน่ายและสแกนค่าธรรมเนียมด้านนอกสถานีรถไฟของเมืองและตามสะพานต่างๆ เกือบทุกแห่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วในจุดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ รอบเมือง ผู้ที่ไม่มีตั๋วอาจเสี่ยงต่อการถูกปรับตั้งแต่ 50 ถึง 300 ยูโร (ราว 1,975-11,850 บาท) เมื่อวานนี้ยังถือเป็นวันแรกจากทั้งหมด 29 วัน ที่นักท่องเที่ยวต้องซื้อตั๋วเข้าเมืองเวนิส หากต้องการไปท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ระหว่างเวลา 08.30 น.-16.30 น. ทั้ง 29 วันดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ระหว่างเดือน พฤษภาคมถึงกรกฎาคมปีนี้ เพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเมืองเวนิสช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่มักจะมีผู้คนแห่ไปท่องเที่ยวพร้อมกันจำนวนมาก และให้ไปเที่ยวในช่วงวันเวลาอื่นแทน เวนิสเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของโลก มีนักท่องเที่ยวพักค้างคืนในเมืองมากถึง 3.2 ล้านคน ในปี 2565 แม้จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองจะมีเพียง […]

นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ประกาศว่า กระทรวงกลาโหมจะตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์และการผลิตสำหรับโดรน และศูนย์ด้านหุ่นยนต์

เบอร์ลิน 20 เม.ย.- สื่อใหญ่ในเยอรมนีรายงานความเห็นของนักวิเคราะห์ว่า รัฐบาลทหารเมียนมากำลังต่อสู้อย่างหนักเพื่อความอยู่รอด แต่ก็ยังคงสามารถระดมสรรพกำลังในการตอบโต้ฝ่ายต่อต้านอย่างหนักหน่วงได้ เว็บไซต์ดีดับเบิลยู (DW) ซึ่งเป็นสื่อระดับโลกของเยอรมนีอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนว่า กองทัพเมียนมากำลังอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างยิ่งและพ่ายแพ้ในศึกหลายด้านทั่วประเทศ หลังจากเสียเมืองเมียวดีที่เป็นเมืองพรมแดนสำคัญให้แก่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (KNU) ซึ่งจับมือกับกลุ่มต่อต้าน เป็นการสูญเสียทางสัญลักษณ์จากการที่ทหารกว่า 600 นายและครอบครัวยอมจำนนโดยดี และสูญเสียทางเศรษฐกิจเพราะเป็นเมืองการค้ากับไทยที่มีการค้าขายสินค้ามูลค่าปีละหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซาชารี อาบูซา นักวิชาการของวิทยาลัยสงครามแห่งชาติในสหรัฐที่ศึกษาเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านที่กำลังสู้รบกับกองทัพเมียนมาใน 8 พื้นที่ไม่มีกลุ่มใดแข็งแกร่งหรือซับซ้อนเป็นพิเศษ เพียงแต่กองทัพเมียนมาตึงตัวจนไม่สามารถแบ่งกำลังพลไปเอาชนะได้ ด้านเดวิด สกอตต์ มาเธียสัน นักวิเคราะห์อิสระมองว่า เมียนมามีพื้นที่กว้างใหญ่มากพอที่จะให้กองทัพล่าถอย ประกอบกับกองทัพมีเครือข่ายฐานที่มั่นและการผลิตอาวุธ การเสียดินแดนจึงยังไม่ได้หมายความว่ากองทัพพ่ายแพ้ ขณะที่โฆษกของเคเอ็นยูเองยอมรับว่า กังวลว่ากองทัพจะตอบโต้อย่างหนัก เพราะที่ผ่านมากองทัพมักใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงเมื่อเสียดินแดน ขณะนี้กองกำลังภายใต้การควบคุมของสภาบริหารแห่งรัฐหรือเอสเอซี (SAC) ที่กองทัพเมียนมาตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2564 กำลังถูกกลุ่มต่อต้านกดดันจนต้องล่าถอยในหลายรัฐทั้งกะฉิ่น ยะไข่ กะยา และฉาน นับจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มจับมือกันตั้งพันธมิตร 3 ภราดรภาพ เปิดฉากปฏิบัติการ1027 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ยึดได้ที่ตั้งทางทหารและเมืองต่าง ๆ ในรัฐฉาน.-814.-สำนักข่าวไทย

