ผบ.ตร.เผยตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุปะทะชายแดน

24 ก.ค. – ผบ.ตร. เผยตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา สำรวจจำนวนผู้บาดเจ็บ เคลื่อนย้ายผู้ป่วย หลังปิดปราสาทยุติส่งกำลังเข้าปฏิบัติการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ปะทะบริเวณแนวชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ส่งผลให้มีทหารและประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บ ผบ.ตร. ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอย่างเป็นทางการ โดยในการปฏิบัติการครั้งนี้ ทหารดำเนินการตามภารกิจหลัก ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์กำลังดำเนินการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยครอบคลุมการรักษาความมั่นคงภายใน การอพยพประชาชน การบูรณาการการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย ร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ สำหรับคำถามเรื่องการส่งกำลังเพิ่มเติมเข้าไปสนับสนุน ผบ.ตร. ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้มีการร้องขอจากกองทัพให้ส่งกำลังควบคุมฝูงชนเข้าไปเตรียมความพร้อม เนื่องจากอาจเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างประชาชนทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาเมือนธม แต่เนื่องจากขณะนี้มีคำสั่งปิดปราสาทแล้ว จึงยุติการนำกำลังควบคุมฝูงชนเข้าปฏิบัติการ ย้ำว่าขณะนี้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเป็นหลัก ส่วนตำรวจยังคงเน้นการสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ในแนวหลัง เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทั้งนี้ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ประจำการในแนวบังเกอร์ชายแดนยังคงอยู่ในพื้นที่ตามหน้าที่ เพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับทหารต่อไป.-415-สำนักข่าวไทย

สพฐ.รับข้อห่วงใย “เสมา 1” เร่งดูแลนักเรียน-ครูพื้นที่ชายแดน

ศธ. 24 ก.ค. – สพฐ. รับข้อห่วงใย “เสมา 1” เร่งดูแลนักเรียน-ครูพื้นที่ชายแดน ย้ำความพร้อมรับมือสถานการณ์ มั่นใจความปลอดภัยโรงเรียนพื้นที่เสี่ยง ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดสถานการณ์การสู้รบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กระทรวงศึกษาธิการ นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อนักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด และมอบหมายให้ สพฐ. ติดตามสอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงดูแลความปลอดภัยของนักเรียนและครูในพื้นที่ดังกล่าว สพฐ. จึงได้เน้นย้ำไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนให้มีการดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยในระดับสูงสุดตามที่ได้สั่งการไว้ล่วงหน้าแล้ว และมั่นใจว่าโรงเรียนสามารถดูแลนักเรียนอย่างปลอดภัย ด้วยการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าและการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงเรียนใน “พื้นที่สีแดง” ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดน จำนวนทั้งสิ้น 239 แห่ง ได้มีการจัดสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน และมีการจัดเตรียมระบบสัญญาณเตือน การอพยพเคลื่อนย้ายเด็ก การสำรองอาหาร ยา และอุปกรณ์จำเป็นอย่างเป็นระบบ ทั้งยังมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นระยะ […]

“สุริยะ”สั่ง กพท.-บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “สุริยะ” เผยหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งการ กพท.- บวท. เฝ้าติดตามสถานการณ์-พร้อมอำนวยความสะดวกเครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์และกำหนดแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ พร้อมประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและประเทศชาติ โดยทางด้าน บวท.ได้เร่งดำเนินการทุกกระบวนการด้านความปลอดภัย และพร้อมอำนวยความสะดวกให้เครื่องบินทหารเป็นอันดับแรก ทั้งนี้หน่วยงานได้ดำเนินการตามมาตรการ เร่งด่วนดังนี้ 1.เตรียมพร้อมการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศโดยคำนึงถึงลำดับความสำคัญเร่งด่วน (Prioriy) ตามวิธีปฏิบัติที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติการบินของภารกิจด้านความมั่นคง 2.เตรียมพร้อมการจัดอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดรับกับสถานการณ์และภารกิจที่เกิดขึ้น ทั้งในสถานการณ์ปกติ และสถานการณ์ฉุกเฉิน 3. เตรียมพร้อมให้การสนับสนุน ประสานงานและอำนวยความสะดวกการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ ตามภารกิจพิเศษต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ในทุกมิติ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเที่ยวบินพาณิชย์ ยังคงให้บริการตามปกติ โดย กพท. และ บวท. […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือภาษีสหรัฐ

ทำเนียบฯ 24 ก.ค. – บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือภาษีสหรัฐ ย้ำทุกหน่วยงานต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์ สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2568 หลังเศรษฐกิจไทยประสบปัญหาขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ และสัดส่วนการลงทุนของภาครัฐและเอกชนเมื่อเทียบกับ GDP รัฐบาลจึงจำเป็นต้องแก้ไข ปัญหาโดยเร่งด่วน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยกลับแข็งแกร่งได้อีกครั้ง ตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวงเงิน 157,000 ล้านบาท “งบประมาณถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงขอให้ร่วมกันทบทวนโครงการ อย่างรอบคอบและสอดคล้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน” นายภูมิธรรม กล่าว นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า งบกลางกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท ต้องกันเอามาใช้รองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ ในส่วนของคนทำงานอยากได้อัตราภาษีตามข้อเสนอ สำหรับปัญหาเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ต้องให้นายภูมิธรรม ตอนในเรื่องนี้ ส่วนข้อเสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมให้กับสหรัฐ ทีมไทยแลนด์เตรียมเสนอในวันนี้ จากกระแสข่าวระบุว่าได้เสนอไปแล้วเมื่อวาน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายภาษีแบบตอบโต้ […]

ก.คมนาคม รายงานสถานการณ์อุทกภัย 24 ก.ค.

24 ก.ค. – นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนในการเดินทาง จากสถานการณ์พายุโซนร้อนวิภาที่ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทุกโหมดการเดินทาง ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ ดำเนินมาตรการความปลอดภัยสูงสุด เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ หน่วยงานกระทรวงคมนาคมได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ดังนี้ ทั้งนี้ ประชาชนผู้ประสบเหตุอุทกภัยสามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือจากกระทรวงคมนาคมได้ที่สายด่วน (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) ได้แก่ กระทรวงคมนาคม 1356 ทล. 1586 ทช. 1146 รฟท. 1690 กรมเจ้าท่า 1199 และ AOT Contact Center 1722.-513-สำนักข่าวไทย

“บขส.” แจ้งหยุดการเดินรถโดยสาร 2 เส้นทางภาคเหนือชั่วคราว

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “บขส.” แจ้งหยุดการเดินรถโดยสาร 2 เส้นทางภาคเหนือชั่วคราว กรุงเทพฯ-ทุ่งช้าง และ กรุงเทพฯ-น่าน หลังฝนตกหนัก น้ำท่วมสูง ผู้โดยสารเลื่อนตั๋ว – คืนตั๋วได้ นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ จากผลกระทบของพายุโซนร้อนวิภา ในพื้นที่ จ.น่าน และ จ.พะเยา ส่งผลให้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง และน้ำท่วมฉับพลันในระดับสูง บริเวณถนนเส้นทางสายหลัก ทำให้รถโดยสารผ่านไม่ได้ บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องหยุดการเดินรถโดยสารเป็นการชั่วคราว จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ 1.สายที่ 47 เส้นทาง กรุงเทพฯ – ทุ่งช้าง และ 2.สายที่ 910 เส้นทางกรุงเทพฯ – น่าน จึงขออภัยในความไม่สะดวกไว้ ณ ที่นี้ด้วย […]