นิวยอร์ก 20 เม.ย.- ชายที่จุดไฟเผาตัวเองหน้าศาลในนครนิวยอร์กเสียชีวิตแล้ว หลังจากก่อเหตุในช่วงที่ใกล้เสร็จสิ้นกระบวนการคัดเลือกลูกขุนในคดีโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐปกปิดเรื่องจ่ายเงินปิดปากนักแสดงหนังผู้ใหญ่ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชายคนนี้หยิบปึกใบปลิวออกจากกระเป๋าเป้แล้วโยนขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเทน้ำมันราดตัวเองแล้วจุดไฟ ไฟลุกท่วมตัวเขาอยู่หลายนาทีต่อหน้ากล้องสถานีโทรทัศน์จำนวนมากที่มารอรายงานข่าวทรัมป์ที่หน้าศาลในนครนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ตามเวลานิวยอร์ก ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ใบปลิวมีประโยคที่พูดถึงมหาเศรษฐีปีศาจ แต่ไม่ได้ระบุชื่อทรัมป์โดยตรง ตำรวจนิวยอร์กแถลงหลังเกิดเหตุว่า ชายคนนี้ชื่อแม็กซ์ อัซซาเรลโล เป็นชาวรัฐฟลอริดา อายุ 30 ปีตอนปลาย อาการสาหัส ดูเหมือนไม่ได้มุ่งเป้าหมายไปที่ทรัมป์และผู้เกี่ยวข้องในคดี สันนิษฐานว่าเป็นคนเชื่อในทฤษฎีสมคบคิด ต่อมาสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์และสื่อในสหรัฐหลายแห่งรายงานในเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เขาเสียชีวิตแล้ว เอ็นบีซีนิวส์อ้างตำรวจนิวยอร์กว่า โรงพยาบาลที่รับไปรักษาแจ้งว่าเขาเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ก่อนก่อเหตุ ชายผู้นี้ซึ่งใช้ชื่อตามที่ตำรวจแถลงได้โพสต์ข้อความออนไลน์ว่า จะจุดไฟเผาตัวเอง และขอโทษที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เนื้อหาในโพสต์เตือนเรื่องการทำรัฐประหารเลวร้ายของเผด็จการฟาสซิสต์ วิพากษ์วิจารณ์คริปโทเคอร์เรนซีและนักการเมืองสหรัฐ ช่างภาพรอยเตอร์บันทึกภาพถ่ายเขาถือป้ายอยู่หน้าศาลในวันก่อนหน้าวันก่อเหตุ ข้อความในป้ายระบุว่า ทรัมป์เป็นพวกเดียวกับไบเดน และทั้งคู่เตรียมทำรัฐประหารฟาสซิสต์.-814.-สำนักข่าวไทย