“จตุพร” กำชับดูแลสินค้าชายแดน–พื้นที่น้ำท่วม

กรุงเทพฯ​ 24 ก.ค. – รมว.พาณิชย์ ​สั่งกรม​การค้า​ภายใน​ติดตาม​สถานการณ์​สินค้า​อุปโภค​บริโภค​ชายแดน​ไทย-​กัมพูชา​ รวมทั้ง​พื้นที่​ประสบภัย​น้ำท่วม​ ไม่ให้ขาดตลาด–ไม่ให้โก่งราคา​ บรรเทา​ความเดือดร้อน​ของ​ประชาชน​ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ชายแดนเฝ้าระวังและดูแลการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนหรือการจำหน่ายในราคาที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้สั่งการให้ติดตามพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อน “วิภา” โดยเร่งดูแลการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังผู้ประสบภัย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสิ่งของจำเป็นได้อย่างต่อเนื่องและไม่ต้องเผชิญภาวะขาดตลาดหรือราคาสูงผิดปกติ ขณะนี้​กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเร่งประสานกับภาคเอกชนเพื่อกระจายสินค้าจำเป็นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมขอให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแลให้มีสินค้าเพียงพอและราคายุติธรรม หากพบปัญหาการกักตุนหรือการปรับขึ้นราคาสินค้าเกินควร สามารถแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร. 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.​ -512 – สำนักข่าว​ไทย​

รมว. ศธ.สั่งปิดโรงเรียน​ชายแดนสุรินทร์​-ตั้งศูนย์​พักพิง​

กรุงเทพฯ​ 24​ ก.ค.​- รมว.ศึกษาธิการ สั่งปิดโรงเรียนชายแดนสุรินทร์ หลังเกิดเหตุปะทะไทย-กัมพูชา พร้อมจัดแผนหลบภัยดูแลนักเรียน​ ตลอด​จนตั้งศูนย์​พักพิง​รองรับ​นักเรียน​และครอบครัว​ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ความไม่สงบจากเหตุปะทะระหว่างกำลังความมั่นคง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ก.ค.) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และสั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในเขตที่เกิดเหตุปะทะเป็นการชั่วคราว “ดิฉันกำชับให้โรงเรียนชายแดนจัดทำแผนรับมืออย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการเตรียมหลุมหลบภัยหรือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน รวมถึงสั่งตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อรองรับนักเรียนและครอบครัวที่อาจต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง” ศ.ดร.นฤมล กล่าว กระทรวงศึกษาธิการจะประเมินสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และจะพิจารณาเปิดเรียนตามปกติเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเรียนการสอนของนักเรียนในระยะยาว. -512-สำนักข่าว​ไทย​

ตลาดทุนจับตาสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “ตลาดทุน-ตลาดเงิน” จับตาสถานการณ์ชายแดน และความคืบหน้าเจรจาภาษีไทย-สหรัฐ ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.11/13 บาท/ดอลลาร์ฯ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.15 บาท/ดอลลาร์ฯ เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า หลังดอลลาร์สหรัฐและราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลง โดยตลาดยังคงจับตาดูความคืบหน้าของการเจรจาภาษีสหรัฐทั่วโลก รวมถึงการต่อรองการค้าไทยกับสหรัฐฯ เป็นหลัก รวมถึงปัจจัยใหม่ที่เข้ามาคือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดความบานปลาย สถานการณ์นี้กำลังถูกจับตามองจากสื่อระหว่างประเทศ และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศในระยะยาวและสร้างปัจจัยเสี่ยงเพิ่ม DOWNSIDE GDP ไทยในช่วงครึ่งหลังปี 68 เป็นต้นไป จากตัวเลข NET EXPORTS (การค้าระหว่างประเทศ) ที่มีสัดส่วนราว 5% ของ GDP โดยกัมพูชามีดุลการค้ากับไทยราว 8 พันล้านเหรียญฯ ณ ปี 2567 (ไทยเกินดุลการค้ากับกัมพูชาเป็นอันดับ 2) หากพิจารณา 10 […]

ส่งออกไทย มิ.ย.ขยายตัว 15.5% คาด ก.ค.ชะลอตัวจากภาษีทรัมป์

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – ส่งออกไทยเดือน มิ.ย.ขยายตัว 15.5% คาด ก.ค.ชะลอตัวจากภาษีทรัมป์ และเงินบาทแข็งค่า โดยส่งออกไทยครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ 15.0 เหตุผลหลักผู้นำเข้าสหรัฐฯ เร่งนำเข้าสินค้าจากไทยปิดความเสี่ยงผลกระทบภาษี นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ แถลงการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่า 28,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (938,533 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ที่ร้อยละ 15.5 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 15.6 การชะลอการใช้มาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้นำเข้าในสหรัฐฯ เร่งนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้นเพื่อปิดความเสี่ยงด้านราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเติบโตได้ดี ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัล ขณะที่สินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะผลไม้สดและแช่แข็งฟื้นตัวกลับมาได้ดีในเดือนนี้ เช่นเดียวกับ มันสำปะหลัง น้ำมันปาล์ม น้ำตาลทราย ไก่แปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง ต่างขยายตัวในเดือนนี้ ทั้งนี้ การส่งออกครึ่งแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ […]