แบกแดด 20 เม.ย.- สหรัฐและอิสราเอลปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดขนาดใหญ่ที่ฐานทัพของกองกำลังในอิรัก เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุโจมตีในอิหร่านเมื่อเช้าวานนี้ กองบัญชาการกลางสหรัฐโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์วันนี้ว่า ได้รับทราบรายงานข่าวที่อ้างว่าสหรัฐใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรัก ขอชี้แจงว่ารายงานเหล่านี้ไม่เป็นความจริง ด้านเจ้าหน้าที่อิสราเอลคนหนึ่งยืนยันกับเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น (CNN) ว่า อิสราเอลไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่กองกำลังระดมพลประชาชนหรือพีเอ็มเอฟ (PMF) ที่เป็นกองกำลังในอิรักแจ้งว่า กองบัญชาการที่ฐานทัพห่างจากกรุงแบกแดดไปทางใต้ 50 กิโลเมตรเกิดระเบิดเมื่อกลางดึกวันศุกร์ ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุว่า เป็นการโจมตีทางอากาศ มีนักรบพีเอ็มเอฟเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 6 คน ด้านพีเอ็มเอฟออกแถลงการณ์ว่า ระเบิดที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายและทำให้มีผู้บาดเจ็บ ขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ พีเอ็มเอฟถือกำเนิดจากกลุ่มติดอาวุธ สมาชิกส่วนใหญ่ใกล้ชิดกับอิหร่าน และต่อมาได้รับการรับรองจากทางการอิรักให้เป็นกองกำลังความมั่นคงอย่างเป็นทางการ กลุ่มที่เป็นพันธมิตรกับพีเอ็มเอฟได้ใช้ขีปนาวุธและโดรนโจมตีกองกำลังสหรัฐในอิรักหลายครั้งในช่วงที่อิสราเอลทำสงครามในกาซา แต่ได้ระงับการโจมตีไปตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เหตุระเบิดในอิรักเกิดขึ้น 1 วันหลังจากเกิดเหตุโจมตีในอิหร่าน โดยมีข่าวว่าเป็นการแก้แค้นของอิสราเอลที่ถูกอิหร่านระดมยิงขีปนาวุธและโดรนหลายร้อยลูกเมื่อกลางดึกวันที่ 13 เมษายน หลังจากสถานทูตอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียถูกโจมตีเมื่อวันที่ 1 เมษายน โดยที่อิหร่านสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล.-814.-สำนักข่าวไทย

มุซัฟฟาร์นาการ์ 20 เม.ย.- ชาวอินเดียมุสลิมเริ่มใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวานนี้ เพื่อเลือกสมาชิกโลกสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู เมืองมุซัฟฟาร์นาการ์เป็นเมืองที่มีประชากรชาวมุสลิมมากที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย ตั้งอยู่ในรัฐอุตตระประเทศ ซึ่งเป็นรัฐทางตอนเหนือที่มีประชากรมากที่สุดในอินเดีย ชาวเมืองเริ่มไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่เปิดฉากขึ้นทั่วประเทศในวันที่ 19 เมษายน เป็นการเลือกตั้งระยะแรกจากทั้งหมด 7 ระยะที่จัดขึ้นไปจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน โดยหวังว่าจะได้ผู้แทนราษฎรคนใหม่ที่เป็นผู้สมัครที่พวกเขาลงคะแนนให้ หลังจากพรรคภารติยะ ชนะตะหรือบีเจพี (BJP) ที่เป็นพรรคชาตินิยมฮินดูผูกขาดปกครองรัฐนี้มาตั้งแต่ปี 2557 ในการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา กระแสชาตินิยมฮินดูเป็น 1 ในประเด็นหลักของการเลือกตั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีไปเป็นประธานในพิธีเปิดวัดพระรามที่เมืองอโยธยา รัฐอุตตระประเทศเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ วัดนี้สร้างบนพื้นที่ที่เชื่อกันว่าเป็นที่ประสูติของพระราม โดยเมื่อปี 2535 ม็อบชาวฮินดูได้รื้อทำลายมัสยิดสมัยคริสตศตวรรษที่ 16 ที่เคยตั้งอยู่บนพื้นที่นี้ นำมาซึ่งเหตุจลาจลทางศาสนาทั่วประเทศ มีคนล้มตายมากถึง 2,000 คน รัฐบาลโมดีและพรรคบีเจพีถูกวิจารณ์ว่า เลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิม 200 ล้านที่เป็นชนกลุ่มน้อยในอินเดียที่มีประชากรทั้งหมดมากกว่า 1,400 ล้านคน หวังเอาใจฐานเสียงที่เป็นชาวฮินดูสายแข็งกร้าว.-814.-สำนักข่าวไทย