รมว.ศธ.ให้ ผอ.ปิดโรงเรียนได้ตามเหมาะสม หนีพายุวิภา

ก.ศึกษาธิการ 23 ก.ค. – รมว.ศึกษาธิการ สั่งเตรียมพร้อมรับพายุ “วิภา” ให้ ผอ.พิจารณาปิดโรงเรียนได้ ตามเหมาะสม เร่งให้ความช่วยเหลือ รร.ได้รับผลกระทบด่วน ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับทราบรายงานสถานการณ์สถานศึกษาได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” ส่งผลให้สถานศึกษาได้รับผลกระทบและน้ำท่วม จำนวน 5 โรงเรียน ประกอบด้วย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จังหวัดชุมพร จำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านเขาบ่อ โรงเรียนบ้านคันธทรัพย์ โรงเรียนบ้านนางคอย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จังหวัดสกลนคร จำนวน 1 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านพังโคน (จำปาสามัคคีวิทยา) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จำนวน 1 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านกุดเม็ก สำหรับสถานศึกษาที่ทำการปิดเรียน มีจำนวน 496 แห่ง ในพื้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จังหวัดน่าน […]

พ่อแม่ “น้องเมย” พร้อมเข้าพบ ผบ.ตร. ติดใจเรื่องการเลื่อนยศคู่กรณี

กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – พ่อแม่ “น้องเมย” พร้อมเข้าพบ ผบ.ตร. อยากขอความเมตตาพิจารณาว่าคู่กรณีสมควรเป็นตำรวจต่อหรือไม่ นายพิเชษฐ และนางสุกัลยา พ่อแม่ของ “น้องเมย” ให้สัมภาษณ์บอกว่า หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อต้องขอปรึกษาทนายความก่อน ที่ผ่านมาจนถึงชั้นศาลฎีกา ครอบครัวก็เหนื่อยมากแล้ว ตอนนี้ขอให้ทนายความดำเนินการ ส่วนเรื่องทางคดีคงไม่พูดต่อ เพราะไม่อยากก้าวล่วงศาล ยอมรับว่าความรู้สึกในใจรู้สึกขัดแย้งในฐานะครอบครัวที่ต้องสูญเสียลูกชาย แต่เห็นผู้กระทำเติบโตในหน้าที่ข้าราชการตำรวจ อยากฝากถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าคู่กรณียังสมควรที่จะเป็นตำรวจอยู่หรือไม่ ซึ่งที่ ผบ.ตร. บอกว่าขณะเกิดเหตุคู่กรณีไม่ได้อยู่สถานะตำรวจ จะดำเนินการทางวินัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจปี 2565 ไม่ได้นั้น มองว่าไม่น่าใช่ เพราะตอนนั้นเขาเลือกเหล่ามาแล้วว่าเป็นเหล่าตำรวจ อย่างลูกตนก็เลือกเหล่านายร้อย จปร. มันชัดเจนอยู่แล้ว แต่เข้าใจว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มาทีหลังก็ไม่ได้กล่าวโทษท่าน แต่อยากฝากขอความเมตตากับท่าน โดยครอบครัวติดใจเรื่องการเลื่อนยศของคู่กรณี เพราะยศขึ้นเร็วมาก จาก ร.ต.ต. เป็น ร.ต.ท. อยากรู้ว่าคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ทราบหรือไม่ ส่วนที่ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าอยากจะพบเพื่อพูดคุยกับครอบครัวเป็นการส่วนตัว ตนมองว่าเป็นเรื่องดี […]

1 54 55 56 57 58 791